จู่ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออก
ฟู่เฉินหวนบุกเข้ามาในห้อง แต่เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นใครนอกจากลั่วชิงยวน
ลั่วชิงยวนตกตะลึง
ทั้งคู่จ้องมองกันและกัน
ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว จากนั้นก็หันหลังกลับและจากไป
ลั่วชิงยวนไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้?
หลังจากที่ฟู่เฉินหวนจากไป ซูโหยวก็รีบเชิญหมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นลั่วชิงยวนจึงขอ
ให้เขาตรวจชีพจรของนาง
หลังจากตรวจชีพจรแล้ว ซูโหยวก็พาเขาไปโดยไม่พูดอะไร
ภายในห้องตำรา
หมอหลวงกล่าวด้วยความเคารพต่อฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง พระชายามิได้ตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เฉินหวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ท่านตรวจชีพจรของนางชัดเจนแล้วหรือยัง?”
หมอหลวงตอบว่า “อย่าได้กังวลพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง กระหม่อมเป็นหมอหลวงมาหลายปีแล้วและได้วินิจฉัยชีพจรของเหล่าสนมในวังนับไม่ถ้วน กระหม่อมไม่มีวันตรวจชีพจรพลาดอย่างแน่นอนเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”
ฟู่เฉินหวนพยักหน้า ความสงสัยของเขาหายไปแล้ว แต่กลับมีความกังวลฉายชัดในดวงตาของเขา
“มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับร่างกายและจิตใจของนางหรือไม่?”
ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดและพูดว่า “มียาตัวใดบ้างที่ทำให้มิอาจสังเกตเห็นอาการของพิษได้ในตอนแรกที่กิน รวมทั้งมิอาจสัมผัสสิ่งผิดปกติของชีพจรได้ แต่จะค่อย ๆ ทำให้เกิดความสันสนทางจิต”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หมอหลวงก็ขมวดคิ้วด้วยความสับสน ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “กระหม่อมมิเคย
เห็นยาประเภทนี้มาก่อน แต่กระหม่อมไม่กล้าบอกว่าไม่มีอยู่จริงพ่ะย่ะค่ะ”
“กระหม่อมจะกลับไปอ่านตำราแพทย์เพื่อตรวจดูว่ามีสิ่งใดเป็นเช่นนี้หรือไม่”
ฟู่เฉินหวนพยักหน้า “ขอบคุณ”
จากนั้นซูโหยวก็ส่งหมอหลวงกลับไป
ภายในห้อง ลั่วชิงยวนกำลังอ่านตำราและไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...
หายยาววววววววววววว😒😒😒...
อัพต่อหน่อยค่ะแอด พลีสสสสสสสสสสสส...