“เหอะ ข้าเคยเพลิดเพลินกับการปฏิบัติเช่นนี้ในตำหนักอ๋องตั้งแต่เมื่อใดกัน?” ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะถอนหายใจ และเริ่มใช้ตะเกียบคีบอาหาร
จือเฉาพูดด้วยรอยยิ้ม “คราวนี้ท่านอ๋องได้ยึดครองหอร่ำเมลัยทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นเขาจึงปิดหอและเชิญพ่อครัวผู้นี้มายังตำหนัก จากนี้ไปเขาจะทำอาหารให้พระชายาเพียงผู้เดียวเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกใจมาก “เขารับช่วงต่อหอร่ำเมลัยหรือ?”
เยี่ยมมาก นางสามารถสร้างกำไรได้อีกแล้ว
นางครุ่นคิดขณะรับกินอาหาร “เช่นนี้ข้าต้องคิดว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าข้าจะกินอะไร”
ไม่กี่วันต่อมา ลั่วชิงยวนก็ได้รับการดูแลอย่างพิถิพิถัน อีกทั้งคนรับใช้ทุกคนในตำหนักอ๋องยังให้ความเคารพต่อนาง ไม่ว่านางต้องการอะไรหรืออยากกินอะไร เพียงแค่พูดทุกคนก็พร้อมตามใจนางแล้ว
หมอหลวงมาตรวจชีพจรของนางทุกวันและสั่งยาให้แก่นาง
ฟู่เฉินหวนยังมาหานางทุกคืน เขานั่งลงแล้วคุยกับนางเกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องคดีตระกูลฝู
ฝูว่านเจิงและฝูจ้าวถูกประหารชีวิตด้วยกันทั้งคู่ และด้วยการสอบสวนเชิงลึกของฟู่เฉินหวนทำให้รู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
ไม่เพียงแต่เจ้ากรมกลาโหมเท่านั้น แต่ยังมีขุนนางอีกหลายคน คนเหล่านั้นจึงถูกตัดศีรษะหรือเนรเทศ
ออกจากตระกูล
นี่นับว่าเป็นคดีสำคัญที่ทำให้ทั้งราชสำนักสั่นคลอน ผู้คนในราชสำนักต่างตกอยู่ในอันตราย ทว่าตระกูลเหยียนซึ่งอยู่เบื้องหลังนั้นไม่สามารถสาวความผิดใดไปถึงได้เลย
จะเห็นได้ว่า ตระกูลเหยียนนั้นระมัดระวังเพียงใดในการติดต่อกับตระกูลฝู พวกเขาไม่ทิ้งเบาะแสหรือหลักฐานใด ๆ ไว้เลย
สำหรับเจ้ากรมกลาโหมด้วยตำแหน่งขุนนางที่เขามีอยู่ก็เพียงพอที่จะโน้มน้าวให้ผู้อื่นทำตามสิ่งที่เขาปรารถนาได้โดยไม่ต้องมีใครบงการอยู่เบื้องหลังเขาก็ได้
คดีนี้สร้างความฮือฮาในเมืองหลวงเป็นอย่างมาก รวมทั้งสร้างชื่อเสียงให้ลั่วชิงยวนด้วยเช่นกัน
เพื่อสอบสวนคดีนี้นางถึงกับแกล้งปลอมเป็นนางรำและเข้าไปในหอนางโลมเพื่อใกล้ชิดกับตระกูลฝู ถือเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่มาก
การกระทำของลั่วชิงยวนก็เป็นที่เล่าลื่อกันในตลาดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง นางจึงได้รับความรักจากผู้คนมากมายอย่างลึกซึ้ง
เป็นเวลาหลายวันติดต่อกันที่ผักและผลไม้สดถูกนำมาส่งที่หน้าตำหนักอ๋อง ถึงจะไม่เห็นคนส่งผัก แต่ผักและผลไม้ก็กระจัดกระจายอยู่หน้าประตูตำหนัก
ลั่วเยวี่ยอิงโกรธเสียจนแทบสิ้นสติ หลังจากได้ยินข่าวดีของลั่วชิงยวน นางโกรธมากจนขว้างถ้วยชาทิ้งอยู่ทุกวัน
นางทำได้เพียงหันไปหาเหยียนผิงเซียวเพื่อขอความช่วยเหลือเท่านั้น
“ข้าควรทำเช่นไรดี? แม้แต่ไทเฮาก็มิสามารถจัดการลั่วชิงยวนได้ ข้าควรทำเช่นไร?” ลั่วเยวี่ยอิงกระทืบเท้าด้วยความโมโห
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...
หายยาววววววววววววว😒😒😒...
อัพต่อหน่อยค่ะแอด พลีสสสสสสสสสสสส...