ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 631

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลั่วชิงยวนก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ได้ ข้าจะตามเจ้าเข้าวัง”

นางไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ เพราะนางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหลิวไท่เฟยเลย

แต่เนื่องจากคนในวังกำลังจะสร้างปัญหาให้กับนาง นางจึงต้องเข้าไปเพื่อเผชิญหน้า

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่มาตามหานางในครั้งนี้ไม่ใช่ไทเฮา

ทว่า ก่อนออกเดินทางลั่วชิงยวนยังคงฝากข้อความทิ้งไว้ให้จือเฉา หลังจากที่ฟู่เฉินหวนกลับมาเขาก็ได้รู้ข่าวที่นางเข้าไปในวังเพื่อพบกับหลิวไท่เฟย

จากนั้นลั่วชิงยวนก็ติดตามป้าถานสี่เข้าไปในพระราชวัง

ที่พำนักของหลิวไท่เฟยค่อนข้างเงียบสงบ ตำหนักเองก็เงียบสงบมากเช่นกัน มีนางกำนัลในตำหนักไม่มากนักและทั้งสวนก็เงียบสงบมาก การแต่งกายก็เรียบง่ายและสง่างามไม่น้อย

เมื่อนางเห็นหลิวไท่เฟย อีกฝ่ายแต่งกายเรียบง่าย ถือลูกประคำในมือ กลิ่นไม้จันทน์หอมอบอวล

เมื่อนางเห็นซูชิงอู่ นางก็มีทีท่าใจดีและดูเป็นมิตร “พระชายามาถึงแล้วหรือ?”

ลั่วชิงยวนโค้งคำนับทำความเคารพ “ถวายพระพรหลิวไท่เฟยเพคะ!”

“ที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์มากมาย เชิญเจ้านั่งลงเถิด” หลิวไท่เฟยยิ้มอย่างอ่อนโยน โดยไม่มีทีท่าวางอำนาจแต่อย่างใด

หลิวไท่เฟยดูอ่อนกว่าไทเฮาหลายปี นางมีอายุเพียงสามสิบเศษเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นไท่เฟยแล้ว

ทว่า เมื่ออายุเกินสามสิบปีนี้ แม้จะแต่งกายเรียบง่าย ถือลูกประคำ และเป็นผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา แต่นางก็ไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจ

แม้ว่าใบหน้าจะเป็นมิตร แต่ความเฉียบแหลมที่ซ่อนอยู่ในดวงตาและคิ้วที่เชิดแหลมก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นความทะเยอทะยานในดวงตา

“ใกล้จะถึงมื้อกลางวันแล้ว ข้าให้คนเตรียมของกินไว้ แต่ตัวข้านับถือในพระโพธิสัตว์จึงไม่อาจกินเนื้อหรือปลาได้ วันนี้ข้าคงทำให้พระชายาน้อยใจแล้ว” หลิวไท่เฟยยิ้มอย่างอบอุ่น

“หามิได้พคะ” ลั่วชิงยวนพยักหน้าอย่างเข้าใจ

เมื่อนางกำนัลยกน้ำชา ภายในห้องก็เหลือเพียงลั่วชิงยวนและหลิวไท่เฟย หลิวไท่เฟยกล่าวว่า “ข้าไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพระชายากับเจ้าเจ็ดลูกชายของข้าเป็นเช่นไร”

เจ้าเจ็ด ลูกชายของนางงั้นหรือ?

คำพูดนี้ช่างฟังดูอบอุ่นใจจริง ๆ

หลิวไท่เฟยไม่เพียงมีความเมตตาต่อองค์ชายเจ็ดเท่านั้นหรือ? แต่นางไม่ใช่มารดาผู้ให้กำเนิดและองค์ชายเจ็ดก็ไม่ได้ถูกนางเลี้ยงดูภายใต้ตัวนางเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย