ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 632

หลิวไท่เฟยคุกเข่าลงทันที

ลั่วชิงยวนตกใจมากจึงรีบเข้าไปพยุงนางพร้อมกับเอ่ยว่า “หลิวไท่เฟย หม่อมฉันรับไม่ไหวหรอกเพคะ!”

“ลุกขึ้นเถิดเพคะ!”

ทว่า หลิวไท่เฟยกลับผลักนางออกไปและยืนกรานที่จะไม่ลุกขึ้นพลางวิงวอนว่า “พระชายา ข้าขอร้องเจ้า!”

“เจ้าเจ็ดเป็นเช่นนี้ ข้ากังวลมากจริง ๆ! เมื่อเขามั่นคงแล้วเท่านั้น ข้าคงจากไปได้หมดห่วง!”

คำพูดนี้ทำให้ลั่วชิงยวนงงงวย นางจึงเอ่ยถามว่า “จากไปหรือเพคะ หลิวไท่เฟยจะไปที่ใดกัน?”

หลิวไท่เฟยก้มศีรษะลง รู้สึกเขินอายเล็กน้อย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็พูดขึ้นว่า “แม้ว่าข้าจะเป็นไท่เฟย แต่ข้าหาได้มีสถานะใดเลยในวังหลังแห่งนี้ไม่”

“แม้ว่าข้าจะเคยเป็นนางสนมคนโปรดของจักรพรรดิ แต่ข้าก็ไม่อาจให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวใน

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา นี่จึงเป็นเรื่องยากสำหรับข้าที่จะอยู่รอดในวังหลวงนี้ได้”

“ข้าเชื่อในพระโพธิสัตว์ เพราะหลายปีมานี้ข้าตกอยู่ในภวังค์ฝันร้าย มีเพียงการสวดพระสูตรทุกวันเท่านั้นที่ทำให้ข้าสงบจิตสงบใจลงได้”

“แต่ช่วงนี้ข้ารู้สึกหมดพลังใจ”

“ข้ากลัวว่าสักวันข้าจะไม่อาจตื่นขึ้นมาได้อีก ข้าจะนิ่งเฉยและไม่ใส่ใจเจ้าเจ็ดได้เช่นไร หากวันหนึ่งเขาต้องตายลง เขาจะเอาหน้าที่ไหนไปพบกับท่านแม่ของเขาได้”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ลั่วชิงยวนก็เริ่มสนใจ

นางดูใบหน้าของหลิวไท่เฟยซึ่งแท้จริงแล้วใบหน้านั่นถูกปกคลุมไปด้วยออร่าสีเขียวจาง ๆ แต่ไม่ร้ายแรงมากนัก

เมื่อสภาพจิตใจหรือร่างกายของนางไม่มั่นคง ย่อมมีสภาพเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ

“ฝันร้ายแบบใดหรือเพคะ?”

หลิวไท่เฟยส่ายหน้า เพราะนางเจ็บปวดเกินกว่าจะพูดถึงเรื่องเหล่านั้น

“ขอหม่อมฉันเดินดูรอบ ๆ ได้หรือไม่เพคะ?” ลั่วชิงยวนถาม

"เชิญตามสบาย"

เช่นนั้นหลิวไท่เฟยจึงเดินไปรอบ ๆ ตำหนักพร้อมกับลั่วชิงยวน

ภายในมีห้องพระขนาดใหญ่ซึ่งเป็นส่วนที่แพงที่สุดของตำหนักทั้งหมด มีพระพุทธรูปปั้นด้วยองค์ทองคำประดิษฐานอยู่ นอกจากนี้ ทั้งตำหนักก็เงียบสงบ แม้ว่าจะมีพื้นที่กว้างขวางและดูจากภายนอกก็งดงาม แต่แท้จริงแล้วการตกแต่งภายในนั้นเรียบง่ายเป็นอย่างมาก

ห้องที่หลิวไท่เฟยนอนหลับเต็มไปด้วยพระพุทธรูปและโต๊ะหมู่บูชา ทั่วทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของไม้จันทน์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย