พระตำหนักที่นี่ถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ มีรอยไหม้อยู่ทุกที่ อีกทั้งพระตำหนักก็พังทลายลงหลายแห่ง กลายเป็นซากปรักหักพัง
ทั้งสองเดินเข้าไปข้างในอย่างช้า ๆ เมื่อก้าวเท้าเหยียบเศษซากเหล่านั้นก็เกิดเสียงดังขึ้นทันที
เข็มทิศในอ้อมแขนของลั่วชิงยวนมีปฏิกิริยาอย่างชัดเจน นางยังคงเดินหน้าเข้าไปต่อ
เมื่อเข้าไปในห้องโถงด้านใน ม่านที่ถูกไฟไหม้ก็พลิ้วไหวราวกับผ้าขี้ริ้ว ทันทีที่ลมกระโชกแรงพัดเข้ามาหานาง ร่างสีดำก็พุ่งออกมาข้างหน้าพร้อมกับเสียงกรีดร้องอันโศกเศร้าที่ดังก้องอยู่ในหูของลั่วชิงยวน
ลั่วชิงยวนหลบไปด้านข้าง นางรีบดึงฟู่เฉินหวนออกไปอย่างรวดเร็ว “ระวัง!”
ฟู่เฉินหวนเฝ้าดูรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง เขามิอาจสัมผัสได้ถึงสิ่งใดเลยนอกจากสายลม
ขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังเฝ้าดูสิ่งที่กำลังหลบหนี นางจึงหยิบเข็มทิศของนางออกมาทันที วงเวทย์สีทองก็ปรากฏขึ้นมาปิดกั้นเส้นทางของสิ่งนั้นทันที
ร่างของสตรีที่ลอยอยู่ในอากาศค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในสายตาของลั่วชิงยวน
ผมสีดำซึ่งยาวมาก ปลายผมไม่สม่ำเสมอ มีร่องรอยจากการถูกไฟเผา และแม้แต่ประกายไฟติดอยู่บางส่วน
ใบหน้าของสตรีผู้นั้นเต็มไปด้วยรอยแผลที่ถูกไฟเผา ดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความเกลียดชัง “เหตุใดเจ้าถึงเข้ามายุ่งเรื่องของผู้อื่น?!”
ลั่วชิงยวนถามกลับ “เหตุใดเจ้าถจึงจงเกลียดจงชังหลิวไท่เฟยถึงเพียงนี้? เหตุใดจึงมาตามหลอกหลอนพระนางเช่นนี้?”
สิ่งนี้มีสติสัมปชัญญะและสามารถไปยังตำหนักหลิวไท่เฟยเพื่อทำร้ายหลิวไท่เฟยได้อย่างไม่ทิ้งร่องรอย หากมิใช่เพราะมีคนจงใจเลี้ยงดูมันขึ้นมา มันก็คงจะฝึกฝนบางอย่างเช่นเดียวกับหลินฝูเสวี่ย
“เจ้ามาที่นี่เพื่อนางงั้นรึ? ผู้สมรู้ร่วมคิด! เจ้าก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย! ไปลงนรกเสีย!”
ใบหน้าของสตรีผู้นั้นเต็มไปด้วยความดุร้าย ทันใดนั้นนางก็ยื่นมือออกพร้อมกับเล็บอันแหลมคมเข้ามาโจมตี
ลั่วชิงยวนตอบสนองอย่างรวดเร็วและหลบเลี่ยง ทว่า เป้าหมายการโจมตีของสตรีผู้นั้นมิใช่นาง แต่เป็นฟู่เฉินหวนซึ่งอยู่ด้านหลังของนางไม่ไกล
ฟู่เฉินหวนรู้สึกเพียงรังสีอันแหลมคมที่กำลังพุ่งเข้ามา เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของเขาก็ล้มลงกับพื้น
ขณะที่เล็บอันแหลมคมของสตรีผู้นั้นแทงฟู่เฉินหวนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีทองที่ระเบิดออกมาก็สะท้อนสตรีผู้นั้นให้กระเด็นออกไป
ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพเหล่านี้ นางเกือบลืมไปว่าฟู่เฉินหวนได้รับการปกป้องด้วยพลังมังกร
นางเหวี่ยงโซ่อักขระออกไปทันที พร้อมกับร่ายอาคมเพื่อจัดการสตรีผู้นั้นอย่างรวดเร็ว โซ่อักขระพันรอบตัวนาง จากนั้นดวงแก้วก็ตกลงบนฝ่ามือของนาง
พระตำหนักค่อย ๆ กลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง กลิ่นอายอันดุร้ายก็ค่อย ๆ เลือนหายไปเช่นกัน
ฟู่เฉินหวนลุกขึ้นแล้วเดินไปดูดวงแก้วในมือของนางด้วยความงุนงง เขาเคยเห็นสิ่งเดียวกันนี้ที่หอนางโลม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...
หายยาววววววววววววว😒😒😒...
อัพต่อหน่อยค่ะแอด พลีสสสสสสสสสสสส...