ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 652

ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อนางหันกลับมาก็พบว่าเป็นหลิวไท่เฟยที่กำลังยิ้มอยู่

ลั่วชิงยวนพยักหน้าเล็กน้อย

หลิวไท่เฟยชวนนางไปที่พระตำหนัก “เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”

ลั่วชิงยวนมองไปที่สวนหลังพระตำหนักอันเงียบสงบ นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้า “เพคะ”

ขณะที่นางเดินเข้าไปในพระตำหนัก กลิ่นเลือดก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

มีรอยเลือดฝังรากลึกอยู่บนพื้นซึ่งเดิมเป็นกองซากปลาที่ถูกผ่าครั้งที่แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอนนั้นทำความสะอาดเลือดไม่ทั่วถึงหรือไม่

ในขณะที่เดินผ่านไปนางก็ยังคงได้กลิ่นคาวเลือด

นางให้ความสนใจกับท่าทางของหลิวไท่เฟยเป็นพิเศษ แต่กลับไม่มีความผิดปกติใด ๆ ขณะที่นางเดินผ่าน นางไม่รู้ว่าถานสี่อธิบายให้อีกฝ่ายฟังเรื่องที่ปลาเหล่านั้นหายไปแล้วเช่นไร

เมื่อเข้ามาในห้อง ความมืดทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เมื่อมองไปรอบ ๆ นางก็พบว่าหน้าต่างทุกบานถูกปิดไว้ทั้งหมด

“หลิวไท่เฟยเพคะ เหตุใดจึงต้องปิดหน้าต่าง?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความสับสน

หลิวไท่เฟยยิ้มและพูดว่า “บอกตามตรง ห้องนี้เป็นห้องที่ข้าขังตัวเองไว้ยามที่ข้าเสียสติ”

ขณะที่หลิวไท่เฟยพูด นางก็ดึงกล่องออกมาจากใต้เตียงซึ่งมีแถบผ้าเปื้อนเลือดเต็มไปหมด

กลิ่นเลือดคละคลุ้งรุนแรง

ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ

เมื่อหลิวไทยเฟยเห็นความสับสนบนใบหน้าของอีกฝ่าย นางจึงยกแขนเสื้อขึ้นอีกครั้งและแสดงรอยแผลเป็นบนแขนของนาง ก่อนที่นางจะยิ้มจาง ๆ แล้วพูดว่า “ข้าไม่เพียงแต่จะทำร้ายปลาเท่านั้น แต่ยังทำร้ายตัวข้าเองด้วย”

ลั่วชิงยวนตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ปลาเหล่านั้นถูกหลิวไท่เฟยฆ่าจริง ๆ...

หลิวไท่เฟยค่อย ๆ นั่งลงและยิ้มอย่างขมขื่น “ข้ารู้ว่าวันนี้เจ้าต้องการถามสิ่งใด?”

นางมองไปที่ลั่วชิงยวนอย่างจริงจัง ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า “กลียุคในวังเกี่ยวข้องกับข้าอย่างมาก”

“หากมิใช่เพราะข้า เสียนเฟยคงมิตาย”

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าฝันถึงนาง ฝันถึงผู้คนที่ตายลงจากเหตุกลียุคในวัง พวกเขาเหล่านั้นตะโกนเรียกร้องให้ข้าชดใช้ความผิดด้วยชีวิตของข้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย