ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 659

คำพูดนี้หมายถึงนางกับฟู่เฉินหวนหรือไม่?

ใช่แล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลงเรือลำเดียวกันแล้ว

“เช่นนั้น ยินดีต้อนรับท่านเข้าร่วม” ลั่วชิงยวนยกยิ้ม

ฟู่จิ่งหลีหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “หลังจากที่ท่านกลับไปแล้ว ท่านต้องบอกข้าทุกอย่าง”

“ไม่มีปัญหา”

ทั้งสองออกจากวังและกลับไปยังตำหนักอ๋อง

หลังจากที่ลั่วชิงยวนทายาและพันผ้าพันแผลให้ตัวเองแล้ว นางก็บอกฟู่จิ่งหลีทุกอย่างเกี่ยวกับหลิวไท่เฟยรวมทั้งเบาะแสที่ได้รับจากเจินหลัน

ในความเป็นจริง สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่ฟู่จิ่งหลีต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เช่นนั้นลั่วชิงยวนจึงค่อย ๆ อธิบายให้เขาฟัง

ทว่า ช่วงเวลาอันเงียบสงบนั้นช่างสั้นนัก

มีคนมาถึงตำหนักแล้ว

แม่นมเติ้งรีบเข้ามาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงประหม่าว่า “พระชายา นางกำนัลจิ่นชูจากพระตำหนักโช่วสี่มาที่นี่เจ้าค่ะ คราวนี้นางมาพร้อมกับราชองครักษ์!”

“นางมาถึงแล้ว” ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา

นางยืนขึ้นและมุ่งหน้าไปที่ลานตำหนักโดยมีจือเฉาคอยประคองอยู่ด้านข้าง

จิ่นชูยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า ตามมาด้วยกลุ่มราชองครักษ์ซึ่งดูองอาจและไม่เป็นมิตร

“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ มีเหตุไฟไหม้ในวังหลวงและหลิวไท่เฟยก็ถูกฝังอยู่ในกองไฟขนาดใหญ่นั้นด้วย หลังจากการสอบสวนพบว่าท่านอยู่ในพระตำหนักของหลิวไท่เฟยในตอนที่เกิดเหตุ โปรดเข้าวังไปกับข้าและยอมรับการสอบสวนด้วยเจ้าค่ะ”

วันนี้น้ำเสียงของจิ่นชูก็เย็นชา นางดูแตกต่างไปจากครั้งก่อนที่นางมาตำหนักอ๋องอย่างสิ้นเชิง

“ข้าเพิ่งกลับมาจากวังหลวง วันนี้หลิวไท่เฟยเชิญข้าเข้าไปในพระตำหนัก ข้าได้กลิ่นเลือดอยู่ในห้องจึงอยากจะออกไป ทว่าหลิวไท่เฟยกลับดึงข้าแล้วจุดไฟเผาข้า นางอยากจะฆ่าข้าให้ตายไปด้วย ข้าหนีรอดมาได้”

“เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ง่ายเลย”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ สายตาของจิ่นชูก็เฉียบคม นางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรว่า “ท่านหมายความว่าหลิวไท่เฟยต้องการฆ่าท่านงั้นหรือ?”

ลั่วชิงยวนพูดอย่างใจเย็น “ข้ามิได้พูดเช่นนั้น ข้ามิรู้ว่าเหตุใดหลิวไท่เฟยจึงอยากลากข้าให้ตายไปกับนางด้วย"

จิ่นชูถามอีกครั้งว่า “ท่านมีความแค้นกับหลิวไท่เฟยหรือไม่?”

“ไม่มี”

“แล้วเหตุใดนางถึงอยากฆ่าท่านเล่า?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย