ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 66

ช่วงเวลาเดียวกัน

ห้องตำรา

ซูโหยวลังเลอยู่นาน ถึงจะเดินเข้าไปในห้องตำราและพูดว่า “ท่านอ๋อง บัดนี้องค์ชายห้าเสด็จไปพบพระชายาอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฟู่เฉินหวนหยุดพลิกหนังสือชั่วคราว แล้วก็กลับมาเป็นปกติทันที สีหน้านิ่งเฉยและพูดว่า “นี่มันไม่ปกติ”

พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน

ซูโหยวสีหน้าเคร่งขรึมและพูดว่า “องค์ชายห้าทรงมอบอาภรณ์เมฆสีทองหนึ่งชุดให้พระชายา ทรงตรัสว่าเป็นอาภรณ์งานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวงให้พระชายาพ่ะย่ะค่ะ”

ได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว

แต่ยังคงไม่พูดอะไร เพียงสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย

“ท่านอ๋อง งานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวง ตามเหตุผลพระชายาก็จะต้องเข้าร่วมด้วย เมื่อถึงเวลารูปลักษณ์ของนางจะถูกผู้คนนินทาอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ หากนางยังสวมอาภรณ์ที่องค์ชายห้าทรงมอบให้อีก มิรู้ว่าผู้คนจะหัวเราะเยาะท่านอ๋องลับหลังเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”

“ในความเห็นของกระหม่อม ท่านอ๋องเป็นผู้ตระเตรียมอาภรณ์สำหรับงานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวง จะเป็นการเหมาะสมกว่าพ่ะย่ะค่ะ”

ซูโหยววิเคราะห์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ถึงอย่างไรก็ยังเป็นพระชายาอ๋องด้วย มันไม่เหมาะที่องค์ชายห้าจะส่งเสื้อผ้าอาภรณ์มาให้ในกรณีนี้

คิ้วของฟู่เฉินหวน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเริ่มตระเตรียมได้เลย ข้ามิอยากยุ่งเรื่องของนางมากนัก”

“จากนี้ไปเรื่องที่คล้ายเช่นนี้ก็มิต้องมารบกวนตัวข้าผู้เป็นอ๋องอีก”

เขามิสนใจเรื่องของฟู่อวิ๋นโจวและลั่วชิงยวนเลยสักนิด!

ซูโหยวตอบว่า “พ่ะย่ะค่ะ”

“อาภรณ์เพลิงไสวในศาลารุ้งเมฆานั้นค่อนข้างมีเกียรติและสง่างาม งดงามมากเช่นกัน น่าจะเหมาะที่จะใส่ในงานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวงพ่ะย่ะค่ะ"

ฟู่เฉินหวนพูดอย่างไม่อดทน “เจ้าจัดการเเถอะ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ซูโหยวตอบและหันหลังกลับและจากไป

……

ซูโหยวไปที่ศาลารุ้งเมฆาและสั่งอาภรณ์เพลิงไสว

มีคนอยากได้อาภรณ์เพลิงไสวนี้มากมาย แต่ด้วยหน้าตาของตำหนักอ๋อง เจ้าของร้านไม่มีทางมิให้ ก็ตอบตกลงทันทีว่า “วางใจเถิดท่านซู พรุ่งนี้เช้าอาภรณ์เพลิงไสวก็มาถึงแล้ว ข้าจะส่งคนไปมอบให้ที่ตำหนักอ๋องขอรับ!”

“เข้าใจแล้ว”

ซูโหยวออกจากศาลารุ้งเมฆาด้วยขาหน้า นางรับใช้ก็รีบวิ่งเข้าไปในจวนอัครเสนาบดี

“คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ ซูโหยวไปที่ศาลารุ้งเมฆาอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ! ยังสั่งอาภรณ์เพลิงไสวอีกด้วยเจ้าค่ะ!”

ได้ยินเช่นนี้ ลั่วเยวี่ยอิงตกใจมาก “อาภรณ์เพลิงไสวรึ? ศาลารุ้งเมฆาออกชุดที่มีเอกลักษณ์และสำรวยเช่นนี้เพียงปีละครั้งเท่านั้น บุตรสาวในตระกูลร่ำรวยมากมายต่างต้องการซื้อมัน ท่านอ๋องซื้อให้ลั่วชิงยวนจริง ๆ รึ? หมูตัวนั้นคู่ควรตรงไหนกัน!”

นางรับใช้ปลอบใจว่า “คุณหนูมิต้องห่วงไปเจ้าค่ะ แม้นางจะใส่ชุดนั้น แต่นางก็ไม่มีทางเด่นไปกว่าคุณหนูเป็นแน่เจ้าค่ะ!”

ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกไม่พอใจในใจ กำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น การกระทำของลั่วชิงยวนเกือบทำให้นางกลายเป็นใบ้ หญิงสารเลวผู้นี้มิเพียงมิได้ถูกลงโทษ แต่ยังได้กลับสู่ตำหนักอ๋องและดำรงตำแหน่งพระชายาต่อไปได้อีก!

เรี่องอยุติธรรมเยี่ยงนี้ นางทนมิได้!

“ไม่ได้! ข้าอยากได้อาภรณ์เพลิงไสว!” ลั่วเยวี่ยอิงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

นางรับใช้ลังเลและพูดว่า “แต่ซูโหยวสั่งอาภรณ์เพลิงไสวไปแล้ว เราจึงไม่มีทางไปแย่งได้อย่างโจ่งแจ้งนะเจ้าคะ”

ลั่วเยวี่ยอิงกลอกตาและพูดอย่างเย็นชาว่า “แย่งอย่างโจ้งแจ้งมิได้ ก็แอบแย่งสิ! จงไปที่ถนนเชียนเมี่ยนซื้ออาภรณ์เพลิงไสวปลอม จ้องมองคนที่ส่งเสื้อผ้าของศาลารุ้งเมฆา แล้วหาวิธีสลับอาภรณ์เพลิงไสวของแท้เสีย!”

ได้ยินเช่นนี้ นางรับใช้ตกใจเล็กน้อย ถามขึ้นอีกว่า “แต่อาภรณ์เพลิงไสวที่เปลี่ยนมา ไม่ใช่ขนาดของคุณหนู หมูตัวนั้นอ้วนมาก เกรงว่าคุณหนูจะใส่ชุดนี้ไม่ได้เจ้าค่ะ!”

“เช่นนั้นแล้วทำไมเล่า ขอให้ช่างตัดเสื้อกลับมาเปลี่ยนขนาดให้ข้าก็ได้ รีบไปทำสิ! ต้องเอาอาภรณ์เพลิงไสวกลับมาให้ข้าให้ได้ด้วย!” ลั่วเยวี่ยอิงเรียกร้องอย่างเด็ดขาด

สายตาเย็นชาและเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “หนนี้ข้าต้องทำให้ลั่วชิงยวนเสียหน้า!”

นางรับใช้ก็คล้อยตามและพูดว่า “ยิ่งกว่าเสียหน้าเจ้าค่ะ นางจะทำให้ท่านอ๋องต้องเสียหน้าไปด้วย เกรงว่าท่านอ๋องจะกลายเป็นตัวตลกเพราะนาง ท่านอ๋องจะไม่ทรงปล่อยนางไปง่าย ๆ เป็นแน่ ใครจะรู้ ท่านอ๋องอาจจะหย่ากับนางหลังงานฉลองในวังหลวงก็เป็นได้เจ้าค่ะ!”

ได้ยินเช่นนี้ ลั่วเยวี่ยอิงหัวเราะเยาะอย่างภูมิใจ คราวนี้ แค้นครั้งเก่าต้องได้รับการชำระ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย