ลั่วชิงยวนพยายามเดินเข้ามา แต่สตรีผู้นั้นระวังอย่างมาก หากนางขยับ ลมรอบตัวนางก็จะรุนแรงยิ่งขึ้น
หลังจากพยายามหลายครั้ง ลั่วชิงยวนก็ค้นพบบางสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
สตรีผู้นี้ดูเหมือนกำลังจะปกป้องฟู่จิ่งหลีอยู่
“พี่สะใภ้สาม ท่านบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?” ฟู่จิ่งหลีหมอบลงกับพื้น เขาไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมอง
ลั่วชิงยวนแตะเข็มทิศแล้วพูดอย่างระมัดระวัง “มานี่สิ”
ฟู่จิ่งหลีสะดุ้งเล็กน้อย “ข้าสามารถไปได้หรือ?”
เขาใช้มือข้างหนึ่งกดหน้าอกพร้อมกับใช้มืออีกข้างประคองกำแพง ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปหาลั่วชิงยวน
ดวงตาของลั่วชิงยวนจับจ้องไปที่สตรีผู้นั้น เป็นอย่างที่คาดไว้ นางไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย นางทำเพียงมองดูฟู่จิ่งหลีอย่างเงียบ ๆ แต่ดวงตาของนางก็ยังคงเป็นสีดำสนิทราวกับว่านางไร้สติ
สิ่งนี้ค่อนข้างแปลก
โชคดีที่ฟู่จิ่งหลีเดินมาหานางได้อย่างปลอดภัย นางช่วยประคองฟู่จิ่งหลีลุกขึ้นทันทีพร้อมกับพูดว่า “ไปกันเถอะ”
ฟู่จิ่งหลีกุมหน้าอกของเขา อดทนต่อความเจ็บปวดอันแสนสาหัส ในขณะที่เดินตามลั่วชิงยวนออกไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทาง ลั่วชิงยวนหันกลับมามองและพบว่าสตรีผู้นั้นกำลังติดตามเขาอยู่
เช่นนั้นจึงช่วยประหยัดเวลาของนางในการจับของสิ่งนี้กลับคืนมา
“ใครทำร้ายท่าน?” ลั่วชิงยวนเอ่ยถามอย่างกังวล
ฟู่จิ่งหลีส่ายหน้า “ข้ามิเห็นหน้าบุรุษชุดดำผู้นั้นเลย เขามีทักษะวรยุทธที่แข็งแกร่ง เขาน่าจะมาจากในวัง”
“เขาเดินผ่านเรือนของข้า แล้วก็เรือนของท่าน ข้ารู้สึกว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปหาท่าน พอข้าเดินตามเขามา เขาก็สังเกตเห็นข้า จึงพาข้าออกจากตำหนักอ๋อง”
ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว “อาจจะเป็นไปได้ว่าเขาตั้งใจจะฆ่าท่าน”
“ฆ่าข้าด้วยเหตุใด?” ฟู่จิ่งหลีรู้สึกประหลาดใจ
"ท่านคิดอย่างไร?"
ฟู่จิ่งหลีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจความหมายคำพูดของนางทันที “ไม่มีทาง อีกฝ่ายคิดจะกำจัดข้าเร็วเพียงนี้เชียวหรือ?”
ลั่วชิงยวนเดินครุ่นคิดไปตลอดทาง “แต่มีสิ่งหนึ่งที่ท่านพูดถูก คนผู้นี้เดินผ่านเรือนนอนของท่านและของหม่อมฉัน เช่นนั้นเขาน่าจะเป็นคนในวัง”
ลั่วชิงยวนนึกถึงเรือนทักษิณาทันที
ลั่วชิงยวนกดเขาให้นั่งลงแล้วพูดว่า “หากเป็นเช่นนั้น ฟู่เฉินหวนคงไม่มีวันปล่อยหม่อมฉันไป”
“ท่านเพียงอยู่ที่นี่คืนนี้ อย่างน้อยก็จนกว่าฟู่เฉินหวนจะกลับมา”
“อีกอย่าง หม่อมฉันยังมีอีกเรื่องที่อยากจะขอให้ท่านช่วย”
ฟู่จิ่งหลีมองนางอย่างสงสัย “เรื่องอะไรงั้นหรือ?”
ลั่วชิงยวนเหลือบมองสตรีที่มีดวงตาสีดำซึ่งกำลังยืนอยู่ข้างเตียง จากนั้นนางจึงเดินไปหยิบคู่กันและกระดาษแล้วยื่นให้ฟู่จิ่งหลี
“หม่อมฉันต้องการช่วยท่านอ๋องสืบสวนเหตุการณ์กลียุคในวัง เช่นนั้นหม่อมฉันจึงต้องการภาพเหมือนของมารดาท่าน ท่านยังจำรูปร่างหน้าตาของนางได้หรือไม่?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฟู่จิ่งหลีก็สะดุ้งเล็กน้อย ดวงตาของเขาหรี่แคบลง “ข้าจำได้”
“ข้าจะลืมไปได้อย่างไรเล่า?”
เขาหยิบคู่กันและกระดาษขึ้นมาพร้อมกับเริ่มวาดภาพ
ลั่วชิงยวนกำลังเฝ้ามองดูจากด้านข้าง นางมองไปยังภาพวาดบนกระดาษ ก่อนที่จะเปรียบเทียบกับคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...