“ขึ้นรถม้าไป”
ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้
ทว่า ลั่วชิงยวนกลับตกตะลึงเมื่อได้คำพูดดังกล่าว ทันใดนั้น ความโกรธก็ปะทุขึ้นในใจของนาง
นางปฏิเสธอย่างชัดเจน แต่ฟู่เฉินหวนกลับต้องการให้นางขึ้นรถม้า!
“แต่นี่จะไม่ทำให้พี่หญิงของหม่อมฉันมิพอใจหรือเพคะ?” ลั่วเยวี่ยอิงถามอย่างขี้ขลาด
“มิเป็นไร” ฟู่เฉินหวนส่งลั่วเยวี่ยอิงขึ้นรถม้าโดยตรงพร้อมกับช่วยพยุงนาง
ทันทีที่ลั่วเยวี่ยอิงขึ้นรถม้า นางก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจให้กับลั่วชิงยวน
ลั่วชิงยวนเต็มไปด้วยความโกรธ
ฟู่เฉินหวนมองไปที่นางแล้วพูดว่า “เจ้าลงมา”
ลั่วชิงยวนตกใจมาก เขายังเรียกนางลงไปอีกงั้นหรือ?
ลั่วชิงยวนกำฝ่ามือของนางไว้แน่น
นางลงจากรถม้าด้วยความโกรธ
ฟู่เฉินหวนกำลังจะให้ลั่วชิงยวนขี่ม้าตัวเดียวกับเขา
ทว่า ในขณะนี้ กลับมีรถม้าอีกคันเข้ามาใกล้
จากนั้นรถม้าก็หยุดลง
“พระชายา?” คนในรถม้าโผล่ศีรษะออกมา
ลั่วชิงยวนประหลาดใจเล็กน้อย นางมิเคยเห็นบุรุษตรงหน้ามาก่อน แต่เขากลับดูคุ้นเคย!
จนกระทั่งนางเห็นฉินไป๋หลี่ก็ยื่นศีรษะออกจากรถม้าเช่นกัน
นางจึงเพิ่งรู้ว่านี่คือรถม้าของตระกูลฉิน
บุรุษผู้นี้น่าจะเป็นฉินเชียนหลี่พี่ชายคนโตของฉินไป๋หลี่
“พระชายา รถม้าของท่านเสียงั้นหรือ?” ฉินเชียนหลี่สังเกตเห็นรถม้าที่กำลังซ่อมแซมอยู่ข้าง ๆ เขา
ขณะที่ฟู่เฉินหวนกำลังจะเอ่ยปาก ลั่วชิงยวนก็ชิงพูดก่อนว่า "ใช่ รถม้าเสีย บนรถม้าของท่านมีคนอยู่หลายคนหรือไม่? ท่านช่วยพาข้าไปด้วยได้หรือไม่?"
ฉินเชียนหลี่ยิ้มอย่างสุภาพและพูดว่า “แน่นอน ข้ามิรังเกียจ”
เช่นนั้นลั่วชิงยวนจึงก้าวไปข้างหน้าทันที
“ท่านมิจำเป็นต้องสุภาพ คุณชายฉินกลับมาคราวนี้ สงครามหยุดแล้วหรือ?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความกังวล
ฉินเชียนหลี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขามิได้คาดหวังว่าสตรีอย่างลั่วชิงยวนจะสนใจเรื่องสงคราม
“เราเพิ่งขับไล่คนป่าเถื่อนกลุ่มหนึ่งไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ทว่า ในระหว่างการต่อสู้กับพวกเขา เราพบว่าพวกเขาแข็งแกร่งนัก อีกทั้งยังโหดเหี้ยมและกระหายเลือด พวกเขาเก่งในยุทธวิธีกองโจร ข้ามิรู้ว่าพวกเขาจะไปปรากฏตัวที่ใดอีกในครั้งต่อไป”
“ครั้งนี้ข้ากลับมาเพื่อรายงานข้อมูลทางทหารที่สำคัญ และขอให้องค์จักรพรรดิทรงจัดสรรเงินเพื่อเสริมกำลังทหารรักษาการณ์ ป้องกันมิให้คนป่าเถื่อนมาคุกคามชาวบ้านของเรา”
“อย่างที่สองคือดวงตาของน้องชายของข้า ข้าเป็นห่วงจึงต้องกลับมาดูเสียหน่อย”
“ข้าอยู่ที่นี่มินานหรอก บางทีข้าอาจจะออกไปหลังจากการล่าในฤดูใบไม้ผลิ”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิด “ข้าเข้าใจแล้ว”
“หากอย่างนั้นเมื่อกลับไปยังสนามรบอีกครั้งท่านก็ต้องระวังให้มากขึ้น หากสิ่งเหล่านั้นอันตรายเกินไปสำหรับท่าน เช่นนั้นท่านก็หลีกเลี่ยงอย่างเหมาะสมเถิด อย่าได้เสี่ยงด้วยตัวเองเลย”
ลั่วชิงยวนกังวลเกี่ยวกับฉินเชียนหลี่จริง ๆ
เมื่อฉินไป๋หลี่ได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ขมวดคิ้วและรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี “พระชายา ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่า…”
ฉินเชียนหลี่ยิ้มและพูดขัดจังหวะเขาอย่างใจเย็น “โดยทั่วไปแล้ว กระหม่อมไม่มีเหตุผลที่จะยอมแพ้”
“หากทุกคนกังวลเกี่ยวกับความเป็นความตาย เช่นนั้นพวกเขาก็จะพ่ายแพ้ก่อนการต่อสู้เสมอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...