ลั่วชิงยวนตัวสั่นไปทั้งร่าง
ผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึงเช่นกัน หลายคนก็จ้องมองไปที่ลั่วชิงยวน
ลั่วชิงยวนซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่โดดเด่น จู่ ๆ ก็กลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจ
ไม่มีใครพูดสิ่งใดจนต้องโถงเงียบมาก
จากนั้นเหยียนหน่ายซินก็ถามขึ้นอีกครั้ง “คนผู้นี้มิใช่หรือ?”
หลายคนมองหน้ากัน แต่กลับไม่มีใครกล้าพูด เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฟู่เฉินหวนก็นั่งอยู่ที่นั่น
แต่ก็มีบางคนรอดูความสนุกอย่างไม่สนใจ
เว่ยอวิ๋นเซี๋ยมองไปที่ลั่วชิงยวน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชังพร้อมกับเย้ยหยันว่า “ฝูเสวี่ยนางมิใช่พระชายาอ๋อง บุตรสาวของอัครเสนาบดี ลั่วชิงยวนหรอกหรือ?!”
“นางเพียงมีรูปร่างที่ดีจึงสามารถล่อลวงบุรุษบางคนในหอได้ แต่ใบหน้านางน่าเกลียดเหมือนคางคก แล้วนางจะเต้นบนเวทีได้อย่างไรเล่า ไม่สู้อย่าทำให้ตัวเองขายหน้าจะดีกว่า”
“หากนางจะแสดงเพลงยั่วยวนในวันนี้ นั่นจะมิทำให้ท่านอ๋องเสื่อมเสียหรอกหรือ?”
การเย้ยหยันอย่างไร้ยางอายของเว่ยอวิ๋นเซี๋ย ทำให้ใบหน้าของฟู่เฉินหวนเย็นชาอย่างยิ่ง
ลั่วชิงยวนมองไปที่เว่ยอวิ๋นเซี๋ยด้วยสายตาเย็นชา สตรีผู้นี้ความจำสั้นเสียจริง นางถูกส่งไปยังหอฝูเสวี่ย ครั้งที่แล้ว แม้ว่านางจะหลบหนีได้อย่างหวุดหวิด แต่กลับได้ยินมาว่านางหวาดกลัวมากเช่นกัน
คิดมิถึงเลยว่าวันนี้นางจะกล้ายั่วยุลั่วชิงยวน
รนหาที่ตาย!
นางมองเว่ยอวิ๋นเซี๋ยด้วยสายตาอาฆาต ก่อนที่นางจะยิ้มออกมาเบา ๆ “คุณหนูเว่ยค้นพบวิธีการมากมายถึงเพียงนี้ ข้าคิดว่าท่านคงได้เรียนรู้มาอย่างมากมายจากหอฝูเสวี่ย”
“แต่ปากของท่านที่เป็นเช่นนี้ ข้าไม่รู้ว่าท่านเรียนรู้มาจากผู้ใด เด็กสาวจากหอฝูเสวี่ย มิอาจพูดคำสกปรกเช่นท่านได้”
เมื่อพูดถึงหอฝูเสวี่ย การแสดงออกของเว่ยอวิ๋นเซี๋ยก็เปลี่ยนไปทันที
คนรอบข้างต่างก็ประหลาดใจมากเช่นกัน
“หอฝูเสวี่ยคือที่แบบใด เว่ยอวิ๋นเซี๋ยเคยไปที่หอฝูเสวี่ยมาก่อนหรือ?” คุณชายผู้หนึ่งถามคนที่อยู่ข้าง ๆ เขาอย่างสงสัย
อีกฝ่ายก็สับสนเช่นกัน “หอฝูเสวี่ย มิใช่หอนางโลมหรือ? เหตุใดเว่ยอวิ๋นเซี๋ยจึงไปที่หอนางโลม”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบ ๆ ทำให้เว่ยอวิ๋นเซี๋ยมีสีหน้าน่าเกลียดมาก แขนเสื้อของนางแทบจะขาดด้วยมือของนาง ก่อนที่นางจะชี้ไปที่ลั่วชิงยวนด้วยความโกรธ “อย่าพูดจาไร้สาระ!”
“อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าท่านคือนางรำในหอฝูเสวี่ย ! นั่นคือท่าน! อย่ามาใส่ร้ายข้า!”
ในเวลานี้ เหยียนหน่ายซินเริ่มใจร้อนและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้ามิสนใจเรื่องของท่าน วันนี้เป็นวันดี ข้าเพียงอยากสนุกสนานก็เท่านั้น”
“เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการล่าในวันพรุ่ง ในเมื่อแม่นางฝูเสวี่ยอยู่ที่นี่ โปรดออกมาร่ายรำข้างหน้าด้วย!” น้ำเสียงของเหยียนหน่ายซินนั้นเย็นชา
ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขามืดมน
องค์จักรพรรดิสังเกตเห็นใบหน้าของฟู่เฉินหวน เขาจึงดุเหยียนหน่ายซินทันที “อย่างไรเสีย ลั่วชิงยวนก็เป็นพระชายาอ๋อง นางจะร่ายรำเพียงเพราะเจ้าบอกว่าต้องการจะดูได้อย่างไร? วันนี้ทุกคนเหนื่อยจากการเดินทางแล้ว ขอทุกท่านไปพักผ่อนหลังอาหารค่ำเถิด ผ่อนคลายและชมการร่ายรำ”
เหยียนหน่ายซินคว้าแขนของจักรพรรดิแล้วพูดว่า “หม่อมฉันเพียงอยากดูเท่านั้น! นางเป็นถึงชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ เช่นนั้นหม่อมฉันจึงต้องการดูเป็นอย่างมาก!”
“หม่อมฉันคิดว่ามิใช่เพียงแค่หม่อมฉันคนเดียว แต่ยังมีคนอีกมากที่นี่ที่อยากเห็นการร่ายรำที่มีเสน่ห์นั่น!”
“ท่านอ๋อง ท่านคิดว่าอย่างไรเพคะ?” เหยียนหน่ายซินเลิกคิ้วและมองไปที่ฟู่เฉินหวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...