เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็นึกประหลาดใจเล็กน้อย “กิจการจะถูกยกให้คนอื่นงั้นหรือ? ยกให้ใครหรือพี่สะใภ้?” การกล่าวแสดงความสนิทสนมอย่างกะทันหันของลั่วชิงยวนทำให้นางหวังเกิดหวาดระแวง
นางผุดกายยืนขึ้นโดยมีลูกสาวอยู่ในอ้อมแขนและทำท่าจะตีจาก “พวกท่านเป็นใครกันแน่ ข้ามิเคยพบพวกท่านมาก่อน พวกท่านเกี่ยวข้องกับกิจการของสามีข้าจริง ๆ หรือ?”
“สามีของข้าหายตัวไปหลายวันแล้ว ข้ามิรู้เรื่องอะไรเลย พวกท่านควรไปหาคนอื่น”
นางหวังอุ้มลูกของนางและกำลังจะจากไป
เด็กน้อยในอ้อมแขนของนางเริ่มไออีกครั้ง นางหวังที่หวาดกลัวรีบนั่งลงและรินน้ำให้เด็กน้อยกิน
เด็กน้อยไออย่างรุนแรงและใบหน้าของนางก็แดงก่ำ
นางหวังตบหลังลูกสาวอย่างรวดเร็วแล้วตะโกนว่า “ใครก็ได้ เร็วเข้า เอายามาเร็วเข้า!”
ก่อนที่นางรับใช้จะนำยามา ลั่วชิงยวนก็ก้าวไปข้างหน้าและแตะหน้าผากของเด็ก สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อยราวกับเด็กน้อยจะเป็นหวัด
แต่นางไอแรงมากจนดูคล้ายจะหายใจไม่ออก
โดยเฉพาะตอนที่นางหวังกอดนางไว้ในอ้อมแขนแน่น เขย่านางขึ้นลงเพื่อปลอบนาง เพราะเด็กทั้งไอและร้องไห้ไปพร้อม ๆ กัน
หากขาดอากาศหายใจก็จะทำให้เสียชีวิตได้ง่าย
ลั่วชิงยวนรีบคว้าเด็กจากอ้อมแขนของนางหวัง วางร่างของนางลงบนพื้นแล้วหยิบขวดยาออกมาป้อนยาให้นาง
“เจ้ากำลังทำอะไร?! อย่าแตะต้องลูกสาวของข้า!” นางหวังปกป้องลูกสาวอย่างกระตือรือร้นและรีบวิ่งไปอย่างกังวล
ฟู่เฉินหวนยืนขึ้นและหยุดนางหวังไว้
ลั่วชิงยวนลูบหลังเด็กหญิง เมื่อกลืนยาลงไปแล้ว ยาก็เริ่มออกฤทธิ์ ในที่สุดเสียงไอก็หยุดลง
“เจ้ายังรู้สึกมิสบายอยู่หรือไม่?” ลั่วชิงยวนถาม
เด็กหญิงตัวเล็กส่ายหัวแล้วรีบเข้าไปกอดนางหวัง “ท่านแม่”
เมื่อเห็นว่าเด็กไม่เป็นอะไรอันตราย นางหวังก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก
นางรับใช้หายใจหอบและนำยามา “นายหญิง ยามาแล้ว!”
นางหวังจ้องมอง “กว่าจะเอายามาได้ คุณหนูเกือบจะต้องตายอยู่แล้ว!”
“คราวหน้าพกยาติดตัวไว้ด้วย!”
นางรับใช้ก้มศีรษะเป็นเชิงขอโทษ “เจ้าค่ะ”
นางถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “พี่สะใภ้บอกว่ากิจการกำลังจะกลายเป็นของคนอื่น ท่านจะโยกย้ายให้ผู้ใด พี่สะใภ้มิเข้าใจเรื่องการค้า ข้าเลยกังวลมิน้อยว่าท่านจะถูกโกง”
นางหวังตอบว่า "ตระกูลฟ่านของสมาคมการค้าเฟิงตู ข้าเองก็มิกล้าปฏิเสธหรือตัดสินใจอะไร ข้ามิเข้าใจเรื่องการค้าเลย"
“ข้าวางแผนจะเก็บเงินแค่สามหมื่นตำลึงเท่านั้น ซึ่งเพียงพอสำหรับข้าและลูกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง
สมาคมการค้าเฟิงตู… ตระกูลฟ่านหรือ?
“พี่สะใภ้ ท่านกำลังพูดถึงฟ่านซานเหอหรือไม่? ข้าเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับบุรุษผู้นี้ แต่ข้าได้ยินว่าเขาเป็นคนเรียบง่ายและซื่อสัตย์ แต่มิใช่พ่อค้า”
นางหวังส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่รู้เรื่องนี้ แต่คนที่มาติดต่อซื้อกิจการกับข้าคือฮูหยินของเขา ที่มีนามว่าเฉินซวนอี๋ นางดูเข้าใจวิธีการทำกิจการ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางหวังก็เริ่มสนใจและเริ่มนินทานาง
“อันที่จริงข้ารู้จักตระกูลเฉินมานาน เฉินซวนอี้เติบโตที่ซีหยาง แต่นางมิเคยมีพรสวรรค์ในการทำธุรกิจมาก่อน”
“แต่หลังตบแต่งออกเรือนไป นางก็กลายเป็นคนมีความรู้และช่ำชองเรื่องการค้ามากขึ้น! หมอดูบอกว่าเฉินซวนอี๋กำลังจะแต่งงานกับคนที่ใช่ ฟ่านซานเหอจะเสริมดวงให้ฮูหยินของตัวเอง!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...