ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 77

ลั่วชิงยวนก็มีท่าทีตกใจเช่นกัน ฮองไทเฮาท่านนี้พูดจาเถรตรงไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อย

นี่มิใช่ครั้งแรกที่ลั่วชิงยวนเข้าพบฮองไทเฮา แต่เป็นครั้งแรกที่ถูกฮองไทเฮาเรียกตัวมาโดยลำพัง ลั่วชิงยวนไม่รู้ว่าว่า ฮองไทเฮากำลังคิดจะทำอะไร นางเพียงแค่อยากจะนั่งเงียบ ๆ เท่านั้น

จนกระทั่งไทเฮาเหยียนหันมามองลั่วชิงยวนอีกครั้ง

“เจ้ากำลังงุนงงอะไรเล่า ของว่างและเครื่องเคียงเหล่านี้ ไทเฮาผู้นี้จัดเตรียมไว้ให้เจ้าเป็นพิเศษ ลองชิมดูว่าถูกปากหรือไม่ หากว่าเจ้าชอบ ข้าจะจัดเตรียมให้เจ้าในงานเลี้ยงพระราชวังในครั้งหน้า”

ลั่วชิงยวนมีท่าทีตกใจเล็กน้อย นางมิได้รู้สึกภูมิใจนักที่ฮองไทเฮาตั้งใจจัดเตรียมอาหารสำหรับจัดเลี้ยงในวังที่ถูกปากกับนางเป็นพิเศษขนาดนี้

“ขอบพระทัยน้ำพระทัยอันดีงามของฝ่าบาทเพคะ เพียงแต่วันนี้หม่อมฉันไม่รู้สึกอยากอาหารมากสักเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะว่าอาหารที่งานเลี้ยงในวังไม่ถูกปาก ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับตัวของหม่อมฉันเลยพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของฮองไทเฮาพลันปรากฎรอยยิ้มปลื้มปีติออกมาในทันที

“ข้ามองคนมิผิดเลย ช่างเป็นหญิงสาวที่รู้จักคิดจริง ๆ ตอนแรกก่อนที่อ๋องผู้สำเร็จราชการจะแต่งงาน ข้าก็รู้สึกว่า เจ้าเหมาะสมที่จะเป็นพระชายาอ๋องมากกว่า ทั้งอ่อนโยน มีคุณธรรม เข้าใจหลักการสำคัญและกฎเกณฑ์ จะเอามาเปรียบเทียบกับผู้หญิงจากบ้านเล็กบ้านน้อยได้อย่างไรกันเล่า”

คำพูดของฮองไทเฮาแสดงออกถึงการเหน็บแนมลั่วเยวี่ยอิงอย่างเห็นได้ชัด

ลั่วเยวี่ยอิงก้มหน้าลงมองพื้น รู้สึกกระอักกระอ่วนจนอยากจะมุดพื้นดินหนีไปเพื่อออกจากสถานการณ์นี้

ลั่วชิงยวนมิได้รู้สึกดีใจเลยสักนิดที่ได้ยินคำพูดของฮองไทเฮา นางเพียงแค่ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจเพียงเท่านั้น

“เป็นเกียรติอันสูงสุดของชิงยวนที่ได้รับพระกรุณาธิคุณความเมตตาจากฝ่าบาทเพคะ”

ความเมตตาที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่ทันตั้งตัวมาก่อน

ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นความเมตตาที่มาจากฮองไทเฮาอีก

นางเข้าใจกระจ่างแล้ว

จะมิทำให้ตัวเองหลงเคลิ้มไปกับคำชมเหล่านี้อย่างเด็ดขาด

ใบหน้าของฮองไทเฮาแต้มรอยยิ้มแสนนุ่มนวลพลางพยักหน้าไปด้วย แววตาของเธอเต็มไปด้วยความโปรดปรานในตัวของลั่วชิงยวน จากนั้นจึงเอ่ยออกมาด้วยความซึ้งใจ

“ช่างเป็นหญิงสาวที่ดีเสียเหลือเกิน น่าเสียดายที่อ๋องผู้สำเร็จราชการมิรู้ว่าต้องทะนุถนอมเพชรเม็ดงามนี้เช่นไร ข้ารู้สึกเสียใจกับเจ้าจริง ๆ”

หลังสิ้นคำ สีหน้าของฮองไทเฮาก็เปลี่ยนไปขรึมลง ลักษณะที่น่าเกรงขามนี้สามารถทำให้ผู้ที่เห็นรู้สึกหวาดกลัวข้างในใจได้อย่างง่ายดาย

ฮองไทเฮาหันไปมองลั่วเยวี่ยอิงด้วยความน่าเกรงขาม และเอ่ย

“นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เจอกับความกำเริบเสิบสานเช่นนี้ของลูกนอกสมรส รังควานไม่เห็นหัวพี่สาวของตน อาศัยการเข้าข้างของอ๋องผู้สำเร็จราชการทำเลวโดยไม่หวั่นเกรงสิ่งใดจนทำให้พระชายาอ๋องในวังต้องอับอายขายขี้หน้า เยี่ยงนี้ใช้มิได้!”

ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น ฮองไทเฮาก็กระแทกถ้วยชาลงบนโต๊ะจนน้ำชากระเด็นหกออกมาจากแก้ว

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธทำให้ลั่วเยวี่ยอิงเข่าอ่อนจนต้องคุกเข่าลงกับพื้น

“ฮองไทเฮาโปรดประทานอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ ทุกอย่างมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”

“เรื่องเข้าใจผิด? จิ่นชูเห็นพฤติกรรมการกระทำที่เจ้าทำอยู่ที่ทะเลสาบมากับตา เจ้าจะบอกข้าว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดงั้นรึ? ถ้าข้าไม่ได้ยินรายงานจิ่นชูกับหูของตัวเอง ข้าก็คงมิรู้เลยว่า เจ้าจะมีกลอุบายทำให้คนอื่นเขาอับอายขายขี้หน้าอันใดอีก! กำเริบเสิบสานเช่นนี้ อัครเสนาบดีจะอบรมสั่งสอนลูกสาวเยี่ยงไร?”

ฮองไทเฮาเอ่ยอีกด้วยความโกรธ

“อัครเสนาบดีไม่ต้องสั่งสอนแล้ว ให้ข้าสั่งสอนนางแทนเขาซะ!”

“ตบปากห้าสิบครั้ง!” ฮองไทเฮาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบขาด

ชั่วพริบตานั้นลั่วเยวี่ยอิงเกิดความตื่นตระหนกในทันที

นางกำนัลทั้งสองคนที่ยืนอยู่ในตอนแรกเดินเข้ามาคว้าตัวของลั่วเยวี่ยอิงกดนางให้คุกเข่าลง ยังมิทันที่ลั่วเยวี่ยอิงจะทันได้เอ่ยปากขอความเมตตา พวกนางก็หยิบไม้เรียวมาและฟาดไปที่ใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิง

ทันใดนั้นรอยเลือดเป็นสายก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิง ทำให้ผู้ที่พบเห็นต้องต่างอกสั่นขวัญหายกันเป็นแถบ

นางกำนัลผู้โหดร้ายลงมือฟาดจนลั่วเยวี่ยอิงไม่สามารถเอ่ยปากพูดอะไรได้ จนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยเลือดในเวลาเพียงไม่นานเท่านั้น

ฮองไทเฮาหยัดตัวนั่งตรง ก่อนจะเอ่ยออกมาช้า ๆ ว่า

“ข้าเห็นเจ้าเป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว หลังจากการลงโทษนี้แล้วคงมิกล้าที่จะพูดจาหาได้มีสาระและความรับผิดชอบไม่”

น้ำเสียงที่ปนไปกับเสียงของไม้เรียวที่กำลังตบหน้าอยู่นั้นทำให้คำพูดของฮองไทเฮาสามารถซึมซับเข้าไปในใจได้อย่างง่ายดาย

“ชิงยวน ขนมก้อนนี้ทำขึ้นจากไวน์ข้าวหมักชนิดพิเศษ เจ้าลองดูสิ” เมื่อฮองไทเฮาหันไปทางลั่วชิงยวน น้ำเสียงของนางก็พลันกลับมานุ่มนวลอีกครั้ง

ลั่วชิงยวนพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหยิบขนมก้อนนั้นมาวางไว้บนปลายจมูกของนาง ทันใดนั้นนางก็เลิกคิ้วและเริ่มนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

แสงสะท้อนเย็นเฉียบพาดผ่านสายตาของนาง

นางจึงรู้ว่าการที่เชิญนางมามันมิใช่เรื่องที่ดีเอาเสียเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย