ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 78

เมื่อเห็นลั่วชิงยวนที่นิ่งอึ้งไป ฮองไทเฮาจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า

“เกิดอะไรขึ้นรึ?”

ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นปิดริมฝีปากและรีบวางขนมชิ้นนั้นลงบนโต๊ะ

“ช่วงนี้หม่อมฉันมิค่อยอยากอาหารเพคะ ขนมรสชาติหวานจะทำให้หม่อมฉันคลื่นไส้เพคะ ไม่อยากจะเสียมารยาทต่อหน้าฮองไทเฮา”

ฮองไทเฮาสะดุ้งเล็กน้อย แต่หากยังยิ้มได้อีกครั้งแล้วเอ่ย “ไม่เป็นไร งั้นเจ้าลองอันอื่นดูสิ”

ฮองไทเฮาเปลี่ยนสายตาไปทางอื่น มิได้มองไปที่ลั่วชิงยวนอีก

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว นางมีท่าทีสะอิดสะเอียนและมิได้แตะต้องของกินขนมอื่นใดต่อ

ในขนมที่หมักด้วยไวน์ข้าวก้อนนี้มีกลิ่นของหญ้าทองทมิฬเจือปนอยู่ ถึงแม้ว่ากลิ่นหญ้าทองทมิฬจะมิได้ชัดมากมายเท่าใดนัก แต่กลับเป็นตัวที่สามารถส่งผลกระตุ้นแมลงพิษได้ดีทีเดียว ล่อให้พวกมันเคลื่อนไหวจนกระทั่งถึงการออกไข่ นำความเจ็บปวดทรมานมาสู่เจ้าของที่อยู่อาศัยได้

และแมลงพิษก็ทำให้ลั่วชิงยวนนึกถึงเรื่องของแมลงพิษที่ถูกดึงออกมาจากร่างกายของฟู่เฉินหวนในคืนที่ฝนตกหนัก

หรือว่าฮองไทเฮาจะเป็นผู้ที่ส่งแมลงพิษตัวนั้นกันนะ?

หากเป็นเช่นนั้น การที่ให้นางมาร่วมดื่มชารับประทานอาหารและมองดูลั่วเยวี่ยอิงถูกตบสั่งสอน เป็นเพราะต้องการดึงนางมาเป็นพวก และใช้นางในการทำร้ายฟู่เฉินหวนหรือไม่

เก้าอี้ตัวนี้ก็มิได้นั่งง่ายขนาดนั้น

สภาพของลั่วเยวี่ยอิงในตอนนี้อนาถจนทนมองมิได้ นางถูกตีจนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยเลือด ไม่สามารถแม้แต่ร้องขอความเมตตายังเป็นเรื่องที่ลำบาก นางกำนัลผู้นั้นมิให้โอกาสให้นางได้พูดอะไร มีเพียงเสียงของไม้เรียวที่กระทบกับเนื้อ และเสียงร้องโหยหวนของลั่วเยวี่ยอิงเพียงเท่านั้น

จนกระทั่งลั่วเยวี่ยอิงทนต่อไปอีกไม่ไหวและล้มลงไป นางกำนัลจึงได้หยุดมือและหันไปพูดกับฮองไทเฮา

“ฝ่าบาท ดูเหมือนว่านางจะทนต่อไปไม่ไหวแล้วเพคะ”

ฮองไทเฮาปรายตามองด้วยความเย็นชา พลางเอ่ย “ยังเหลืออีกกี่ไม้เรียว?”

“สิบไม้เพคะฝ่าบาท”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฮองไทเฮาจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในเมื่อยังเหลืออีกสิบไม้ งั้นก็ช่างมันเถอะ ถือว่านางได้รับบทเรียนที่สาสมแล้ว”

“นี่ก็เริ่มจะดึกแล้ว จิ่นชู เจ้าส่งคนนพพระชายาอ๋องกลับตำหนักด้วย”

ลั่วชิงยวนหยัดตัวลุกขึ้นยืนในทันที ก่อนจะเอ่ย “หม่อมฉันขอตัวลาเพคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย