ภายใต้คำวิจารณ์ สีหน้าของลั่วชิงยวนยังคงเรียบเฉย นางเดินตรงไปข้างหน้าคนรับใช้ที่คุกเข่าเหล่านั้น และถามอย่างใจเย็น "พวกเจ้าพูดว่าข้าเป็นคนสั่งอย่างนั้นรึ?"
“เช่นนั้นจงพูดมา ข้าไปสั่งให้พวกเจ้าที่ไหน เมื่อไหร่? แล้วให้เข้ามาในห้องนี้เวลาใด?”
“ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่คือห้องของพระชายา พวกเจ้าก็ตกลงเข้ามาอย่างง่ายดายเช่นนั้นเลยรึ? ข้าตั้งเงื่อนไขอะไรให้กับพวกเจ้ากัน? ถึงได้กล้าเสี่ยงชีวิตมาที่นี่?” เมื่อนางถามออกไปเช่นนั้น สีหน้าของคนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นก็เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาจ้องไปที่เมิ่งจิ่นอวี่ เห็นได้ชัดว่ากำลังขอความช่วยเหลือจากเมิ่งจิ่นอวี่พวกเขาควรตอบอย่างไรดี
ฟู่เฉินหวนหรี่ตาลงเล็กน้อย มองดูฉากนี้อย่างเงียบ ๆ
เขายังมองไปที่ลั่วชิงยวน ในสถานการณ์ที่มีศัตรูจำนวนมาก แต่นางยังสามารถควบวคุมสติอารมณ์ได้ ลั่วชิงยวนผู้นี้ค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียว
"พูดมาสิ? ข้าเป็นคนสั่งพวกเจ้าใช่หรือไม่? ข้าพูดอะไรกับพวกเจ้า เล่ามันออกมา?" ลั่วชิงยวนตะคอกเบา ๆ
เห็นดังนั้นเมิ่งจิ่นอวี่ก็รู้สึกเป็นกังวล แผนของพวกนางผิดเพี้ยนไปหมด นางไม่สามารถเชื่อมโยงคำถามเหล่านี้ได้เลย
เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ นางก็รีบกล่าวอย่างกระตือรือร้น "ยา! นางจะต้องวางยางหม่อมฉันแน่เพคะ! ท่านอ๋อง นางเคยทำแบบนี้กับท่านมาก่อน เป็นเรื่องปกติสำหรับนางที่จะทำเช่นนี้!" ดวงตาของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
ลั่วชิงยวนดูเหมือนจะรู้ว่าฟู่เฉินหวนกำลังจะพูดอะไร นางจึงรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน "ท่านอ๋อง หากหม่อมฉันวางยาแบบนี้ต่อท่านในคืนวันแต่งงาน ท่านจะยังสามารถตื่นขึ้นมาได้อีกหรือ?"
“ยิ่งไปกว่านั้น กำยานที่หม่อมฉันนำมาในคืนนั้น ก็ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว หม่อมฉันตัวคนเดียวในตำหนัก จะไปหายาเช่นนี้ได้จากที่ใดเล่า?”
ในคืนนั้นลั่วชิงยวนใช้เพียงกำยานปลุกกำหนัดเท่านั้น และผลของมันก็ด้อยกว่าผงมหาสุขนี้มาก เมิ่งจิ่นอวี่ขนาดถูกโยนเข้าไปในลาน นางยังไม่ได้สติ และยังจมอยู่ในโลกแห่งภาพลวงตา เห็นได้ชัดว่ายานี้แรงแค่ไหน
หากใช้ผงมหาสุขในคืนวันแต่งงาน ลั่วชิงยวนคงได้หลับนอนกับฟู่เฉินหวนไปแล้ว
เมิ่งจิ่นอวี่รู้สึกสิ้นหวัง "ท่านอ๋อง สิ่งที่นางพูดหมายความว่า นางรู้ว่ามันเป็นยาชนิดใด! ถ้านางรู้! แสดงว่านางต้องเป็นคนทำแน่เพคะ!"
ลั่วชิงยวนเหลือบมองเมิ่งจิ่นอวี่และพูดอย่างใจเย็น “ตำหนักอ๋องนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่ ลองค้นหาดูว่าใครมียานี้ก็สิ้นเรื่อง? ข้ามาที่นี่เพื่อแต่งงานแทน มิได้เอาอะไรมาด้วย เชิญพวกเจ้าค้นได้ตามสบาย!”
เมิ่งจิ่นอวี่ตกใจ นางหรี่ตาลงด้วยความรู้สึกผิด ผงมหาสุขยังใช้ไม่หมด ครึ่งหนึ่งที่เหลือยังซ่อนอยู่ใต้เตียงของนาง หากพวกเขาค้นหามันจริง ๆ ทุกอย่างคงถูกเปิดเผยเป็นแน่…
ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ตกใจเช่นกัน ลั่วชิงยวนคนโง่คนนี้มีฝีปากเก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? หากเป็นเมื่อก่อน แค่ถูกคนรุมล้อมและชี้มา นางก็ทนไม่ไหวจนต้องวิ่งกลับไปซ่อนตัวที่ห้องแล้ว แต่วันนี้กลับโต้เถียงเมิ่งจิ่นอวี่ที่สำคัญคือ นางยังรอบคอบ ไม่ได้แถไปเรื่อยอีกด้วย
นางมองไปที่ฟู่เฉินหวนอย่างเป็นกังวล ท่านอ๋องยังคงไม่ออกคำสั่งใด เห็นชัดว่า เขากำลังคิดตามคำพูดของลั่วชิงยวน ข้าควรทำอย่างไรดี!
ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วมองไปที่ฟู่เฉินหวน จงใจยั่วยุด้วยคำพูด “ท่านอ๋องผู้ฉลาดปราดเปรื่อง ท่านคงไม่ปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์ถูกทำร้ายหรอกใช่หรือไม่เพคะ?”
ดวงตาของฟู่เฉินหวนเคร่งขรึม คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาสามารถรับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"ใครก็ได้ เอาตัวเมิ่งจิ่นอวี่..." เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของลั่วเยวี่ยอิงก็บีบแน่น แผนการของนางล้มเหลว นางจึงรีบขัดจังหวะขึ้นทันที "ท่านอ๋อง… เมิ่งจิ่นอวี่ได้เจอกับเรื่องเลวร้ายมามากพอแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นความอัปยศของผู้หญิง ได้โปรดเมตานางเถิดนะเพคะ?" เมื่อฟังจบ ฟู่เฉินหวนก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ยอมไว้ชีวิตเมิ่งจิ่นอวี่ “เอาตัวนางไปขังที่หลังตำหนัก"
ดวงตาที่เย็นชาของเขาสบเข้ากับคนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นอีกครั้ง ก่อนจะออกคำสั่งเสียงเย็น "คนพวกนี้ ฆ่าทิ้งซะ"
ทันทีที่สิ้นเสียง คนรับใช้ต่างร้องอย่างตื่นตระหนก "่ท่านอ๋อง ได้โปรดไว้ชีวิตพวกบ่าวด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง พวกเราจะสารภาพ เราทุกคนจะสารภาพพ่ะย่ะค่ะ!" แต่ฟู่เฉินหวนไม่ต้องการไว้ชีวิตคนพวกนี้ เขายืนเอามือไพล่หลัง และพูดด้วยสีหน้าเย็นชา "กล้าสร้างปัญหาในตำหนัก ก็มีเพียงจุดจบเดียวเท่านั้น"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...
หายยาววววววววววววว😒😒😒...
อัพต่อหน่อยค่ะแอด พลีสสสสสสสสสสสส...