ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 849

แต่ฟู่เฉินหวนกลับดุเขาด้วยสายตาเย็นชา “ลั่วชิงยวนติดสินบนเจ้าไปเมื่อใด?”

คำพูดเหล่านั้นเย็นชาดุจคมมีด

ฟู่จิ่งหลียังคงต้องการอธิบาย แต่ลั่วชิงยวนขัดจังหวะเขาอย่างเย็นชา “หม่อมฉันมิได้ติดสินบนองค์ชายเจ็ด แต่เป็นเพราะองค์ชายเจ็ดมิได้ตาบอด”

คำที่แฝงความหมายนี้ทำให้ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าแย่ลงกว่าเก่า

นางกำลังบอกว่าเขาตาบอด

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ความหงุดหงิดในใจของเขายิ่งทวีคูนขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยความดุร้าย

“วรยุทธของเจ้าสลายไปแล้ว แต่เจ้ายังมิรู้สำนึก หากเจ้ากล้าทำร้ายเยวี่ยอิงอีก ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”

น้ำเสียงที่คมชัดและดวงตาของเขา ทำให้ฟู่จิ่งหลีหวาดกลัว

“พี่สาม...”

ฟู่เฉินหวนหันกลับมาและจ้องมองที่ฟู่จิ่งหลี “และเจ้าก็อีกคน!”

“รู้สถานะของตัวเจ้าด้วย!”

“ข้าอนุญาตให้เจ้าอาศัยอยู่ในตำหนักอ๋อง มิได้ให้เจ้าสมคบคิดกับลั่วชิงยวน!”

ฟู่จิ่งหลีก็ตกตะลึงเช่นกัน

จากนั้นฟู่เฉินหวนก็พาลั่วเยวี่ยอิงจากไปทันที

ระหว่างทางเขาหายใจถี่ รู้สึกเหมือนมีไฟสุมอยู่ในอก แต่เหตุผลยังคอยเตือนเขาว่าเขามิควรพูดเช่นนั้นในเมื่อครู่ออกไป

ฟู่จิ่งหลีก็โกรธเช่นกัน “อะไร? ใครอยากอยู่ในตำหนักท่านกัน ข้าจะย้ายออกเดี๋ยวนี้ละ!”

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว ไร้เรี่ยวแรงจะโน้มน้าวเขา

ดังนั้น ฟู่จิ่งหลีจึงย้ายออกจากตำหนักในวันนั้นเอง

จือเฉากระทืบเท้าด้วยความโกรธ “ท่านอ๋องทรงเป็นอะไรไป? เหตุใดถึงทำแบบนี้กับองค์ชายเจ็ดได้?”

“ลั่วเยวี่ยอิงคนนั้นมีอะไรดีกัน?”

ลั่วชิงยวนกลับมาที่ห้อง หลังจากเปลี่ยนอาภรณ์แล้ว ก็สวมหน้ากากที่มิได้สวมมานาน

“พระชายา นี่ท่าน...”

ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ข้าต้องหาวิธีรักษาเส้นลมปราณที่เสียหาย มิเช่นนั้นข้าจะจะเป็นคนไร้ประโยชน์ตลอดไป”

“ช่วงนี้ปิดประตูเรือน อย่าให้ใครเข้ามา บอกว่าข้ากำลังพักฟื้นอยู่ก็แล้วกัน”

จือเฉาพยักหน้า “เจ้าค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย