ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 85

“องค์ชายห้า ท่านรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่เพคะ?” ลั่วชิงยวนคิดว่า เขาคงได้รับผลกระทบจากวิญญาณร้ายเช่นกัน แต่เมื่อนางเข้าใกล้เขามากขึ้น นางก็ยังไม่เห็นวิญญาณชั่วร้ายอยู่รอบตัวเขาเลยแม้แต่น้อย

“แค่ก แค่ก…” ฟู่อวิ๋นโจวไอเสียงแหบแห้งแล้วพูดว่า “มิใช่ข้าหรอก แต่เป็นหมอกู้ต่างหาก”

“หมอกู้อย่างนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว

ฟู่อวิ๋นโจวยืนขึ้นและพานางไปอีกห้องหนึ่งในเรือนทิศใต้ เมื่ออีกฝ่ายเปิดประตูเข้าไปกลิ่นสมุนไพรเข้มข้นก็ตีกระทบจมูกของนางอย่างหนักหน่วง จนทำให้นางอึดอัดและรู้สึกไม่ดีนัก

ประตูและหน้าต่างภายในห้องนั้นถูกปิดเอาไว้ อากาศภายในไม่ถ่ายเทเลยแม้แต่น้อย

หมอกู้นอนอยู่บนเตียงอย่างโรยแรง เมื่อเห็นคนเดินเข้ามา เขาก็หยัดกายขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนเอ่ยปาก "องค์ชายห้า… พระชายา..."

ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนได้เต็มเท้า ร่างกายของเขาก็สั่นไหวและทำท่าจะล้มลง

เด็กรับใช้รีบเข้าไปพยุงเขาอย่างรวดเร็ว

“ท่านหมอกู้ เชิญนั่งลงก่อน ไม่ต้องมากพิธี ข้าเป็นคนขอให้พระชายามาดูอาการท่านเอง ดูเหมือนท่านจะถูกวิญญาณร้ายครอบงำอย่างไรอย่างนั้น” ฟู่อวิ๋นโจวกล่าวอย่างเคร่งขรึม

ถูกวิญญาณร้ายครอบงำอย่างนั้นหรือ?

ลั่วชิงยวนมองไปที่หมอกู้ อย่าว่าแต่ร่างกายของเขาเลย ในเรือนทิศใต้แห่งนี้ไม่มีรัศมีชั่วร้ายอยู่เลยด้วยซ้ำ เขาจะถูกวิญญาณร้ายครอบงำได้อย่างไร?

สายตาของนางไม่ได้บกพร่อง นางก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยถามขึ้นว่า "มีอะไรผิดปกติกับท่านอย่างนั้นหรือ?"

“กระหม่อม… มีอาการแน่นหน้าอก หงุดหงิดเล็กน้อย แต่กระหม่อมกินยาแล้ว แต่อาการก็ไม่บรรเทาลง อาการเช่นนี้คล้ายกับอาการของคนที่ตำหนักนี้เมื่อคืนไม่มีผิด” หมอกู้กุมหน้าอกของเขาด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก ขณะกล่าว

อย่าว่าแต่อาการคลุ้มคลั่งเลย อาการเจ็บปวดของเขาก็มิได้รุนแรงอะไรเลยด้วยซ้ำ

หลังจากตรวจดูอย่างใกล้ชิด ลั่วชิงยวนก็สามารถบอกได้เลยว่า เขาแทบไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยอะไรเลย อีกทั้งหมอกู้ก็ถือว่าเชี่ยวชาญด้านการแพทย์มาก มีหรือที่จะไม่เข้าใจอาการเจ็บป่วยของตน?

ข้อสันนิษฐานและคำถามมากมายผุดขึ้นในหัวของนางราวกับดอกเห็ด

“ชิงยวน หมอกู้มีอาการเช่นนี้และพยายามรักษาตัวเองแล้ว ทว่าเขากลัวว่าจะเกิดปัญหายุ่งยากจึงมิได้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปให้ใครไม่รู้มากนัก นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าเชิญเจ้ามาที่นี่ให้มาดูอาการของหมอกู้ในนามของตัวเอง" ฟู่อวิ๋นโจวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจากด้านข้าง

ลั่วชิงยวนพูดออกไปด้วยท่าทีจริงจัง "อาการของหมอกู้นับว่าไม่ใช่เล่น ๆ เลย โชคดีที่ท่านหมอกู้ใช้โอสถเพื่อระงับอาการบ้างแล้ว ไม่เช่นนั้นจะต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่"

"นั่น..." การแสดงออกของฟู่อวิ๋นโจวเปลี่ยนไป

ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นอย่างมีเลศนัย "องค์ชายห้า มิต้องกังวล รอให้หม่อมฉันวาดอักขระเวทย์เสียก่อน!"

หลังจากพูดจบ นางก็กัดนิ้วตัวเองและลากนิ้วไปบนหน้าผากของหมอกู้สองสามจังหวะ ด้วยจังหวะเคลื่อนไหวที่เกินธรรมดาไปมาก แม้อักขระเวทย์จะดูไม่ต่างจากเดิม แต่มันก็ดูเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไม่น้อยทีเดียว

หลังจากวาดอักขระเวทย์เสร็จ หมอกู้ก็กลับมานั่งตัวตรง และแตะบนอกของเขาด้วยความตกใจ ก่อนพูดขึ้นว่า "กระหม่อมหายแล้ว!"

“ไม่นึกเลยว่า พระชายาจะมีความสามารถเช่นนี้ น่าเลื่อมใสนัก!”

หมอกู้ยืนขึ้น ยกหมัดขึ้นชนกับฝ่ามืออีกข้างก่อนทำความเคารพ

รอยยิ้มบนใบหน้าของลั่วชิงยวนดูคล้ายภูมิใจเล็ก ๆ "หมอกู้พยายามรักษาองค์ชายห้าอย่างเต็มที่เช่นนี้ มีท่านอยู่องค์ชายคงไม่เป็นอะไรมาก"

"พ่ะย่ะค่ะ"

“ข้ายังมีสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นข้าคงต้องขอตัวก่อนแล้ว” ลั่วชิงยวนหันหลังกลับและเดินออกจากเรือนนอนไป

ฟู่อวิ๋นโจวตามออกมา สีหน้าของเขาดูเบาใจลงมาก ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า "ชิงยวน ทำไมไม่มาดื่มชากับข้าที่เรือนเสียหน่อยเล่า"

ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อยและเหลือบมองไปทางเรือนนอนของเขา

ฟู่อวิ๋นโจวจึงตระหนักได้ถึงบางอย่าง ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ดูเขินอายขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่นแล้วเอ่ยขึ้นว่า "ช่างเถิด ดูจากสภาพเช่นนี้แล้ว คงไม่เหมาะเชิญแขกดื่มชาสักเท่าไหร่"

น้ำเสียงขมขื่นและท่าทางด้อยค่าตัวเองเช่นนี้ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บปวดใจ ก่อนนางจะรีบพูดขึ้นว่า "ไม่ ไม่ หม่อมฉันมิได้รังเกียจ เพียงแต่ตอนนี้ดึกเกินไปแล้ว..."

“โอ้ ใช่ ข้าสะเพร่าเอง สถานะระหว่างเจ้ากับข้าไม่เหมาะจะอยู่กันลำพังภายในเรือนนอน” ฟู่อวิ๋นโจวยิ้มอีกครั้งและผายมือเชิญชวน “เช่นนั้นให้ข้าไปส่งเจ้าก็แล้วกัน”

ลั่วชิงยวนพยักหน้าและออกจากเรือนทิศใต้ไปพร้อมกับเขา

ในอีกเรือนนอนหนึ่ง

หมอกู้ยกมือขึ้นไพล่หลังและยืนอยู่หลังประตูมองดูร่างของคนทั้งคู่เดินออกไปจนลับตา จากนั้น เขาก็เดินไปที่กระจกทองสัมฤทธิ์ และมองดูอักขระเวทย์ที่เขียนบนหน้าผากอย่างระมัดระวัง

เขายกมือขึ้นเช็ดออกด้วยความรังเกียจ "แมวสามขารู้จักแกล้งปลอมเป็นหมาจิ้งจอก"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย