“องค์ชายห้า ท่านรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่เพคะ?” ลั่วชิงยวนคิดว่า เขาคงได้รับผลกระทบจากวิญญาณร้ายเช่นกัน แต่เมื่อนางเข้าใกล้เขามากขึ้น นางก็ยังไม่เห็นวิญญาณชั่วร้ายอยู่รอบตัวเขาเลยแม้แต่น้อย
“แค่ก แค่ก…” ฟู่อวิ๋นโจวไอเสียงแหบแห้งแล้วพูดว่า “มิใช่ข้าหรอก แต่เป็นหมอกู้ต่างหาก”
“หมอกู้อย่างนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว
ฟู่อวิ๋นโจวยืนขึ้นและพานางไปอีกห้องหนึ่งในเรือนทิศใต้ เมื่ออีกฝ่ายเปิดประตูเข้าไปกลิ่นสมุนไพรเข้มข้นก็ตีกระทบจมูกของนางอย่างหนักหน่วง จนทำให้นางอึดอัดและรู้สึกไม่ดีนัก
ประตูและหน้าต่างภายในห้องนั้นถูกปิดเอาไว้ อากาศภายในไม่ถ่ายเทเลยแม้แต่น้อย
หมอกู้นอนอยู่บนเตียงอย่างโรยแรง เมื่อเห็นคนเดินเข้ามา เขาก็หยัดกายขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนเอ่ยปาก "องค์ชายห้า… พระชายา..."
ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนได้เต็มเท้า ร่างกายของเขาก็สั่นไหวและทำท่าจะล้มลง
เด็กรับใช้รีบเข้าไปพยุงเขาอย่างรวดเร็ว
“ท่านหมอกู้ เชิญนั่งลงก่อน ไม่ต้องมากพิธี ข้าเป็นคนขอให้พระชายามาดูอาการท่านเอง ดูเหมือนท่านจะถูกวิญญาณร้ายครอบงำอย่างไรอย่างนั้น” ฟู่อวิ๋นโจวกล่าวอย่างเคร่งขรึม
ถูกวิญญาณร้ายครอบงำอย่างนั้นหรือ?
ลั่วชิงยวนมองไปที่หมอกู้ อย่าว่าแต่ร่างกายของเขาเลย ในเรือนทิศใต้แห่งนี้ไม่มีรัศมีชั่วร้ายอยู่เลยด้วยซ้ำ เขาจะถูกวิญญาณร้ายครอบงำได้อย่างไร?
สายตาของนางไม่ได้บกพร่อง นางก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยถามขึ้นว่า "มีอะไรผิดปกติกับท่านอย่างนั้นหรือ?"
“กระหม่อม… มีอาการแน่นหน้าอก หงุดหงิดเล็กน้อย แต่กระหม่อมกินยาแล้ว แต่อาการก็ไม่บรรเทาลง อาการเช่นนี้คล้ายกับอาการของคนที่ตำหนักนี้เมื่อคืนไม่มีผิด” หมอกู้กุมหน้าอกของเขาด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก ขณะกล่าว
อย่าว่าแต่อาการคลุ้มคลั่งเลย อาการเจ็บปวดของเขาก็มิได้รุนแรงอะไรเลยด้วยซ้ำ
หลังจากตรวจดูอย่างใกล้ชิด ลั่วชิงยวนก็สามารถบอกได้เลยว่า เขาแทบไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยอะไรเลย อีกทั้งหมอกู้ก็ถือว่าเชี่ยวชาญด้านการแพทย์มาก มีหรือที่จะไม่เข้าใจอาการเจ็บป่วยของตน?
ข้อสันนิษฐานและคำถามมากมายผุดขึ้นในหัวของนางราวกับดอกเห็ด
“ชิงยวน หมอกู้มีอาการเช่นนี้และพยายามรักษาตัวเองแล้ว ทว่าเขากลัวว่าจะเกิดปัญหายุ่งยากจึงมิได้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปให้ใครไม่รู้มากนัก นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าเชิญเจ้ามาที่นี่ให้มาดูอาการของหมอกู้ในนามของตัวเอง" ฟู่อวิ๋นโจวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจากด้านข้าง
ลั่วชิงยวนพูดออกไปด้วยท่าทีจริงจัง "อาการของหมอกู้นับว่าไม่ใช่เล่น ๆ เลย โชคดีที่ท่านหมอกู้ใช้โอสถเพื่อระงับอาการบ้างแล้ว ไม่เช่นนั้นจะต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่"
"นั่น..." การแสดงออกของฟู่อวิ๋นโจวเปลี่ยนไป
ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นอย่างมีเลศนัย "องค์ชายห้า มิต้องกังวล รอให้หม่อมฉันวาดอักขระเวทย์เสียก่อน!"
หลังจากพูดจบ นางก็กัดนิ้วตัวเองและลากนิ้วไปบนหน้าผากของหมอกู้สองสามจังหวะ ด้วยจังหวะเคลื่อนไหวที่เกินธรรมดาไปมาก แม้อักขระเวทย์จะดูไม่ต่างจากเดิม แต่มันก็ดูเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไม่น้อยทีเดียว
หลังจากวาดอักขระเวทย์เสร็จ หมอกู้ก็กลับมานั่งตัวตรง และแตะบนอกของเขาด้วยความตกใจ ก่อนพูดขึ้นว่า "กระหม่อมหายแล้ว!"
“ไม่นึกเลยว่า พระชายาจะมีความสามารถเช่นนี้ น่าเลื่อมใสนัก!”
หมอกู้ยืนขึ้น ยกหมัดขึ้นชนกับฝ่ามืออีกข้างก่อนทำความเคารพ
รอยยิ้มบนใบหน้าของลั่วชิงยวนดูคล้ายภูมิใจเล็ก ๆ "หมอกู้พยายามรักษาองค์ชายห้าอย่างเต็มที่เช่นนี้ มีท่านอยู่องค์ชายคงไม่เป็นอะไรมาก"
"พ่ะย่ะค่ะ"
“ข้ายังมีสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นข้าคงต้องขอตัวก่อนแล้ว” ลั่วชิงยวนหันหลังกลับและเดินออกจากเรือนนอนไป
ฟู่อวิ๋นโจวตามออกมา สีหน้าของเขาดูเบาใจลงมาก ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า "ชิงยวน ทำไมไม่มาดื่มชากับข้าที่เรือนเสียหน่อยเล่า"
ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อยและเหลือบมองไปทางเรือนนอนของเขา
ฟู่อวิ๋นโจวจึงตระหนักได้ถึงบางอย่าง ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ดูเขินอายขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่นแล้วเอ่ยขึ้นว่า "ช่างเถิด ดูจากสภาพเช่นนี้แล้ว คงไม่เหมาะเชิญแขกดื่มชาสักเท่าไหร่"
น้ำเสียงขมขื่นและท่าทางด้อยค่าตัวเองเช่นนี้ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บปวดใจ ก่อนนางจะรีบพูดขึ้นว่า "ไม่ ไม่ หม่อมฉันมิได้รังเกียจ เพียงแต่ตอนนี้ดึกเกินไปแล้ว..."
“โอ้ ใช่ ข้าสะเพร่าเอง สถานะระหว่างเจ้ากับข้าไม่เหมาะจะอยู่กันลำพังภายในเรือนนอน” ฟู่อวิ๋นโจวยิ้มอีกครั้งและผายมือเชิญชวน “เช่นนั้นให้ข้าไปส่งเจ้าก็แล้วกัน”
ลั่วชิงยวนพยักหน้าและออกจากเรือนทิศใต้ไปพร้อมกับเขา
ในอีกเรือนนอนหนึ่ง
หมอกู้ยกมือขึ้นไพล่หลังและยืนอยู่หลังประตูมองดูร่างของคนทั้งคู่เดินออกไปจนลับตา จากนั้น เขาก็เดินไปที่กระจกทองสัมฤทธิ์ และมองดูอักขระเวทย์ที่เขียนบนหน้าผากอย่างระมัดระวัง
เขายกมือขึ้นเช็ดออกด้วยความรังเกียจ "แมวสามขารู้จักแกล้งปลอมเป็นหมาจิ้งจอก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กลับมาอัพแล้ว เย่ๆ🥰...
รออ่านตอนต่อไปค่ะ...
รออ่านอยู่นะคร้าาาาาาา...
ไม่อัพแล้วรึคะ...
รออ่านอยู่ค่ะ...
ต่อค่ะต่อ...