“ท่านเซียนฉู่ออกเดินทางไปแล้ว เขามิอยู่ ท่านอ๋องโปรดกลับไปเถิดเพคะ” ซ่งเชียนฉู่ปฏิเสธ
ลั่วชิงยวนเดินไปข้างหน้าและเห็นฟู่เฉินหวนที่กำลังเมา ในมือถือไหสุราไว้
เขาพิงประตูเอาพลางเอามือแนบ และถามอย่างเมามายว่า “เขาออกเดินทางไปตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดข้ามิรู้เรื่องนี้"
“เขาออกไปเอง มิได้บอกใครเอาไว้!” ซ่งเชียนฉู่มิสามารถปิดประตูได้ น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย
“จริงหรือ?” ฟู่เฉินหวนฟังดูผิดหวังเล็กน้อยและค่อย ๆ นั่งพิงกำแพง
ซ่งเชียนฉู่หาจังหวะปิดประตู
นางใช้ไม้ค้ำประตูไว้ด้านหลังประตู
กลับมาที่ลานบ้าน ลั่วชิงยวนถามว่า “เขามาที่นี่บ่อยหรือไม่?”
ซ่งเชียนฉู่พยักหน้า “มาบ่อยอยู่”
“แต่ปกติเขาจะมาตอนที่มีสติ พอรู้ว่าเจ้ามิอยู่ก็จะกลับไป”
“ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นท่านเป็นสหายจริง ๆ แต่ยิ่งเจ้าใกล้ชิดกับคนเช่นนี้มากเท่าไร ก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น ดังนั้นอย่าไปยุ่งกับเขาจะดีกว่า”
ซ่งเชียนฉู่กลั้นหายใจ
นางมิถือสาที่เขาทำร้ายลั่วชิงยวนก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้การทำลายวรยุทธของนางนั้นมันมากเกินไป!
นางรับมิได้แล้ว!
ลั่วชิงยวนรู้สึกสับสน และมิสนใจเขาอีก
คืนนี้แสงจันทร์สุกสกาว ดังนั้นลั่วชิงยวนจึงปีนขึ้นไปบนหลังคา หยิบเข็มทิศออกมาให้มันริ่มดูดซับพลังจากฟ้าดิน
นี่เป็นวิธีการฝึกสมาธิขั้นพื้นฐานที่สุด แต่ตอนนี้ลั่วชิงยวนทำได้เพียงวิธีนี้เท่านั้น เพื่อจะได้ซ่อมแซมเส้นลมปราณที่เสียหายโดยเร็วที่สุด
นั่งสมาธิไปจนใกล้เที่ยงคืน
กระทั่งได้ยินการเคลื่อนไหวใต้ชายคานั้น ลั่วชิงยวนก็ตื่นขึ้นมา
ดูเหมือนจะมีคนอยู่ข้างนอก
นางลงจากหลังคาแล้วเปิดประตูออกไปด้านนอก
จากนั้นก็เห็นฟู่เฉินหวนนั่งอยู่บนบันไดหิน
เขาเมาแล้ว นอนอยู่หน้าประตูราวกับกองโคลน
ลั่วชิงยวนตกตะลึง นี่หรือคือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ?
"พ่ะย่ะค่ะ" ลั่วชิงยวนพูดเบา ๆ “กระหม่อมจะมิดื่มแล้ว ท่านดื่มคนเดียวเถอะ”
ฟู่เฉินหวนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากดื่มคนเดียว
เหล้ามิพอ ลั่วชิงยวนจึงให้ซ่งเชียนฉู่ไปเอามาอีกไห
ซ่งเชียนฉู่มิกล้าแสดงความมิพอใจมากเกินไป เพราะกลัวที่จะเปิดเผยตัวตนของฉู่ลั่ว
หลังจากส่งเหล้าแล้ว ซ่งเชียนฉู่ก็กลับมาที่ห้อง
ลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนถูกทิ้งให้นั่งอยู่ในลานตามลำพัง
เมื่อมองดูฟู่เฉินหวนดื่มเหล้าจอกแล้วจอกเล่า ลั่วชิงยวนก็เอ่ยถามขึ้นว่า “มีอะไรกวนใจท่านอยู่หรือ?”
“ท่านอ๋อง ดื่มจนเมาเช่นนี้ มิกลัวเกิดเรื่องหรือ?”
ฟู่เฉินหวนหัวเราะเบา ๆ “ที่นี่เท่านั้นที่ข้ากล้าทำเช่นนี้”
ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าฟู่เฉินหวนจะเชื่อใจนางจริง ๆ
ทันใดนั้นฟู่เฉินหวนก็มองดูนางอย่างจริงจังอีกครั้งและถามว่า “บอกข้าหน่อยสิ ใต้หล้านี้มีวิธีการควบคุมคนหรือไม่?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็มองดูเขาด้วยความประหลาดใจ “ควบคุมคน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...