หลังจากคิดอยู่นาน ลั่วชิงยวนก็กลับมาสนใจเครื่องยาสมุนไพรชุดนั้นอีกครั้ง
สนหิมะเขาฉีซานอาจจะยังอยู่ในนั้น
นางต้องหามันอีกครั้ง!
นางต้องไปอย่างเงียบ ๆ มิเช่นนั้นลั่วเยวี่ยอิงอาจจะเข้าใกล้ไปอีกขั้น และฟู่เฉินหวนจะไม่มีวันมอบสนหิมะเขาฉีซานให้นาง
เมื่อเปิดประตู จือเฉาก็รีบนำอาหารมา และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหน้านาง
“พระชายา เหตุใดท่านจึงอิดโรยเช่นนี้เล่าเจ้าคะ?”
ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะมองในกระจก
ใบหน้านางซีดเซียว ไม่มีชีวิตชีวา ใต้ตาดำคล้ำ เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
ลั่วชิงยวนมีลางสังหรณ์มิดี
ก่อนหน้านี้มิเคยอิดโรยเท่านี้มาก่อน
“พระชายา บางทีท่านอาจมิได้กินอาหารมานานแล้วมาทานอะไรหน่อยเถิดเจ้าค่ะ”
ลั่วชิงยวนนั่งที่โต๊ะเพื่อกินอาหาร
นางถาม “ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง? เขามิได้ไปแคว้นหลีใช่หรือไม่?”
จือเฉาส่ายหัว “สองวันมานี้ท่านอ๋องงานล้นมือ ตอนกลางคืนก็มิอยู่ในตำหนักเจ้าค่ะ”
“บ่าวถามซูโหยวแล้ว เขาบอกว่าท่านอ๋องยังมิได้สั่งการให้ไปแคว้นหลีเจ้าค่ะ”
“คิดว่าท่านอ๋องคงจะมิเสด็จไป”
ดวงตาของลั่วชิงยวนเป็นประกาย ฟู่เฉินหวนในเวลากลางคืนอยู่นอกตำหนัก เพื่อหลีกเลี่ยงลั่วเยวี่ยอิง
นี่มิใช่โอกาสที่ดีสำหรับนางที่จะแอบเข้าไปในโรงเก็บสมุนไพรตอนกลางคืนหรือ!
“ห้องเก็บของทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าไปดูมาหรือยัง?” ลั่วชิงยวนถาม
จือเฉาส่ายหัว ตักน้ำแกงให้นางแล้ว ก็พูดทันทีว่า “บ่าวจะไปดูเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”
หลังจากนั้นมินานจือเฉาก็กลับมา
“ห้องเก็บของทางนั้นคุ้มกันแน่นหนามาก บ่าวนับดูแล้วมีคนคุ้มกันในสวนกว่าสามสิบคนแล้วเจ้าค่ะ”
“ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็สะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นโบกมือให้จือเฉาเข้ามาใกล้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...