ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 87

นางพยายามกลั้นสะอื้นและกล่าวว่า “แล้วอย่างไร? ท่านอ๋องวางแผนจะจัดการกับหม่อมฉันเช่นไร?”

ฟู่เฉินหวนสีหน้ามืดครึ้ม “ลั่วชิงยวน อย่ารนหาเรื่อง”

“ข้าบอกตอนไหนว่าจะทำข้อตกลงกับเจ้า?”

ลั่วชิงยวนสงบจิตใจลง แววตานางกลับเป็นเย็นชา นางมองเขาและถามเรียบ ๆ “ทำไมท่านอ๋องต้องแสร้งทำเป็นโง่ด้วย? ท่านรู้ดีอยู่แล้วมิใช่หรือว่าหม่อมฉันต้องการอะไร?”

“นอกจากของของท่านแม่ หม่อมฉันก็ไม่ต้องการอย่างอื่น”

ฟู่เฉินหวนนิ่วหน้า เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะเห็นด้วย “ตกลง”

“แต่ข้าเองก็มีเงื่อนไข”

ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วอย่างเฉยชา

ฟู่เฉินหวนพูดเสียงต่ำ ๆ ว่า “ประการแรก กำจัดค่ายกลชุมนุมปีศาจซะ”

“สอง ห้ามจ้องเล่นงานเยวี่ยอิงอีก”

“ตราบใดที่เจ้าทำตัวดี ข้าก็จะให้ถุงหอมเจ้า”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็กำมือแน่น นี่มันไม่ต่างกับมาทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจกันโดยที่นางไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลยใช่หรือไม่?

“เงื่อนไขนี้ต้องดำเนินไปนานแค่ไหน?” นางถามพร้อมกัดฟันแน่น

“ไม่มีเวลาแน่ชัด และข้าก็ไม่แน่ใจว่าจะให้ถุงหอมเจ้าตอนไหน” ขณะที่ฟู่เฉินหวนพูดเช่นนี้ สีหน้าเขาก็จริงจัง

“ท่าน!” ลั่วชิงยวนผุดลุกขึ้นทันที

นี่มันจะมากเกินไปแล้ว

ฟู่เฉินหวนหรี่ตาลงเล็กน้อยและมองนาง น้ำเสียงเย็นเยียบของเขาแฝงแววข่มขู่ “นอกจากข้าแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครจะช่วยเจ้าได้”

“ทั้งฟู่อวิ๋นโจวและไทเฮา หนึ่งในหมากทั้งสองของเจ้านี้มีตัวที่ใช้การมิได้”

เขายกยิ้มเย็นและพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “แม้พวกเขาเต็มใจจะช่วยเจ้า ข้าก็อาจจะไม่ยอมให้เจ้าได้สิ่งที่ต้องการดังใจ”

นี่มันคือการข่มขู่!

การขู่แบบซึ่งหน้า!

ลั่วชิงยวนเก็บกลั้นโทสะที่มีไว้ในใจ

ใช่แล้ว นางมิกล้า

ตอนนี้นางยังไม่มีความสามารถมากพอจะต่อกรกับอ๋องผู้สำเร็จราชการ

อำนาจเกือบทั้งหมดของแคว้นเทียนเชวียนั้นแบ่งกันอยู่ระหว่างตระกูลเหยียนและฟู่เฉินหวน ไม่เป็นการอวดอ้างเกินไปหากจะบอกว่าฟู่เฉินหวนนั้นมีอำนาจล้นฟ้า

ลั่วเยวี่ยอิงนั้นชอบพอฟู่เฉินหวน ดังนั้นนางจึงสามารถมอบถุงหอมให้เขาตอนไหนก็ได้ แต่เมื่อของตกมาอยู่ในมือของเขา ย่อมมิอาจแย่งชิงมาได้โดยง่ายแม้ว่าไทเฮาจะเอื้อมมือมาใช้อำนาจก็ตาม

ที่สำคัญนางไม่อยากจะไปหาทั้งไทเฮาและฟู่อวิ๋นโจว

นางนึกถึงของในถุงหอม บนนั้นมีสัญลักษณ์สริยันจันทราแห่งราชวงศ์แคว้นหลี่ ยามที่แคว้นหลี่และแคว้นเทียนเชวียยังมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน แคว้นหลี่ได้ส่งของล้ำค่ามาให้มากมาย ซึ่งของพวกนั้นก็มีสัญลักษณ์สริยันจันทราแห่งแคว้นหลี่

หากว่าไทเฮาได้ถุงหอมไปและเปิดออกดู พระนางอาจจะจำได้ว่านี่เป็นของราชวงศ์แคว้นหลี่

ถ้าเป็นเช่นนั้นลั่วชิงยวนก็จะเป็นอันตราย

ในฐานะของบุตรสาวอัครมหาเสนาบดี นางมีความเกี่ยวของกับราชวงศ์ของแคว้นศัตรู สิ่งที่รอนางอยู่ก็มีแต่ความตายเท่านั้น

ดังนั้นยิ่งมีคนรู้เรื่องถุงหอมนี้น้อยเท่าไร นางก็ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น

“ตกลง ข้าจะยอมทำตามเงื่อนไขของท่าน แต่ว่าอาคมชุมนุมปีศาจนั้นเป็นหมากตาสุดท้ายของข้า ข้าจะช่วยท่านแก้ค่ายกลนี้เท่านั้นและวันนั้นท่านต้องมอบถุงหอมคืนให้ข้า”

“ก่อนจะถึงตอนนั้น ข้าทำได้เพียงพยายามเต็มที่ที่จะช่วยแก้หายนะที่เกิดจากอาคมชุมนุมปีศาจ”

น่าขันนัก หากว่าเอาอาคมชุมนุมปีศาจมาต่อรองกันตอนนี้ แล้วต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นหากว่าเขากลับคำพูดและแสร้งทำเป็นว่าจำไม่ได้?

ฟู่เฉินหวนนิ่วหน้า แต่เขาก็ยอมตกลง

“ย่อมได้”

ในที่สุดก็สามารถตกลงกันเรียบร้อย

ลั่วชิงยวนกำลังจะหันหลังเดินออกไป

แต่เขากลับพูดขึ้นว่า “ข้าขอเพิ่มเงื่อนไขอีกข้อ”

ลั่วชิงยวนตกตะลึงและมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

คนผู้นี้เกินไปมากจริง ๆ

ฟู่เฉินหวนมองนางด้วยแววตาลึกล้ำเย็นชา

“ข้าจะไม่ทนกับความสัมพันธ์คลุมเครือของเจ้ากับฟู่อวิ๋นโจวอีกแล้ว ข้าไม่ต้องการให้คนติฉินนินทาเรื่องนี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย