ลั่วชิงยวนกำมือแน่นจนเล็บแทบจิกเข้าไปในเนื้อเพราะความขุ่นเคือง
“องค์ชายห้ากับหม่อมฉันบริสุทธิ์ใจ! ระหว่างเราไม่เคยทำอะไรเกินเลยที่ไม่เหมาะสม”
นางถามเสียงเย็น “ท่านอ๋องสิ พลอดรักกับลั่วเยวี่ยอิงทั้งต่อหน้าและลับหลังผู้คน เหตุใดท่านถึงไม่กลัวว่าจะโดนติฉินนินทาเรื่องนั้นบ้าง?”
เส้นเลือดบนหน้าผากของฟู่เฉินหวนยิ่งเต้นกระตุกแรงขึ้น ดวงตาเขาเต็มไปด้วยโทสะและมือที่วางบนโต๊ะก็กำเป็นหมัดแน่น
เขาเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาเปี่ยมโทสะ “ตอนนี้เจ้ากล้ามาวิจารณ์ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเยวี่ยอิงเช่นนั้นรึ? หากว่าไม่มีเจ้าตอนนี้เราก็ต้องได้ครองคู่กันแล้ว”
“ลั่วชิงยวน ข้าหวังว่าเจ้าจะเจียมตัวกว่านี้นะ”
ทันใดนั้นใจของนางก็บีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก นางกำมือแน่นพยายามเก็บกลั้นความรู้สึกในใจ
ใช่แล้ว การสวมรอยแต่งงานของนางนี้ทำลายการแต่งงานดี ๆ ของพวกเขาไป
แต่นางไม่ควรต้องโดนกล่าวหาเช่นนี้
หลังจากที่กล้ำกลืนความขมฝาดในใจลงไป นางก็มองเขานิ่ง ๆ ด้วยสายตาเย็นชาและเอ่ยว่า “หากเช่นนั้นได้โปรดคืนถุงหอมหม่อมฉันมาโดยเร็ว เพื่อที่หม่อมฉันจะได้มอบการแต่งงานที่ดีนี้คืนให้แก่พวกท่าน”
หลังจากพูดจบนางก็หันหลังเดินออกไป
ร่างนั้นฉายความมุ่งมั่นเด็ดขาด
ในใจของฟู่เฉินหวนมีคลื่นปั่นป่วนสายหนึ่งก่อตัวขึ้น
หากว่าสตรีนางนี้มุ่งมั่นในเป้าหมายและไม่แยแสเช่นนั้น เหตุใดนางไม่แต่งงานกับคนอื่นไปเสียแต่แรก!
ตอนนี้เขามั่นใจมากกว่านางนั้นเป็นฝ่ายผิด
แววตาเขาเกรี้ยวกราดและใช้กำปั้นทุบโต๊ะทำงานอย่างแรง
……
เมื่อลั่วชิงยวนกลับเข้ามาในห้อง นางก็เหนื่อยมากจนตรงดิ่งไปที่เตียงและหลับไปทันที
จือเฉาไปเอาน้ำมาเช็ดหน้าและมือให้ลั่วชิงยวนก่อนที่จะปิดประตูออกจากห้องไป
แม่บ้านเติ้งนั้นอารมณ์ดีและเดินถือของว่างเข้ามา “พระชายาหิวหรือไม่? บ่าว…”
จือเฉารีบบอกให้ป้าเติ้งเงียบเสียง “พระชายาบรรทมแล้ว พระนางดูเหนื่อยมาก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แม่นมเติ้งก็ลดเสียงลงแล้วถอนใจ “พระชายาต้องเสียโลหิตไปมากเพียงนั้นแล้วจะไม่เหนื่อยได้เช่นไร? ข้าเป็นห่วงวรกายของพระชายานัก… แม้พระนางจะดูเหมือนว่าแข็งแกร่งแต่ที่จริงแล้วอ่อนแอมาก พระชายาต้องบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า คืนนี้ก็เสียเลือดไปตั้งมากมาย…”
นางเสริมว่า “พรุ่งนี้เจ้าไปที่ห้องโอสถแล้วขอโอสถบำรุงเลือดมาด้วยนะ”
จือเฉาพยักหน้าอย่างเป็นกังวล “เจ้าค่ะ”
…
กลางดึกคืนนั้นลั่วเยวี่ยอิงยังไม่หลับ นางนั่งรออย่างกระวนกระวายอยู่ในห้อง
ในที่สุดเฉียงเวยก็กลับมา
“เป็นอย่างไรบ้าง? ข้ามิได้ยินเสียงอะไรในตำหนักแล้ว ตอนนี้น่าจะปลอดภัยใช่ไหม?” ลั่วเยวี่ยอิ่งหวาดกลัวมากเมื่อนางนึกถึงชายเสียสติผู้นั้น
“ไม่มีอะไรแล้วเจ้าค่ะคุณหนู พระชายามาช่วยจัดการความวุ่นวายคืนนี้เรียบร้อยแล้ว” เฉียงเวยพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ข้าไปเที่ยวถามคนที่หลังเรือน ได้ยินแต่คนชื่นชมความกล้าหาญ ความใจกว้างและมีน้ำใจของพระชายา”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วเยวี่ยอิงก็ผุดลุกขึ้นทันที “อะไรนะ?” ก่อนนี้ไม่เคยมีใครเอ่ยชมนางมาก่อนด้วยซ้ำ
แล้วนางสารเลวนั่นมีดีอะไรถึงได้รับคำชื่นชมเช่นนี้!
“ข้าก็ไม่รู้เจ้าค่ะว่าคืนนี้พระชายาทำอะไร พวกข้ารับใช้ในตำหนักต่างก็พากันเทิดทูนนาง มาฉกฉวยโอกาสหาคำชื่นชมจากคราวเคราะห์ของคนอื่น ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก” เฉียงเวยพูดอย่างขุ่นเคือง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กลับมาอัพแล้ว เย่ๆ🥰...
รออ่านตอนต่อไปค่ะ...
รออ่านอยู่นะคร้าาาาาาา...
ไม่อัพแล้วรึคะ...
รออ่านอยู่ค่ะ...
ต่อค่ะต่อ...