ลั่วชิงยวนนอนหลับไปจนถึงบ่าย ตะวันโด่งฟ้าส่องแสงเจิดจ้า นางฝืนร่างกายที่เหนื่อยล้าให้ลุกขึ้นและตั้งใจจะออกไปนั่งอาบแดด
แม่นมเติ้งนำอาหารและยาเข้ามาให้ “พระชายาเจ้าคะ ตื่นได้แล้ว กินอะไรสักหน่อยแล้วกินยา ยานี้เป็นโอสถบำรุงโลหิตที่ทางเรือนโอสถจ่ายมาให้เจ้าค่ะ”
“โอสถบำรุงโลหิตงั้นรึ?” คนอย่างเขาก็มีจิตสำนึกเหมือนกันนะ
ลั่วชิงยวนลุกนั่งและหยิบชามยาขึ้นมาดื่ม แต่หลังจากจิบไปอึกใหญ่ก็รู้สึกได้ว่า ยานั้นมีบางอย่างผิดปกติและรีบพ่นออกมา
นางนิ่วหน้าและวางชามยาลง อาการบวมและความเจ็บปวดของแผลบนแขนนางเกิดขึ้นมาทันที และเลือดก็ดูเหมือนจะเดือดพล่านซึมออกมาจากแผล
“พระชายา เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ?” แม่นมเติ้งตกใจ
ดวงตาลั่วชิงยวนเย็นเยียบ นางปรายตามองไปที่ยาในชาม นี่ไม่ใช่ยาบำรุงเลยแม้แต่น้อย ตัวยาที่อยู่ในนี้มีแต่จะทำให้บาดแผลอาการเลวร้ายลงและเลือดไหลออกมาได้อีก
โดยเฉพาะเมื่อมีการเพิ่มแมลงเก้ากลิ่นซึ่งถือว่ารุนแรงมากเข้าไปด้วย
หากว่านางกินน้ำแกงยาชามนี้เข้าไป ไม่เพียงแต่พลังชี่และเลือดของนางจะปั่นป่วน แต่บาดแผลของนางก็จะเปิดออกและเลือดจะไหลทะลักไม่หยุด ด้วยสภาพของร่างกายนางในตอนนี้หากไม่ตายก็คงจวนเจียน
“โอสถนี้ได้มาจากที่ไหน? ซูโหยวเป็นคนส่งมาให้รึ?” ลั่วชิงยวนนิ่วหน้าถาม
“โอสถนี้มีอะไรผิดปกติเหรอเจ้าคะ? โอสถนี่… จือเฉาเป็นคนเอามา” แม่นมเติ้งเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“แล้วจือเฉาอยู่ที่ไหน?”
“นางน่าจะอยู่ในห้องนะเจ้าค่ะ” แม่นมเติ้งตอบ
ลั่วชิงยวนลุกขึ้นทันที
“จือเฉา?” ลั่วชิงยวนผลักประตูเดินเข้าไปในห้องของจือเฉา
นางเห็นร่างเล็กคู้ตัวอยู่ที่มุมห้อง แผ่นหลังของจือเฉาสั่นเทิ้มอย่างคุมไม่อยู่และนางก็ดูเหมือนกำลังร่ำไห้
“จือเฉา เกิดอะไรขึ้น?”
ลั่วชิงยวนรีบเดินเข้ามาดมกลิ่นของเลือด นางเลิกคิ้วและตบบ่าจือเฉา
จือเฉาหันหน้ามา ในปากของนางเต็มไปด้วยเลือด สีหน้าของนางมืดครึ้ม ริมฝีปากและบริเวณโดยรอบมีรอยเลือดที่เกิดจากเข็มทิ่มเต็มไปหมด รอยแผลพวกนั้นบวมแดงก่ำ จือเฉาน้ำตาอาบหน้าด้วยความเจ็บปวด “พระชายา…”
นางอ้าปากพูดและร้องออกมาอย่างทรมาน
ตอนนั้นเองดวงตาของลั่วชิงยวนก็สั่นระริก
“ทำไมเจ้าถึงได้เป็นเช่นนี้ได้?”
ลั่วชิงยวนมองออกว่าตอนนี้ทั้งร่างของจือเฉาเต็มไปด้วยพิษ
จนตัวนางเกือบกลายเป็นพิษเสียเอง
แม่นมเติ้งหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว “จือเฉา เจ้า…”
“บ่าว… บ่าว…” จือเฉาคู้ตัวเพราะความเจ็บปวดอีกหน ความเจ็บนี้มันหนักจนนางพูดไม่ออก นางอยากเอามือแตะริมฝีปากและใบหน้าแต่ก็ไม่กล้าเพราะความเจ็บปวด จือเฉาตัวสั่นเทิ้ม เมื่อนางยืนขึ้นเลือดในปากที่ปนกับพิษก็กระอักออกมาไม่หยุด หยดลงนองกับพื้น
ภาพนี้มันเลวร้ายเกินจะทนมองได้
แม่นมเติ้งตาแดงก่ำเมื่อได้เห็นเช่นนี้ นางรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและจะเดินเข้าไปเช็ดให้จือเฉา แต่ลั่วชิงยวนก็ห้ามเอาไว้ “อย่าเข้าไปใกล้นาง ตอนนี้ทั้งร่างนางเต็มไปด้วยพิษ”
“ถ้าเช่นนั้น…” สีหน้าแม่นมเติ้งเปลี่ยน นางรู้สึกเป็นห่วงพระชายา
ลั่วชิงยวนคว้าข้อมือจือเฉามาจับชีพจร ในร่างของนางมีพิษหลากหลายชนิดที่มีเจตนาจะทรมานจือเฉาจนทั้งตับและลำไส้ฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ และทำให้อวัยวะภายในต้องเน่าเฟะเพราะฤทธิ์ของพิษ
เป็นวิธีการที่ชั่วช้ายิ่งนัก
“มีคนจากเรือนโอสถเป็นคนทำใช่ไหม?” ลั่วชิงยวนไม่คิดว่าขนาดมีแม่นมเติ้งเป็นแม่บ้านแล้ว ก็ยังมีคนรับใช้ในตำหนักนี้กล้าที่จะทำเรื่องเช่นนี้
หากว่าคิดไตร่ตรองให้ดี เรื่องพวกนี้ต้องเกี่ยวข้องกับลั่วเยวี่ยอิงเป็นแน่
จือเฉาพูดไม่ออก แต่แววตาของนางก็บอกให้รู้ทุกอย่าง
“แม่นมเติ้ง เอามีดและชามมาให้ข้า”
แม่นมเติ้งรีบนำมีดและชามมาทันที
ลั่วชิงยวนคว้าแขนจือเฉามาและกรีดเอาเลือดโดยที่จือเฉาต่อต้านขัดขืนอะไรไม่ได้
เลือดหยดลงมาใส่ชาม หลังจากที่รองเลือดได้ครึ่งชาม นางก็สั่งว่า “เอาเลือดในชามนี่ไปเก็บไว้ มันจะได้ใช้”
เมื่อสั่งแม่นมเติ้งเรียบร้อย นางก็อุ้มจือเฉาขึ้นมาแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
แม่นมเติ้งอยากจะตามไปด้วยเพื่อช่วยอีกแรง แต่ลั่วชิงยวนก็ตวาดไปว่า “อย่าตามข้ามา”
ตัวนางนั้นโดนพิษแล้ว และนางไม่อาจให้แม่นมเติ้งพลอยโดนไปอีกคนได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กลับมาอัพแล้ว เย่ๆ🥰...
รออ่านตอนต่อไปค่ะ...
รออ่านอยู่นะคร้าาาาาาา...
ไม่อัพแล้วรึคะ...
รออ่านอยู่ค่ะ...
ต่อค่ะต่อ...