หลังจากตกใจกับทักษะการทำอาหารของลู่ม่านแล้ว ผู้ดูแลร้านช่ายก็ไม่สงสัยเกี่ยวกับฝีมือการทำอาหารของลู่ม่านอีกต่อไป
เขาจึงรีบตกปากรับคำทันที “ตกลง ภัตตาคารเฟิ่งหลายจะเป็นผู้จัดงานเอง รับรองแม่นางลู่จะไม่ผิดหวังแน่นอน”
หลังจากพูดถึงเงินรางวัล ผู้ดูแลร้านช่ายก็พูดขึ้นว่า “แน่นอนว่ามันเป็นงานที่จัดร่วมกัน แม่นางลู่จะจ่ายคนเดียวไม่ได้ ภัตตาคารเฟิ่งหลายจะจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง เพื่อแสดงถึงความจริงใจของเรา”
ลู่ม่านชอบเพื่อนร่วมงานแบบนี้! จึงยกยิ้มทันที “ถ้าอย่างนี้ขั้นตอนต่อไปคงต้องรบกวนผู้ดูแลร้านช่ายแล้ว”
ภัตตาคารเฟิ่งหลายมีร้านค้าในเครือหลายแห่งทั่วแคว้น ผู้ดูแลร้านช่ายจึงส่งไปรายงานเรื่องนี้ให้จวงลี่จ้งได้รับรู้ทันที หลังจากที่จวงลี่จ้งได้ยินเรื่องนี้ เขาก็อดที่จะยกยิ้มมุมปากไม่ได้ พอนึกถึงใบหน้าที่สดใสของหญิงสาวคนนั้น
“ในเมื่อเจ้าคิดว่าทำได้ ก็จัดการเลย! ภัตตาคารเฟิ่งหลายทั่วทั้งแคว้นให้การสนับสนุนเต็มที่ บอกว่ามันเป็นความประสงค์ของข้า และให้ความร่วมมือกับนางให้ถึงที่สุด”
ผู้ดูแลร้านช่ายได้รับคำยืนยันจึงติดประกาศหน้าภัตตาคารเฟิ่งหลายทันที
โดยบอกว่าทางภัตตาคารเฟิ่งหลายจะจัดการแข่งขันทำอาหารในตำบลชางผิงเป็นที่แรก รางวัลของผู้ชนะเป็นทองคำสอบตำลึง
หลังจากนั้น ภายในเวลาไม่ถึงสองวัน ภัตตาคารเฟิ่งหลายได้ทั่วทั้งแคว้นก็จัดการแข่งขัน จนได้ผู้ชนะจากทุกที่ แล้วมาทำการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่ตำบลชางผิง โดยรางวัลของผู้ชนะก็คือทองคำสิบตำลึง
ลู่ม่านตัดสินใจไว้แล้ว ในรอบชิงชนะเลิศ เธอจะแสดงฝีมือด้วยตัวเอง แน่นอน ว่าต้องมีรอบคัดเลือกในเมืองชางผิงด้วย ถึงแม้อาหารที่นางปรุงจะเอาชนะกระเพาะของทุกคนที่นี่แล้ว แต่อาหารจากเมืองอื่นหรือแคว้นอื่นก็ยังต้องไป
ลู่ม่านลองไปสมัครก่อน นัดหมายคือสามวันหลังจากนี้ จากนั้นนางก็ดินทางกลับบ้านไป
ทันทีที่มีข่าวออกมา ก็เกิดความโกลาหลขึ้นในหมู่บ้านไป่ฮัว ทุกครั้งที่ลู่ม่านกลับมา พวกแม่บ้านวัยกลางคนกำลังคุยกันอยู่ “การแข่งขันทำอาหารภัตตาคารเฟิ่งหลาย เจ้ารู้เรื่องนี้ไหมรู้ไหม”
“พวกเจ้าได้ข่าวมาหรือยัง ที่ชนะการแข่งขันทำอาหารจะได้รับรางวัลเป็นทองสิบตำลึง!” พวกนางต่างมีท่าทางตื่นเต้นกันมาก “ถ้าใครชนะ ก็สามารถพลิกชีวิตได้เลยนะ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“บอกลูกสะใภ้ของเจ้าไปลองด้วยสิ เผื่อนางโชคดีชนะขึ้นมา”
“ไม่ล่ะ ลูกสะใภ้ของข้ามีความสามารถขนาดนั้นที่ไหนกัน”
ลู่ม่านเลิกคิ้ว นางคิดไม่ถึงเลยว่าคนในหมู่บ้านไป่ฮัวจะเจียมเนื้อเจียมตัวกันถึงขนาดนี้ แต่ในวันคัดเลือก ลู่ม่านถึงได้รู้ว่านางคิดมากไปเอง
พวกนางไม่ได้ทำตัวเจียมตัว หรือไม่อยากเป็นที่รู้จักเลย พอมาถึงงาน นางถึงรู้ว่ามาชาวบ้านถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่สมัครเข้ามา
หลังจากเจอหน้ากันทุกคนก็มีท่าทางกระดากอายเล็กน้อย
มีเพียงลู่ม่านที่พูดตั้งแต่แรกว่าจะเข้าร่วมเท่านั้นที่ยืนนิ่งเงียบ
วันนี้นางจะไม่นำซีอิ๊วออกมาใช้ นางจะใช้เป็นไม้ตายสุดท้าย จึงจะถูกนำไปใช้ในรอบชิงชนะเลิศเท่านั้น
พอมองไปรอบๆ ด้าน ก็มีทั้งรุ่นป้าและรุ่นลูกสะใภ้ในหมู่บ้าน ลู่ม่านคิดว่าแค่ทำอาหารที่แปลกใหม่และสร้างสรรค์ก็น่าจะเอาชนะพวกนางได้แล้วล่ะ?
พอคิดได้แบบนี้ ลู่ม่านก็คิดจะทำไก่ยำมะนาว พอดีกับที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักมะนาว ลู่ม่านทำเมนูนี้น่าจะได้คะแนนความคิดสร้างสรรค์ด้วย
ในการแข่งขันไม่มีผู้ช่วยให้ ดังนั้นลู่ม่านจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
ทุกคนจะเริ่มลงมือทำได้ก็ต่อเมื่อผู้ดูแลร้านช่ายสั่งให้เริ่มได้ ผู้เล่นทั้งหมดจึงรีบลงมือทำอาหาร ในงานมีธูปเพียงหนึ่งด้ามจุดไว้ ทุกคนจึงค่อนข้างรีบร้อนมาก
ลู่ม่านไม่ได้ประหม่าเลย นางทำการหั่นผักและล้างส่วนผสมที่ต้องใช้ทั้งหมด จากนั้นลู่ม่านก็เริ่มเตรียมเครื่องปรุงรสที่ใช้ทั้งหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...