ตอน บทที่ 446 ชื่อร้านพระราชทาน จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 446 ชื่อร้านพระราชทาน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ลู่ม่านตกใจ ยังไม่ทันได้คิดอะไร นางก็รีบพุ่งตัวเข้าไป
ในเมืองหลวงนี้ มีแต่บุคคลที่มีอำนาจอยู่ทุกหนทุกแห่ง ถ้าทำให้ใครขุ่นเคืองจริง ๆ ชีวิตคงจะรอดยาก
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป นางก็เห็นเฉินจื่อฉายยืนอยู่ที่นั่นด้วยท่าทางตื่นตระหนก และทำอะไรไม่ถูก มีคนคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ ด้านหน้ามีหม้อไฟตั้งไว้แล้ว
บนโต๊ะ มีน้ำซุปสีแดงหกลงบนโต๊ะเล็กน้อย คงจะเป็นเพราะไม่ทันระวัง หกลงบนโต๊ะ
“ลูกค้าเป็นอะไรหรือเปล่า” ลู่ม่านรู้ว่าต้องจัดการอย่างไร จึงเอ่ยถามออกไป
สาวใช้ที่ที่อยู่ด้านในก็ตะโกนถามเสียงแหลมออกมาทันที “เจ้าเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร”
“ข้าเป็นญาติของเจ้าของร้านนี้” ลู่ม่านพูด “ข้าได้ยินว่ามีเรื่องเกิดขึ้น ก็เลยเข้ามาดู ลูกค้าไมเป็นอะไรก็ดีแล้ว”
“ไมเป็นอะไรก็ดีแล้วอย่างนั้นหรือ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ พวกเจ้าจะรับผิดชอบได้หรือไง” สาวใช้คนนั้นยังคงด่าไม่หยุด เฉินจื่อฉายยังคงหวาดกลัวอยู่ จึงรีบพูดออกมา “เป็นข้าที่ยกหม้อไม่ระวัง ข้าผิดเองที่ทำให้แขกไม่พึงพอใจ...”
ลู่ม่านเหลือบมองไปที่เฉินจื่อฉาย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาจะมีความกล้ายอมรับความผิดเองเช่นนี้
ลู่ม่านเหลือบมองไปที่คนที่นั่งไม่พูดอะไรอยู่ พอมองแวบแรก เขาแต่งตัวเรียบง่ายมาก แต่ว่าเสื้อผ้าของอีกฝ่าย เนื้อผ้าดีมาก แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นเนื้อผ้าราคาแพง
ยิ่งไปกว่านั้น คนคนนั้นดูหน้าตาคุ้นมาก...
ลู่ม่านจำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้ามองอะไรของเจ้า?”
ลู่ม่านยิ้มบาง ไม่สนใจสาวใช้คนนั้นแล้วเดินไปด้านข้างของคนคนนั้น “ฮูหยิน ขอแสดงความยินดีด้วย”
สาวใช้คนนั้นเลิกคิ้วขึ้น “ฮูหยินของข้าเกือบโดนน้ำซุปของพวกเจ้าลวก เจ้าจะแสดงความยินดีอะไร?”
“แน่นอนว่าต้องแสดงความยินดีกับฮูหยินที่มีลางดีเกิดขึ้น เจ้าลองดูว่าน้ำซุปสีแดงที่หกบนโต๊ะเหมือนรูปอะไร?”
หลังจากที่ลู่ม่านพูดจบ ทุกคนก็มองไปที่คราบน้ำซุปบนโต๊ะ คราบน้ำซุปบนโต๊ะก่อตัวกลายเป็นคำว่า “โชคดี”
“โชคดี! นี่มันเรื่องดีไม่ใช่หรือ?”
สาวใช้ส่งเสียงฮึดฮัด “เถียงข้างๆ คู ๆ”
แต่คนที่นั่งเงียบอยู่กลับยิ้มออกมา “เจ้าเป็นคนที่ฉลาดมาก ถ้าอย่างนั้นก็ขอยืมคำพูดมงคลของเจ้า หวังว่าจะมีสิ่งดีจะเกิดขึ้น”
“ต้องมีแน่นอน!” ลู่ม่านยกยิ้มออกมา พอหันไปมองทางเฉินจื่อฉาย ที่ยืนกลัวอยู่ข้างหลัง นางจึงพูดว่า “พี่ใหญ่ รีบออกไปสั่งให้คนมาเสิร์ฟอาหารเพิ่มได้แล้ว”
เฉินจื่อฉายได้แต่พยักหน้าตอบรับเท่านั้น พอเขาพบว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว เขาก็รีบออกไปทันที
ลู่ม่านเตรียมจะตามเขาออกไป แต่ถูกคนคนนั้นเรียกไว้ก่อน “ในเมื่อเจ้าเป็นญาติของเจ้าของร้านนี้ ก็อยู่รับใช้ที่นี่ก่อนเถอะ!”
ทันทีที่หรูอวี่ได้ยิน นางก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที “นายหญิงของข้าเป็นฮูหยินของใต้เท้าซือหนง จะมารับใช้ได้อย่างไร...”
“หรูอวี่!” ลู่ม่านไม่รอนางพูดจบ รีบหยุดนางก่อน
คนคนนั้นกลับเงยหน้าขึ้นมามองลู่ม่าน “ที่แท้ก็ฮูหยินใต้เท้าซือหนงคนใหม่นี่เอง ดังนั้น เจ้าก็คือลู่อันเหริน?”
“ฮูหยินกล่าวเกินไป ในร้านนี้ข้าจะเป็นใครไม่สำคัญ ผู้ที่เข้ามาในร้านล้วนแต่เป็นลูกค้าข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำตามคำร้องขอของลูกค้า”
“ข้าอยากกินอาหารเงียบๆ แต่กลับถูกจับได้เสียแล้ว เจ้าจำข้าได้อย่างไร” พอคิดแล้วก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “จริงสินะ เจ้าเคยเจอข้ามาก่อน แต่เป็นข้าเอง ที่จำเจ้าไม่ได้”
ลู่ม่านเงยหน้าขึ้นมองโดยไม่มีท่าทางหวาดกลัว “ฝ่าบาทมีเรื่องต้องจัดการจำนวนมาก จำหม่อมข้าไม่ได้ก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่คำชมของฝ่าบาทที่มีต่ออาหารของร้านนี้ จะไม่นับไม่ได้นะเพคะ”
“ข้าชมเชยอะไรไป” ฮ่องเต้หนุ่มสงสัย
“ฝ่าบาทบอกว่าอาหารรสชาติอร่อยกลมกล่อม” ลู่ม่านเตือนสติ “ร้านนี้ยังไม่มีป้ายชื่อ ฝ่าบาทช่วยตั้งชื่อให้ได้ไหมเพคะ?”
ฮ่องเต้หัวเราะออกมา “ดูท่าทางของเจ้า เจ้าตั้งใจจะหลอกให้ข้าติดกับใช่หรือไม่”
“หม่อมข้าไม่กล้าเพคะ!” ลู่ม่านยกยิ้ม “แต่ที่ฝ่าบาทพูดมาก็ถูก ที่ธุรกิจของร้านนี้ดี คงเป็นเพราะรสชาติที่กลมกล่อมผสมผสานกัน จนกำเนิดรสชาติต่างๆ เหมือนราชวงศ์ของเรา ที่มีชาวบ้านทุกท้องที่เป็นเหมือนผักจานนี้ ฝ่าบาทเป็นพ่อครัวผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยฝีมือการปรุงอาหารของพ่อครัว สุดท้ายทุกคนถึงได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ จนกลายมาเป็นอาหารหม้อนี้!”
สาวใช้ที่อยู่ข้างหลังนางอดที่จะกัดฟันพูดไม่ได้ “ประจบสอพลอ!”
ฮ่องเต้ขมวดคิ้วและจ้องมองสาวใช้คนนั้น “บังอาจ! ข้ากำลังคุยกับฮูหยินผู้นี้อยู่ เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงพูดขัดจังหวะเช่นนี้?”
สาวใช้คนนั้นก่อนหน้านี้อยู่ในวังหลวง ถือว่าตนเองเป็นสาวใช้ระดับสูงจึงทำตัวอวดดีจนชินแล้ว ลู่ม่านเป็นเพียงอันเหริน ดังนั้นนางจึงดูถูกเป็นธรรมดา
พอถูกฮ่องเต้ตำหนิ ถึงตระหนักได้ว่าตนเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ จึงรีบคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตาทันที “ฝ่าบาท หม่อมข้าผิดไปแล้วเพคะ”
“ยังไม่รีบไปเตรียมพู่กันหมึกกับกระดาษมาอีก!” ฮ่องเต้เอ่ยสั่ง
พอเห็นอย่างนี้ ลู่ม่านก็รู้ว่าฮ่องเต้รับปากจะพระราชทานป้ายชื่อร้านให้ จึงดีใจมาก รีบหันไปบอกหรูอวี่ “หรูอวี่ รีบไปเตรียมเร็วเข้า!”
หรูอวี่ฉลาดมาก นางรีบออกไปบอกเฉินจื่อฉายทันที เฉินจื่อฉายรีบปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา แล้วรีบไปเตรียมพู่กันหมึกกับกระดาษทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...