ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 447

หลังจากวางกระดาษลงบนโต๊ะ ฮ่องเต้ก็สะบัดมือ เขียนคำว่าครัวครบรสลงไป ก่อนจะประทับตราของตนเองลงไป

ลู่ม่านรับมา แล้วกล่าวขอทรงพระเจริญ

ฮ่องเต้หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี “เอาเถอะ ข้ารู้สึกเหมือนถูกเจ้าหลอกเสียแล้ว!”

ลู่ม่านยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ฝ่าบาททรงเข้าใจประชาชน จะบอกว่าหม่อมข้าหลอกฝ่าบาทได้อย่างไรกันเพคะ?” หลังจากนั้น ลู่ม่านก็ยื่นกระดาษให้เฉินจื่อฉาย มือของเฉินจื่อฉาย สั่นเทาและไม่กล้ารับมันมา แต่เฉินสือซ่วนที่อยู่ข้างๆ รีบหยิบมันมาอย่างรวดเร็ว

ฮ่องเต้เหลือบมองไปทางเฉินสือซ่วน “นี่คือ?”

“ข้าน้อยชื่อเฉินสือซ่วนพะยะค่ะ!”

“นี่คือหลานชายของหม่อมข้าเองเพคะ” ลู่ม่านกล่าวแนะนํา

ฮ่องเต้มองไปที่เขาแล้วยกยิ้ม “ดูท่าทางจะเป็นเด็กดีมาก ช่างเป็นวีรบุรุษเสียจริง”

หลังจากที่เฉินจื่อฉายได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาไม่สามารถปกปิดได้เลย คนเป็นพ่อแม่ใครไม่อยากให้ลูกของตนเองถูกเอ่ยชม? อีกทั้งยังเป็นการกล่าวชมจากฮ่องเต้เช่นนี้ด้วย

เขารีบดึงเฉินสือซ่วนให้คุกเข่าลง แล้วกล่าวขอบคุณฮ่องเต้

ถึงตอนนี้ฮ่องเต้ถึงเรียกผู้ติดตามของเขา แล้วเดินออกจากประตูไป

ผู้คนภายนอกที่ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ ตอนนี้ได้คุกเข่าลงกับพื้นกันหมดแล้ว ลู่ม่านจงใจตะโกนออกมาจากทางด้านหลัง “น้อมส่งฝ่าบาท”

ทุกคนก็ตระหนักว่าคนที่เดินออกมาคือฮ่องเต้ พิสูจน์ได้ว่าฮ่องเต้มาที่นี่ เป็นเรื่องจริง

พอฮ่องเต้จากไป ทุกคนต่างพากันกระตือรือร้นมากขึ้น พวกเขาทั้งหมดก้าวไปข้างหน้าเพื่อแสดงความยินดี “ยินดีกับท่านเฉินด้วย องค์ฮ่องเต้พระราชทานชื่อร้านให้ ครัวครบรสนี้จะต้องโด่งดังไปทั่วอย่างแน่นอน”

ตาแก่เฉินได้แต่ยิ้ม เฉินสือซ่วนรีบพูดขึ้นมา “ขอบคุณทุกท่านมาก ลูกค้าทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันนี้ กินฟรี เดี๋ยวทุกคนไปลงชื่อที่คนงานในร้านได้เลย”

เดิมที การได้พบฮ่องเต้ไม่ได้สร้างประโยชน์ต่อพวกเขา แต่ตอนนี้ได้เจอฮ่องเต้แล้วได้กินของฟรี ทุกคนจึงยิ่งมีความกระตือรือร้นมากขึ้น

“ขอบคุณ เถ้าแก่เฉิน”

หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายไป ลู่ม่านก็มองไปที่เฉินสือซ่วนอย่างภาคภูมิใจ “วันนี้เจ้าทำได้ดีมาก”

เฉินสือซ่วนส่ายหน้า “ต้องขอบคุณน้าสามมากกว่า ถ้าน้าสามไม่รู้จักฮ่องเต้ เราก็คงไม่ได้ชื่อนี้มา” หลังจากพูดจบ เฉินสือซ่วนก็โค้งคำนับลู่ม่านอย่างซาบซึ้งใจ

“ขอบคุณน้าสามมาก”

เฉินจื่อฉายยังคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นความดีความชอบของลู่ม่าน จึงขอบคุณเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง

ลู่ม่านรีบขวางไว้ “เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นความดีความชอบของใคร แต่ก็ส่งผลดีต่อร้านเรา สือซ่วน เจ้าเอาป้ายชื่อไปใส่กรอบ ต้องใช้วัสดุที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าจะทนต่อลมและฝน เราต้องวางของพระราชทานของฮ่องเต้ไว้ด้านนอก ในอนาคตถึงแม้ร้านเราจะโด่งดังไปทั่วแคว้น ก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องร้านเรา”

เฉินสือซ่วนพยักหน้าอย่างหนักแน่น และรีบหันหลังกลับเพื่อไปจัดการเรื่องนี้

ลู่ม่านอยู่ในร้านต่ออีกสักพัก เฉินจื่ออานที่ได้ยินข่าวก็รีบเดินเข้ามา

“ข้าได้ยินมาว่าฝ่าบาทมาที่ร้าน เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”

ลู่ม่านเล่าเรื่องที่ฝ่าบาทมาที่ร้านให้เขาฟังอย่างละเอียด พอเฉินจื่ออานได้ยินว่าฝ่าบาทพระราชทานชื่อให้ที่ร้าน เขาก็รู้สึกดีใจมาก

ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่ เฉินสือซ่วนก็ทำการกรอบป้ายเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน พระอาทิตย์กำลังร้อนแรง

มีผู้คนมากมายเดินไปมาอยู่ด้านนอกร้าน ดังนั้นลู่ม่านจึงรีบบอกให้เฉินสือซ่วนนำป้ายร้านออกไปติดตั้ง

สร้างความสนใจให้กับเจ้าของร้านอื่นและผู้คนที่เดินไปมารอบๆ ด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน