ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 448

พอเห็นว่าลู่ม่านอ่านจบแล้ว เถียนหวังซื่อก็เอ่ยถามออกมา “นายหญิง คนส่งยังรออยู่ข้างนอก ท่านจะไปกับเขาด้วยหรือไม่”

ในขณะที่หรูอวี่เตรียมจะพูด ลู่ม่านก็รีบวิ่งไปตรงหน้าหรูอวี่และพูดขึ้นมา “ไปแน่นอน”

หรูอวี่รีบพูด “นายหญิง ท่านหมอ...”

“ท่านหมอ ท่านหมออะไร” ลู่ม่านจ้องมาที่นาง

เถียนหวังซื่อรู้ว่าลู่ม่านต้องกินยา แต่พวกนางบอกว่าเป็นแค่ยาบำรุงร่างกาย พอได้ยินเช่นนี้ นางจึงยิ่งแปลกใจ “ท่านหมอบอกว่าอย่างไร นายหญิงไม่สบายใช่หรือไม่?”

“ไม่ใช่!” หรูอวี่ยังคงจงรักภักดี กลัวว่าความลับของลู่ม่านจะถูกเปิดเผย “ท่านหมอบอกว่าถึงแม้จะเป็นยาบำรุงร่างกาย แต่ก็ควรพักผ่อนให้เพียงพอ”

พอได้ยินอย่างนั้น เถียนหวังซื่อก็ยิ้มออกมา “แม่นางหรูอวี่พูดผิดแล้ว ร่างกายอ่อนแอ ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะไม่ออกค่อยได้กำลังกาย ช่วงนี้นายหญิงอยู่บ้านมาตลอดครึ่งเดือน ไม่ได้ออกไปไหนเลย ข้างนอกตอนนี้เดือนห้าแล้ว ถึงแม้เมืองหลวงของเราจะไม่อบอุ่นเหมือนทางใต้ แต่ก็เริ่มสวมเสื้อผ้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว นายหญิงสามารถออกไปเดินเล่นและเปลี่ยนบรรยากาศได้”

นี่คือคำพูดที่ถูกใจลู่ม่านมาก นางรีบพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว เด็กสาวสองคนนี้เชื่อฟังคำสั่งของท่านหมอมากเกินไป” หลังจากนั้นนางก็ลุกขึ้นและเข้าไปในห้อง

“หรูอวี่ รีบมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้าเร็ว”

หรูอวี่ขมวดคิ้วและมองไปทางเถียนหวังซื่อด้วยความไม่พอใจ มองจนเถียนหวังซื่องุนงง

แต่อย่างไรก็ตาม ลู่ม่านก็เป็นฮูหยินแล้ว และตอนนี้ก็จะไปเป็นแขกที่จวนแม่ทัพด้วย ดังนั้นนางจึงเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าที่ดูเป็นพิธีมากขึ้น

ในเมืองหลวงแห่งนี้ เสื้อผ้าส่วนใหญ่จะเป็นแบบรัดหน้าอก เนื้อผ้าบาง ลู่ม่านเคยใส่ตอนที่อยู่จวนกั๋วกง ยังไม่ทันได้ออกจากประตู นางก็รีบเปลี่ยนทิ้งแล้ว

ในฐานะคนยุคใหม่ ลู่ม่านรู้สึกกระดากอายที่จะสวมใส่ชุดนี้ออกไปข้างนอก

แต่ว่า หรูอวี่ดีใจมาก และเอาแต่ชื่นชมนางไม่หยุด “นายหญิง วันนี้ท่านสวยมากจริงๆ”

ลู่ม่านอดที่จะแซวนางไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็อย่าเพิ่งใจร้อนไป รอนายหญิงของเจ้าได้เลื่อนตำแหน่งเป็นฮูหยินขั้นหนึ่ง ข้าจะหาคู่ที่ฐานะดีให้เจ้า ให้เจ้าได้เป็นฮูหยินขุนนาง เจ้าจะได้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้บ้าง

สีหน้าของหรูอวี่กลายเป็นสีแดงระเรื่อทันที “นายหญิง ท่านพูดเรื่องอะไรกัน หรูอวี่จะอยู่รับใช้ท่านไปตลอดชีวิต”

ลู่ม่านยกยิ้มกริ่ม “คำนี้ทำไมฟังดูคุ้นๆ นะ เมื่อก่อนเหอเย่วก็เคยพูดอย่างนี้เช่นกัน”

พอคิดถึงเหอเย่ว หรูอวี่ก็หันหนีทันที “นายหญิง ท่านหัวเราะข้า ข้าจะไม่สนใจท่านแล้วนะเจ้าคะ!”

พวกนางพูดคุยหยอกล้อกันมาตลอดทาง จนมาถึงจวนแม่ทัพ

พอมาถึงประตู ลู่ม่านก็เห็นรถม้าหลายคันจอดอยู่ด้านหน้า ความดีใจของลู่ม่านหายไปกว่าครึ่ง เดิมที นางนึกว่าวันนี้ฮูหยินจ้าวจะเชิญนางมาที่นี่แค่คนเดียว ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเชิญบรรดาฮูหยินมารวมตัวกันหลายคน

งานเลี้ยงในวังครั้งที่แล้ว ลู่ม่านได้เรียนรู้ความร้ายกาจของบรรดาฮูหยินเหล่านั้นแล้ว ถึงแม้นางจะไม่กลัวพวกนั้น แต่นางก็ไม่ชอบเหตุการณ์เช่นนี้มากนัก

ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก นางคงไม่มาแล้ว

พอเห็นว่าสีหน้าของนางบูดบึ้งไป หรูอวี่ก็เอ่ยถามอย่างกังวล “นายหญิง มีอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ”

“ไม่เป็นไร!” ลู่ม่านส่ายหน้า คนขับรถม้าหยุดลงด้านหน้าจวนแม่ทัพ “ฮูหยิน จวนท่านแม่ทัพมาถึงแล้วขอรับ”

พอขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก ลู่ม่านไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพยักหน้าและลงจากรถม้า

ทันทีที่นางมาถึงหน้าประตู ฮูหยินจ้าวก็ทักทายนางทันที “เจ้ามาแล้วหรือ ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว”

ความกระตือรือร้นที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้ลู่ม่านรู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย ฮูหยินจ้าวจึงพูดเสริมว่า “ต้องขอบคุณเจ้ามาก ข้าคิดมาตลอดว่าจุดด่างดำบนใบหน้าของข้าคงจะไม่สามารถลบออกไปได้ ถ้าเจ้าไม่ได้บอกว่ามันสามารถลบออกได้ ตัวข้าเอง ก็ไม่สามารถกลับมาเกิดใหม่ได้อีก.”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน