บทที่ 445 ความแค้นของเฉินหลิ่วเอ๋อ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 445 ความแค้นของเฉินหลิ่วเอ๋อ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เสียงประจบสอพลอของเถ้าแก่สงดังเข้ามาจากด้านนอกแล้ว “พี่สามข้ากับหลิ่วเอ๋อมาเยี่ยมพวกท่านแล้ว”
คราวนี้ แม้แต่หรูเฟิงก็อดที่จะกลอกตามองบนให้ไม่ได้ “หน้าด้านหน้าทน!”
หรูอวี่ก็อดที่จะบ่นพึมพำไม่ได้ “สองคนนี้ดีหน้าด้านจริงๆ!”
แต่ว่าลู่ม่านกลับยิ้มออกมา “ทุกคนเห็นว่าคนคนนี้น่ารำคาญ แต่อีกฝ่ายกลับแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ครั้งต่อไปก็บอกเถียนหวังซื่อไว้ว่าทุกคนที่มาที่บ้านต้องมารายงานก่อนที่จะปล่อยเข้ามา”
“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!” หรูอวี่ตอบรับ
ในขณะที่กำลังพูด เถ้าแก่สงก็เดินเข้ามาแล้ว เฉินหลิ่วเอ๋อท้องโตเดินตามหลังเขาเข้ามา ถึงแม้สีหน้าของนางจะดูไม่เต็มใจ แต่นางก็ต้องมาเพราะเถ้าแก่สง
“พี่สะใภ้สาม!” เถ้าแก่สงกล่าวทักทายลู่ม่านก่อน แล้วมองไปทางเฉินหลิ่วเอ๋ออีกครั้ง “รีบทักทายเร็วเข้า เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าอยากมาเยี่ยมพี่สามในเมืองหลวง เหตุใดมาถึงแล้วถึงไม่พูดอะไรอีก”
“พี่สะใภ้สาม!” เฉินหลิ่วเอ๋อกล่าวทักทายด้วยสีหน้าเย็นชา
“ไม่จำเป็น!” ลู่ม่านพูดอย่างเย็นชา “น้องเขยมาไม่ถูกเวลาเสียแล้ว ตอนนี้จื่ออานไม่อยู่ ข้าเป็นผู้หญิงไม่สะดวกที่จะต้อนรับพวกเจ้าเอง”
เถ้าแก่สงเองก็มองออก พอได้ยินลู่ม่านพูดเช่นนี้ก็รีบพูดอย่างรู้งาน “ท่านไม่จำเป็นต้องต้อนรับพวกข้าหรอก ครอบครัวของเราก็มีบ้านในเมืองหลวง อยู่ในเขตตะวันตก ที่ข้ามาที่นี่วันนี้เพื่อหาดูทางไว้ ภายภาคหน้าจะได้มาแวะเยี่ยมเยียนกันได้”
ลู่ม่านไม่พูดอะไร แต่เถ้าแก่สงกลับพูดออกมาอีกครั้ง “ข้านึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องที่ต้องทำ หลิ่วเอ๋อ เจ้ามาที่นี่เพื่อคุยกับพี่สะใภ้สาม ข้าจะให้คนมารับเจ้ากลับในภายหลังนะ”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็มองข้ามความไม่เต็มใจบนใบหน้าของเฉินหลิ่วเอ๋อ และจากไปทันที
ทันทีที่เถ้าแก่สงจากไป เฉินหลิ่วเอ๋อก็ลุกขึ้นยืน แม้แต่การแสร้งทำ ก็ขี้เกียจจะแสร้งทำแล้ว
“ถ้าเขาไม่ขอให้ข้ามา ข้าคงไม่มา ข้าจะไปเดี๋ยวนี้...”
หรูอวี่ขมวดคิ้ว “ฮูหยิน ท่านพูดกับอันเหรินแบบนี้ได้อย่างไร”
“ช่างเถอะ!” ลู่ม่านกล่าว “ถ้านางอยากไปก็ปล่อยนางไป ยังไงข้าก็ไม่อยากเจอคนที่ไม่มีจิตสำนึกอยู่แล้ว”
ลู่ม่านจงใจพูดเช่นนี้ และเห็นได้ชัดว่าเฉินหลิ่วเอ๋อเริ่มโมโหแล้ว นางกัดฟันพูด “ข้ามีหรือไม่มีจิตสำนึก เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย เจ้าคิดว่าตัวเองมีจิตสำนึกมากหรือไง”
ลู่ม่านเลิกคิ้วขึ้น “ข้าไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองไม่มีจิตสำนึก ไม่ว่าจะต่อคนหรือต่อเรื่องอื่นๆ ข้าไม่เคยคิดว่าตนเองทำผิดตรงไหน”
“หึ...นั่นเป็นเพราะเจ้าไม่เหมือนข้า เจ้าโชคดี เจ้าได้พบกับพี่สามของข้า และพี่สามของข้าก็เอาใจเจ้า ถึงแม้คนอื่นจะไม่ชอบเจ้า เจ้าก็สามารถพึ่งความชอบของพี่สาม ทำตัวตามอำเภอใจ เจ้าลองมาเป็นข้าดูสิ!”
เฉินหลิ่วเอ๋อตีโพยตีพาย ราวกับว่านางอยากตะโกนระบายความคับข้องใจทั้งหมดของนางออกไป ลู่ม่านมองนางอย่างเย็นชาและไม่พูดอะไร
รอให้นางพูดจบ ถึงได้พูดเวียงเรียบนิ่ง “ความเป็นไปได้ที่เจ้าพูดมา มันไม่มีทางเป็นจริงเลย ข้าจะไม่ทำให้ตัวเองต้องตกอยู่ในตำแหน่งเหมือนเจ้าได้!”
เฉินหลิ่วเอ๋อชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่ลู่ม่านอย่างว่างเปล่า สักพักนางก็ยิ้มเยาะออกมา “เจ้าโกหกข้าอีกแล้ว เจ้าโกหกข้าให้หย่า แล้วเจ้าจะได้หัวเราะเยาะข้าได้”
ลู่ม่านพูดไม่ออก “แล้วแต่เจ้าจะคิดเถอะ!” หลังจากพูดจบ นางก็เดินกลับไปที่ห้องของตนเองทันที
ตอนที่นางออกมาอีกครั้ง เฉินหลิ่วเอ๋อก็จากไปแล้ว ลู่ม่านไม่สนใจ แต่ว่า คนอย่างเฉินหลิ่วเอ๋อ ให้ความสำคัญกับชีวิตของตนเองมากที่สุด ไม่เป็นไรแน่นอน
หลังจากพักผ่อนที่บ้านเป็นเวลาหนึ่งวัน ลู่ม่านก็ตรงไปที่ร้านม่านเซิง
หรูอวี่อดที่จะบ่นไม่ได้ “นายหญิง ท่านทำงานหนักมาทั้งปี อุตส่าห์มีเวลาได้พักผ่อน และยังต้องออกไปช่วยงานอีก ทักษะของท่าน ข้าก็ทำได้ เดี๋ยวข้าไปสอนแทนเอง”
ฮูหยินจ้าวพยักหน้าและมองดูผิวของลู่ม่านอย่างอิจฉา “ผิวของเจ้าดีมาก ปกติเจ้าทำการบำรุงผิวทุกวันหรือเปล่า”
“แน่นอน นี่เป็นผลที่ได้มาจากการดูแลสะสมทุกวัน”
ในที่สุดฮูหยินจ้าวก็สบายใจ และซื้อของเพิ่มก่อนจะกลับไป
หลังจากส่งฮูหยินจ้าวออกไปแล้ว ลู่ม่านก็ไปที่ร้านหม้อไฟอีกครั้ง ตอนนี้เป็นวันที่สามของการเปิดร้าน แต่สิ่งที่ลู่ม่านเคยพูดว่าลูกค้าจะค่อยๆ ลดลงยังไม่เกิดขึ้น
แต่ธุรกิจกลับรุ่งเรืองเฟื่องฟู!
พอลู่ม่านเดินเข้ามา แม้แต่เฉินจื่อฉายก็กำลังยุ่งกับการช่วยเสิร์ฟอาหารอยู่
พอเห็นลู่ม่าน เฉินจือฉายก็เดินเข้าไปหาและพูดอย่างร้อนใจ “เสี่ยวม่าน ข้าต้องการหาคนงานในร้านเพิ่ม ถ้าพรุ่งนี้เจ้าว่าง เจ้ามาช่วยข้าเลือกได้ไหม”
ลู่ม่านเห็นด้วย แต่หลังจากคิดอีกครั้งนางก็ส่ายหน้า “ให้สือซ่วนเป็คนคัดเลือกก็ได้แล้ว”
"แต่ว่า..." เฉินจื่อฉายยังอยากจะพูด แต่ประตูที่อยู่ด้านหลังก็ถูกเปิดออก หญิงสาวที่มีสีหน้าเย็นชาก้าวเข้ามาแล้วตะโกนว่า “เหตุใดยังไม่ยกอาหารมาให้ข้าอีก”
เฉินจื่อฉายรีบหันไปตอบ "เราจะรีบเตรียมของให้เดี๋ยวนี้เลย"
หรู่อวี่มองไปที่ด้านหลังของเฉินจื่อฉาย แล้วถอนหายใจออกมา "ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าธุรกิจจะดีเช่นนี้"
ลู่ม่านพยักหน้า “ดูจากสถานการณ์แล้ว ข้าคิดว่าคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามเดือนกว่าความคึกคักนี้จะหมดลง! เราจำเป็นต้องรับคนงานในร้านเพิ่มจริงๆ”
ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น ก็มีเสียงดังเข้ามา หลังจากนั้น ก็มีเสียงต่อว่าดังออกมาจากห้องส่วนตัวที่เฉินจื่อฉายเพิ่งเดินเข้าไป “บังอาจ เจ้าทำร้ายเจ้านายของข้า ระวังชีวิตของเจ้าจะไม่รอด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...