ผิวของฮูหยินจ้าวส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่ค่อยได้บำรุงผิว ดังนั้นผลของการบำรุงผิวจึงดูชัดเจน
“พี่ลู่วิธีบำรุงผิวของที่สุดยอดเลย ทำไมร้านเราไม่แนะนำวิธีการบำรุงรักษาผิวหน้าออกไปด้วยเลยล่ะ”
“ได้สิ!” ลู่ม่านยกยิ้มแล้วพูด “ข้าเห็นว่าที่ของเจ้าก็ใหญ่มากพอ เจ้าสามารถสร้างห้องด้านหลังออกมาสองสามช่อง แต่ว่า ถ้าเจ้าคิดจะบำรุงผิวให้ลูกค้าจริงๆ ต้นทุนของเจ้าก็จะเพิ่มขึ้น และยีงต้องจ้างคนมาเพิ่มด้วย”
“ไม่มีปัญหา” หลี่วอนถิงโบกมือ “ตราบใดที่พี่ลู่สามารถช่วยข้าฝึกผู้ฝึกสอน ส่วนค่าตอบแทน พี่สามารถขอได้โดยตรง!”
“ข้าไม่ต้องการค่าตอบแทน!” ลู่หม่านกล่าว “ไหนบอกว่าเราเป็นเพื่อนกัน ช่วยเพื่อนยังต้องการค่าตอบแทนอะไรอีก”
เมื่อหลู่หม่านกล่าวเช่นนี้ หลี่หว่านถิงก็หัวเราะอย่างมีอารมณ์ดี “งั้นก็ตกลงตามนี้ ข้าไม่เกรงใจแล้วนะ”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ฮูหยินจ้าวก็ตื่นขึ้นมาพอดี
สิ่งแรกที่ทำคือเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของนาง “ผิวนุ่มมาก!” ฮูหยินจ้าวอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ “เร็วเข้า ขอกระจกหน่อย”
สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ นางรีบเดินเข้าไปพร้อมกับยื่นกระจกออกไป หลังจากที่ฮูหยินจ้าวมองไปในกระจก นางก็ยิ้มออกมาทันที “สินค้าของพวกเจ้าดีมาก นี่มันสามารถย้อนวัยเยาว์ได้จริงๆ ด้วย!”
“ฮูหยินกล่าวชมเกินไปแล้ว! ถ้าฮูหยินคิดว่าดีก็มาบำรุงผิวที่ร้านได้ทุกๆ เจ็ดวัน ส่วนวันปกติตอนอยู่ที่บ้านก็ใส่ใจกับการล้างหน้าที่บ้านด้วย ในร้านมีหลายอย่าง ฮูหยินสามารถซื้อกลับไปใช้ที่บ้านได้”
“ไปเตรียมมาให้ข้าเลย!” ฮูหยินจ้าวโบกมือ แล้วพูดอย่างรวดเร็ว
ก่อนจากไป ฮูหยินจ้าวไม่ลืมที่จะจับมือลู่ม่านไว้แล้วเอ่ยพูด “ทุกคนต่างก็บอกว่า แม่นางลู่มีฝีมือดี มันเป็นไปตามที่พวกเขาพูดจริงๆ สองมือนี้ช่างยอดเยี่ยมมาก”
ลู่ม่านยิ้มอย่างเขินอาย “ฮูหยินกล่าวชมเกินไปแล้ว ข้าแค่พอจะมีฝีมืออยู่บ้างเท่านั้น”
หลังจากส่งฮูหยินจ้าวจากไปแล้ว ลู่ม่านก็ช่วยให้คำแนะนำหลี่หว่านถิงถึงสิ่งที่ต้องเพิ่มเติมในร้าน หลังจากนั้นลู่ม่านก็เดินทางกลับไป
ทันทีที่มาถึงประตูบ้าน ก็มีคนตะโกนอย่างดีใจข้างหลังนาง “น้องสะใภ้สาม!”
ลู่ม่านชะงักไปเล็กน้อย และพอหันกลับไปก็เห็นเฉินจื่อฟู่ยืนอยู่ที่หน้าประตูของบ้านถัดไป “ข้าได้ยินมาว่าน้องสะใภ้สามกับน้องสามมาถึงเมืองหลวงแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าพวกเราจะอยู่ใกล้กันเช่นนี้ น้องสามกลับมาแล้วหรือยัง ข้าอยากจะไปกินอาหารเย็นกับเขาสักมื้อ”
ลู่ม่านขมวดคิ้วและพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ในเมื่อเจ้ารู้ว่าพวกเรามาถึงเมืองหลวงก็ต้องรู้ถึงตำแหน่งของจื่ออานในตอนนี้ เจ้าติดตามใต้เท้าซวน ถ้ายังติดต่อกับจื่ออานเช่นนี้ ข้าเกรงว่าคงจะไม่ดี”
พอเฉินจื่อฟู่ได้ยินเช่นนี้ เขาก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย เขาเองก็รู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องตัวตนที่แท้จริงของซวนเหวินลี่ถ้าคนอื่นรู้เข้า คงมีโทษถึงประหารชีวิตเลย
“เป็นข้าที่ทำอะไรไม่คิด!” เฉินจื่อฟู่ลดเสียงลง “ทักทายน้องสามแทนข้าด้วย”
ลู่ม่านส่งเสียงอืมตอบกลับไปเบา ๆ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไป นางน่าจะคิดได้เร็วกว่านี้ ในเมื่อซวนเหวินลี่มาถึงเมืองหลวง เฉินจื่อฟู่ที่ทำงานให้เขาก็ต้องตามมาเช่นกัน
ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็นในอนาคต ลู่ม่านคิดว่าพวกนางย้ายที่พักจะดีกว่า แต่ว่าที่นี่ อุตส่าห์มีความรู้สึกถึงความผูกพัน ลู่ม่านไม่อยากจะขายไปจริงๆ
แต่พอมาคิดดูอีกที เฉินจื่อฟู่รู้แล้ว เฉินจื่อคังจะต้องรู้อย่างแน่นอน พวกเขาต่างหากที่ควรจะร้อนตัว แล้วย้ายออกไปก่อนไม่ใช่หรือ? แล้วตนเองจะต้องกลัวทำไม?
ใช่แล้ว! ลู่ม่านจึงไม่คิดเรื่องนี้อีก แน่นอน แม้แต่เรื่องที่เฉินจื่อฟู่มาเมืองหลวง นางก็ไม่พูด
ในตอนเย็น หลังอาหารเย็น เฉินจื่อฉายกับเฉินสือซ่วนจึงเริ่มคิดบัญชี
เพราะลู่ม่านมีส่วนร่วมด้วย เฉินสือซ่วนจึงขอให้ลู่ม่านมาร่วมด้วย เฉินจื่ออานเองก็เป็นห่วงเรื่องการเปิดร้านของเฉินจื่อฉาย ดังนั้นเขาจึงตามมาด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...