“ข้าฉีกชายเสื้อของตัวเองมาพันเสียหน่อยก็ได้แล้วล่ะเจ้าค่ะ!” หรูเฟิงพูดขึ้นอีกครั้ง
“ข้าบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ ที่นี่ฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ทั้งยังมีคนบาดเจ็บล้มตายตั้งมากมายขนาดนั้น อย่างไรก็ต้องมีเชื้อโรค ถ้าเจ้าเกิดล้มป่วยขึ้นมาจะปกป้องข้าได้อย่างไรล่ะ?”
เป็นไปตามคาด หลังจากที่ลู่ม่านพูดออกไปแบบนี้ หรูเฟิงก็ยอมประนีประนอมในที่สุด
ทำแผลให้หรูเฟิงเสร็จ ลู่ม่านก็พูดขึ้นว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อวันก่อนตอนที่เข้าตำบลนี้มา เห็นบ้านร้างเก่า ๆ หลังหนึ่งอยู่ทางนั้น ไม่สู้พวกเราลองไปดูที่นั่นกันหน่อยดีไหม!”
เสี่ยวม่านพูดพลาง ก็เป็นฝ่ายเริ่มไปหยิบกระเป๋าสัมภาระมาเอง แล้วมุ่งหน้าตรงไปทางนั้นทันที
เฉินจื่ออานมองลู่ม่านด้วยแววตาละอายแก่ใจน้อย ๆ "ทำให้เจ้าต้องน้อยเนื้อต่ำใจแล้ว"
“น้อยใจอะไรกัน? ข้าไม่รู้สึกน้อยใจหรอกนะ ตรงกันข้าม ข้ากลับมีความสุขมากกว่า ตอนนี้พวกเราไม่มีอะไรเลย ก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นแล้ว ยิ่งวางใจว่าจะทำอะไรที่พวกเราอยากทำได้อย่างมั่นใจและกล้าหาญขึ้นด้วย!”
เฉินจื่ออานส่ายหน้าอย่างจนใจ “เจ้านี่ล่ะก็!”
ขณะที่ทั้งสามคนคุยกันไปพลาง ก็ค่อย ๆ เดินตรงไปยังบ้านร้างหลังนั้นเรื่อย ๆ
พอดีว่าท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ยังดีที่วันนี้ตอนกลางวันมีแสงแดด ด้านในยังพอมีแสงจันทร์ให้เห็นอยู่บ้างเล็กน้อย แต่แสงจันทร์ที่ส่องลงมานี้เองที่ทำให้ทุกคนยิ่งสิ้นหวังกว่าเดิม นั่นก็เพราะบ้านหลังนี้ไม่มีหลังคานั่นเอง
ถ้าตอนกลางดึกเกิดมีฝนตกหนัก แบบนั้นทุกคนได้หนาวเยือกไปถึงหัวใจแน่
“ฮูหยิน ช่างเถอะเจ้าค่ะ อย่างไรก็กลับไปกันเถอะ อย่างมากก็ให้ข้าทุบตีเจ้าของโรงเตี๊ยมนั่นสักยก มาดูกันว่าเขาจะยอมให้พวกเราพักไหม?” หรูเฟิงพูดด้วยท่าทีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ
เฉินจื่ออานก็รู้สึกกังวลเช่นกัน "ที่นี่ไม่มีแม้แต่อาหาร ถ้าเจ้าสุขภาพอ่อนแอจนล้มป่วยไป แบบนั้นต้องแย่แน่ ๆ"
ขณะที่ทั้งสามกำลังคุยกันอยู่ เงาร่างตะคุ่ม ๆ ร่างหนึ่งก็ค่อย ๆ เดินตรงจากทางฝั่งตำบลเข้ามาหา
จากนั้นก็ได้ยินเสียง คนผู้นั้นก็ตะโกนเรียกอย่างระมัดระวัง “นั่นใครน่ะ? ท่านใต้เท้าผู้บุกเบิกรึ?”
ลู่ม่านถึงกับตะลึง ฟังออกว่านั่นเป็นเสียงของท่านป้าคนแรกที่ลุกขึ้นมาสนับสนุนนางวันนี้ “ท่านป้า นี่ท่านมาทำไมรึ?”
“เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย ยังดีที่ในที่สุดข้าก็หาเจ้าพบเสียที” ท่านป้าคนนั้นยิ้มแย้ม “เมื่อครู่นี้ข้าได้ยินเอ้อโก่วจือที่อยู่ข้างบ้านเล่าให้ฟัง ถึงได้รู้ว่าที่แท้พวกเจ้าก็โดนขับไล่ออกมา ข้าเดาว่าพวกเจ้าน่าจะอยู่ที่นี่ ก็เลยตัดสินใจมาดู เร็วเข้า รีบตามข้ากลับไป”
พูดพลาง ท่านป้าก็ทำท่าจะเข้ามาช่วยถือของให้ลู่ม่าน
ลู่ม่านรีบส่ายหน้า “นี่เป็นคำสั่งของเป๋าจ่างของพวกท่าน ถ้าพวกเราตามท่านกลับไป มันอาจจะทำให้ท่านพลอยเดือดร้อนไปด้วยนะ!”
“เดือดร้อนอะไรล่ะ?” ท่านป้าพูด “ข้าคิดว่าเจ้าพูดถูก เขื่อนใหญ่ขนาดนั้น มีเพียงวิธีการขุดลอกทางระบายน้ำออกไป ถึงจะแก้ปัญหาน้ำท่วมในอนาคตได้อย่างถาวร ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร ป้าก็จะสนับสนุนเจ้า ป้าไม่อยากเห็นผู้ชายของใครหรือลูกของบ้านไหนต้องตายอีกต่อไปแล้ว!”
พูดถึงท้ายประโยค น้ำเสียงของท่านป้าก็แฝงความขมขื่นอย่างปิดไม่มิด
“ท่านป้า โปรดวางใจเถอะ ในเมื่อพวกเราเริ่มต้นแล้ว ก็จะต้องทำมันให้ดีต่อ ๆ ไป ตราบใดที่ทุกคนยินดีที่จะเชื่อมั่นในตัวของพวกเรา ข้าก็จะไม่มีวันยอมวางมือแน่นอน แต่ว่า ข้ากลับไปกับท่านไม่ได้จริง ๆ”
“พูดมาจนถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงกลับไปด้วยไม่ได้? ป้ายังขอพูดประโยคเดิม ผู้ชายบ้านข้ารวมถึงลูกของข้าล้วนตายจากไปหมดแล้ว ข้าไม่กลัวถูกลงโทษอะไรทั้งนั้น! ถ้าสามารถใช้ชีวิตของตัวเองไปแลกกับอนาคตของทั้งตำบลได้อย่างถาวร อย่างไรก็คุ้ม!"
หัวใจของลู่ม่านถึงกับหวั่นไหวไปครู่หนึ่ง ท่านป้าคนนี้ช่างมีท่วงท่าเหมือนวีรสตรีผู้กล้าหาญมาก จริง ๆ ถ้านางยังปฏิเสธอีก นั่นก็คงจะเป็นการเสแสร้งจริง ๆ แล้ว
“ได้ ท่านป้า ข้าจะกลับไปกับท่าน!”
“โอ้ รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย” ท่านป้าพูดด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...