ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 499

หลังจากที่ฮูหยินกั๋วกงกลับไป ครอบครัวของเฉินจื่อฉายก็มากันทั้งบ้าน กระทั่งแม่ทัพจ้าวสามีภรรยาก็มาเยี่ยมเยียนลู่ม่านด้วย

ยุ่งวุ่นวายกันอยู่ราว ๆ สองวัน ถึงค่อยต้อนรับขับสู้บรรดาคนที่มาเยี่ยมเยือนถึงบ้านได้จนครบ ลู่ม่านรู้สึกเหนื่อยยิ่งกว่าต้องไปทำนาปลูกข้าวเสียอีก

หลังจากส่งแขกทุกคนกลับไปหมดแล้ว ลู่ม่านกำลังเตรียมจะกลับไปพักผ่อนที่ห้อง หรูเฟิงก็เดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยสีหน้าจริงจัง “ฮูหยิน เป๋าจ่างคนนั้นมาถึงเมืองหลวงแล้วเจ้าค่ะ!”

“มาถึงแล้วจริง ๆ หรือ?” ลู่ม่านพยักหน้า “เจ้าพาเขาไปไว้ที่ไหนล่ะ?”

“เขา.... กลับมาพร้อมกับคุณชายจวงเจ้าค่ะ!” เพิ่งจะสิ้นเสียง จวงลี่จ้งก็เดินเข้ามาจากประตูหน้าบ้านแล้ว ชายหนุ่มที่เดิมทีเปี่ยมไปด้วยความสูงส่งงามสง่าดั่งต้นไม้หยก เป็นเพราะเจอฝุ่นผงระหว่างทางเข้าไป จึงเปลี่ยนไปมีสภาพมอมแมมไร้สง่าราศีอย่างถึงที่สุด

เห็นได้ชัดว่า ทันทีที่เขากลับมาเมืองหลวงก็ตรงดิ่งมาที่นี่ทันที กระทั่งบ้านช่องก็ยังไม่ได้กลับ ท่าทางของเขาดูผิดปกติมาก ทันทีที่เข้ามาก็จ้องมองลู่ม่านตาเขม็ง

ลู่ม่านขมวดคิ้วมุ่น “หรูเฟิง เจ้าออกไปก่อน”

หรูเฟิงออกไปอย่างรวดเร็ว ลู่ม่านค่อยมองไปที่จวงลี่จ้งแล้วถามว่า “เจ้าเป็นอะไรไป? ข้าได้ยินมาว่าเจ้าลงไปทางใต้ คิดว่าเจ้าคงจะรู้เรื่องที่ภัยน้ำท่วมถูกแก้ไขได้เรียบร้อยแล้ว.....”

"เจ้าไม่เป็นอะไร ช่างดีเหลือเกิน"

จู่ ๆ จวงลี่จ้งก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

ลู่ม่านถึงกับตะลึงงัน "คุณชายจวง เจ้าพูดว่าอะไรนะ?"

ตอนนี้เองที่จวงลี่จ้งค่อยกลับมามีสติรู้สึกตัว จึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ข้าไม่ได้ว่าอะไร แต่ระหว่างทางได้พาคนกลับมาด้วยคนหนึ่ง เขาบอกว่าอยากพบเจ้า ข้าก็เลยให้เขาไปอยู่ที่บ้านสวนตระกูลจวงไปก่อน”

หัวใจของลู่ม่านพลันหนาวเยือก "เจ้ารู้สถานะของเขาแล้วหรือ?"

จวงลี่จ้งเป็นคนของอ๋องหนิง ถ้าเขารู้สถานะแท้จริงของเป๋าจ่างคนนั้น เขาจะบอกอ๋องหนิงหรือไม่? หากเป็นอย่างนั้นจริง ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทำมาก่อนหน้านี้ ก็จะเท่ากับเสียเปล่าไปโดยสิ้นเชิง

“รู้แล้วล่ะ!” จวงลี่จ้งพูดออกมาตรง ๆ แบบไม่มีอ้อมค้อม

“แล้วเจ้า….” จู่ ๆ คำพูดที่เหลืออีกสี่ห้าคำข้างหลัง ลู่ม่านกลับไม่สามารถพูดออกจากมาจากปากได้ ที่ผ่านมา ในใจนางมักจะเว้นระยะห่างจากจวงลี่จ้งไว้ระดับหนึ่งเสมอ เพราะจวงลี่จ้งเป็นคนที่คิดอ่านลึกล้ำยากจะคาดเดาเกินไป นางจึงมักเกิดความรู้สึกว่าการเข้าใกล้เขามากเกินไปนั้น ไม่น่าจะดี

แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่ได้รับความช่วยเหลือเอาไว้หลายครั้ง ถ้านางจะพูดง่าย ๆ ว่าพวกเขาไม่ใช่เพื่อนกัน มันก็ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่

"ลำบากเจ้าแล้ว" ในที่สุด ลู่ม่านก็เปลี่ยนคำที่อยากจะถามเป็นสี่คำนี้แทน

เมื่อจวงลี่จ้งได้ยินดังนั้น ก็ยกยิ้มอย่างขมขื่น “เจ้าอยากจะถามสินะว่า ข้าจะบอกอ๋องหนิงหรือไม่?”

ลู่ม่าน "...."

จวงลี่จ้งส่ายหน้า "ข้าจะไม่บอกหรอก อย่าถามข้าว่าเพราะอะไร" พูดจบ เขาก็หันหลังกลับเตรียมจะออกไป

หลังจากเดินไปได้สองก้าว เขาก็หันหน้ากลับมาใหม่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า "ลืมแสดงความยินดีกับเจ้าเลย ยินดีด้วยที่เจ้าได้เป็นฮูหยินขั้นหนึ่งแล้ว"

“ขอบคุณมาก” ลู่ม่านกล่าว

รอจนจวงลี่จ้งไปแล้ว หรูเฟิงค่อยเดินเข้ามาจากด้านนอก “ฮูหยิน คุณชายจวงออกไปแล้วเจ้าค่ะ ดูจากทิศทางที่เขาไป ดูเหมือนว่าเขาน่าจะกลับบ้านไปแล้ว”

“อื้ม!” ลู่ม่านตอบรับอย่างเฉยเมย

“ท่านไม่กังวลหรือเจ้าคะ ว่าเขาจะไปบอกความลับนี้กับอ๋องหนิง ?” หรูเฟิงถาม

“เขาไม่บอกหรอก!” ลู่ม่านพูดโพล่งออกมา

“แต่คุณชายจวงเป็นคนของอ๋องหนิงนะเจ้าคะ ทำไมท่านถึงได้มั่นใจขนาดนี้?”

ทำไมถึงมั่นใจขนาดนี้น่ะรึ? ลู่ม่านเองก็ไม่รู้ เมื่อครู่นี้นางก็แค่พลั้งปากพูดออกไป หลังจากมาลองคิดให้ละเอียดอีกที นางเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

“ไม่มีอะไรแล้วล่ะ เจ้าออกไปเถอะ!”

รอจนหรูเฟิงออกไป ลู่ม่านค่อยนั่งลงตรงนั้น ไม่รู้เนื้อตัวรู้ตัวอยู่เป็นนานสองนาน นางคิดย้อนไปถึงเรื่องเมื่อครู่ ตอนที่จวงลี่จ้งพุ่งเข้ามาจากข้างนอกในสภาพเลอะฝุ่นมอมแมม คำพูดประโยคแรกของเขาก็คือ เจ้าไม่เป็นอะไร ช่างดีเหลือเกิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน