หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 104

ฟังฮุ่ยตะลึงไป “หลินมั่วไม่ได้เป็นคนตามกลับมาเหรอ”

สวีตงเสวี่ยพยักหน้า “แน่สิ แม่ลองคิดดูนะ หลินมั่วมีความสามารถขนาดไหน พ่อกับแม่ไม่รู้เหรอคะ”

“สามปีมานี้ เขาได้แต่เกาะบ้านเรากิน แม้แต่เงินสามแสนที่จะเอาไปช่วยน้องสาวของเขายังหามาไม่ได้ พ่อกับแม่คาดหวังว่าเขาจะตามเงินสามร้อยล้านกลับมาได้เหรอ”

ฟังฮุ่ยขมวดคิ้ว เธอเองก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา

หวงเหลียงพูดเสียงเบา “แม่ครับ จนถึงตอนนี้แล้ว แม่ยังคาดหวังกับคนไม่เอาไหนคนนี้อยู่อีกเหรอ”

“นอกจากที่เขาจะพูดนินทาเยาะเย้ยพวกเราแล้ว เขาจะทำอะไรได้อีก”

“ตอนนั้นขอให้เขาช่วยบ้านเราแบกรับเรื่องนี้ไว้ เขายังหาข้ออ้างต่างๆ มาปฏิเสธเลย คนอะไรกัน!”

สวีเจี้ยนกงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมา คำพูดนี้ทำให้ความรู้สึกดีในใจที่มีต่อหลินมั่วนั้นสั่นคลอนขึ้นมาใหม่

หวงเหลียงเห็นแบบนี้ จึงพูดเสียงเบาอีกว่า “จริงสิ พ่อครับ แม่ครับ ยังจำคำพูดที่หลินมั่วพูดไว้ได้ไหม”

ฟังฮุ่ย “คำพูดอะไร”

หวงเหลียง “เขาบอกว่าจะตามเงินสามร้อยล้านนี้กลับมา นอกจากนี้ ถึงเวลาสิ้นปีก็จะเอาเงินอีกร้อยล้าน เพื่อแบ่งให้หุ้นส่วนพวกนั้น”

“ก็หมายความว่า พอถึงเวลาสิ้นปีพวกเราจะต้องเอาเงินออกมาอีกร้อยล้านเพื่อแบ่งให้กับคนพวกนั้น!”

สีหน้าของสวีเจี้ยนกงและฟังฮุ่ยเปลี่ยนไปทันที

ทั้งสองคนนี้เป็นคนที่ขี้เหนียวอย่างมาก ก่อนหน้านี้ตอนที่เงินสามร้อยล้านยังตามกลับมาไม่ได้ พวกเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย

พอมาคิดดูตอนนี้แล้ว ทั้งสองคนก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา

เงินตั้งร้อยล้านเลยนะ แบ่งออกไปแบบนี้เลยเหรอ

สวีตงเสวี่ยรีบพูดเสริมเกินจริงขึ้นมา “ถ้านายไม่พูดนี่ฉันลืมไปเลยนะเนี่ย!”

“เงินตั้งร้อยล้านเลยนะ เขาจะแบ่งออกไปตามใจแบบนี้เลยเหรอ”

“เขาคิดว่าตนเองเป็นใคร นี่มันเงินของตระกูลสวีของพวกเรา เขามาตัดสินใจแทนได้ตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน”

“อีกอย่าง หุ้นส่วนพวกนั้นเป็นใครกัน!”

“พี่หนูเจรจาธุรกิจมาให้บริษัทมากมายขนาดนั้น หาเงินมาได้ตั้งเท่าไหร่ พวกเขาไม่นึกขอบคุณ แต่กลับกัน พอพวกเราเกิดเรื่องขึ้นมาหน่อย ก็จะเอาพวกเราให้ตาย นี่มันเป็นพวกคนชั่วที่คิดทรยศชัดๆ!”

คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของฟังฮุ่ยเปลี่ยนไปทันที “เสวี่ยเอ๋อร์ ลูกพูดถูกแล้ว!”

“เงินร้อยล้านนี้ ห้ามแบ่งให้พวกคนชั่วที่คิดทรยศแน่นอน”

“ไปกัน ไปหาปั้นซย่าตอนนี้เลย พูดเรื่องนี้ให้มันชัดเจน!”

สวีเจี้ยนกงและฟังฮุ่ยออกจากบ้านไปอย่างโหวกเหวกโวยวาย จากนั้นก็มุ่งตรงไปยังบริษัท

หลินมั่วเองก็เพิ่งถึงบริษัทพอดี กำลังดื่มชาอยู่ที่ห้องทำงานของสวีปั้นซย่า

พอเปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นหลินมั่ว ทุกคนก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที

สวีตงเสวี่ยชี้ไปที่หลินมั่วแล้วด่าว่า “นายแซ่หลิน นายยังมีหน้ามาที่นี่อีกเหรอ ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”

สวีปั้นซย่าร้อนรนขึ้นมา “เธอเป็นอะไร ทำไมอยู่ๆ ก็ด่าหลินมั่ว”

สวีตงเสวี่ยจ้องตาเขม็ง “ฉันเป็นอะไรเหรอ ฉันยังอยากถามว่าพี่เป็นอะไรไป”

“เขาบอกว่าจะตามเงินก่อนนี้กลับมาภายในสามวัน ตอนนี้เงินกลับมาแล้ว เขาทำอะไรบ้าง”

“ได้แต่พูดไร้สาระไปวันๆ แต่ไม่ทำอะไรเลย หน้าด้านเกินไปไหม”

“คนแบบนี้ พี่จะให้เขาเข้าบริษัททำไม”

สวีปั้นซย่ารู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง จึงรีบพูดว่า “ใครบอกว่าหลินมั่วไม่ทำอะไร”

“เถ้าแก่โจวคนนั้น ถ้าหลินมั่วไม่ได้ให้เบาะแส ตำรวจก็หาเขาไม่เจอหรอก ไม่แน่ว่าจะหนีไปที่ไหนแล้วด้วยซ้ำ!”

“ห้ะ?” สวีเจี้ยนกงและฟังฮุ่ยอึ้งไป “เขา…เขาเป็นคนแจ้งเบาะแสเหรอ”

“แล้วแม่คิดว่ายังไงคะ” สวีปั้นซย่าพูดด้วยความโกรธ “บริษัทตามเงินตามมา เป็นคุณงามความดีของหลินมั่วล้วนๆ”

“พวกคุณไม่ขอบคุณเขา แต่กลับมาด่าเขา มีใครเขาทำแบบนี้กัน”

สวีเจี้ยนกงและฟังฮุ่ยรู้สึกเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก ในตอนนี้เอง หวงเหลียงก็เข้ามาพูดว่า “พี่เขย พี่ก็ไม่จริงใจเลยนะ”

“ในเมื่อพี่รู้เบาะแสของเถ้าแก่โจวคนนั้น ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ จับเขาไว้ก็จบเรื่อง”

“ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย แถมยังรับปากว่าจะแบ่งเงินร้อยล้านให้หุ้นส่วนพวกนั้นอีก”

“พี่เขย พี่เป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน”

“เงินก้อนโตขนาดนี้ของที่บ้าน จะแบ่งออกไปง่ายๆ ได้ยังไงกัน พี่คิดว่าตนเองเป็นซีอีโอเหรอ”

“พ่อกับแม่ยังอยู่นะ พี่ไม่เอาพ่อกับแม่ไว้ในสายตาเลยนะ!”

สวีเจี้ยนกงและฟังฮุ่ยถูกกระตุ้นให้โกรธขึ้นมาทันที “ใช่ นายมีสิทธิ์อะไรมาจัดการเงินทุนของบริษัท”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา