หลินมั่วกับสวี่ปั้นซย่ากลับถึงบ้าน กำลังจะเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงแหลมของผู้หญิง
“โอ๊ย พี่เขย พวกคุณอบรมสั่งสอนกันแบบนี้ ก็ไม่ได้ดีอะไร!”
“ตอนนี้สามทุ่มแล้ว ลูกสาวคุณยังเที่ยวเตร่อยู่ข้างนอก”
“ดูเฉียวเฉียวของฉันสิ สองทุ่มครึ่งกลับถึงบ้านตรงเวลาทุกวัน นี่สิคือกุลสตรี!”
“ไม่แปลกใจเลยที่สุดท้าย เธอก็เลือกคนที่ไม่ได้เรื่องมาแต่งงานด้วย”
“ดูท่าทางจะเที่ยวเตร่จนเบื่อ เลยหาใครสักคนที่ซื่อๆ มารับช่วงดูแลต่อ”
คนที่พูดคือหวงซิ่วฉินน้าสะใภ้สามของสวี่ปั้นซย่า
สวี่เจี้ยนกงและฟังฮุ่ยสีหน้าเข้ม “ซิ่วฉิน ปั้นซย่าออกไปกับหลินมั่ว นับว่าเที่ยวเตร่ได้อย่างไร”
“อีกอย่าง ปั้นซย่าโตแล้ว ออกไปกินข้าวข้างนอกกับเพื่อน เกินสามทุ่มเป็นเรื่องปกติ!”
หวงซิ่วฉินเมินใส่ “ดังนั้นฉันถึงบอกว่าครอบครัวคุณอบรมสั่งสอนไม่เข้มงวด!”
“ปั้นซย่ากับหลินมั่วออกไปข้างนอกด้วยกัน ก็พอแล้วงั้นเหรอ”
“หลินมั่วคบเพื่อนแบบไหน? ไม่ใช่ว่าเป็นกลุ่มเพื่อนไม่ดีนะ?”
“ปั้นซย่าออกไปเที่ยวเตร่กลางคืนกับพวกเพื่อนไม่ดีเหล่านั้น มันมีอะไรดี?”
“แถมยังไปกินข้าวกับเพื่อนอีก?”
“ฉันบอกพวกคุณแล้ว การคบเพื่อน ต้องให้เหมือนกับเฉียวเฉียว คบกับคนที่มีคุณสมบัติสูงเป็นอัจฉริยะ”
“สังคมขยะชั้นต่ำแบบนั้น อย่าพยายามไปคบ”
“พวกเขาทำได้แค่พาคุณไปกินๆ ดื่มๆ เท่านั้น นอกจากนั้นจะช่วยเหลืออะไรคุณได้”
สวี่เจี้ยนกงเอือมระอา ครอบครัวของหวงซิ่วฉินขี้เหนียวมาก วันธรรมดาก็ไม่เคยออกไปสังสรรค์กับเพื่อนเลย
เมื่อพวกเขาประสบปัญหาถึงจะไปประจบประแจงเพื่อนคนอื่น เพื่อขอร้องให้เขาช่วยเหลือ
“จริงสิ ที่พวกคุณมา จริงๆ แล้วมีเรื่องอะไร” ฟังฮุ่ยเปลี่ยนเรื่อง
ทั้งสองมองหน้ากัน ฟังเจี้ยนกระแอมเบาๆ “คือแบบนี้”
“เฉียวเฉียวไม่ใช่ว่าเรียนจบแล้วเหรอ”
“พวกคุณก็รู้ว่าเฉียวเฉียวยอดเยี่ยมมาก”
“บริษัทข้างนอกหลายแห่งต่างแย่งตัวเฉียวเฉียวให้ไปทำงานที่นั่นด้วย”
“พวกฉันคิดว่า เราเองเป็นครอบครัวเดียวกัน เรือล่มในหนองทองจะไปไหนจริงไหม”
“ดังนั้นฉันเลยจะให้เฉียวเฉียวมาช่วยงานพวกคุณ!”
ฟังฮุ่ยและสวี่เจี้ยนกงมองหน้ากัน เป็นอย่างที่คิดไว้ว่ามาหางานทำ
แม้ว่าทั้งสองจะเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว แต่สิ่งที่ฟังเจี้ยนพูดทำให้รู้สึกไม่สบายใจมาก
คุณมาหางาน ทำเหมือนกับว่าพวกเราเอารัดเอาเปรียบ
ถ้าบอกว่าเฉียวเฉียวยอดเยี่ยมจริงๆ อย่างนั่นก็ได้
แต่ปัญหาคือเฉียวเฉียวเป็นคนไม่ได้เรื่อง
จบวิทยาลัย เข้าไปอุตสาหกรรมยาสวี่ซื่อสามารถทำอะไรได้เหรอ
ฟังฮุ่ยหันไปขยิบตาให้สวี่เจี้ยนกง
เธอรู้ดีว่าครั้งนี้หากพวกเขาไม่รับปาก ฟังเจี้ยนและหวงซิ่วฉินต้องก่อความวุ่นวายให้ครอบครัวของเขาแน่นอน
แม้แต่คนชราของครอบครัวฟังฮุ่ยก็ถูกเธอจัดการย้ายออกไป!
สวี่เจี้ยนกงรู้ว่าหวงซิ่วฉินเป็นผู้หญิงปากคอเราะร้าย จึงไม่กล้าปฏิเสธ
“ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมไม่ให้เฉียวเฉียวไปทำงานที่บริษัทล่ะ”
สวี่เจี้ยนกงหัวเราะ
ฟังเจี้ยนคิ้วขมวด หวงซิ่วฉินสีหน้าไม่พอใจ “ทำงาน?”
“พี่เขย คุณหมายความว่า อยากให้เฉียวเฉียวไปเป็นพนักงานเหรอ”
“นักเรียนดีเด่นแบบเฉียวเฉียวที่มีความประพฤติและผลการเรียนดีเลิศ คุณจะให้เธอไปเป็นพนักงาน?”
สวี่เจี้ยนกงนิ่งอึ้งไป เธอเป็นนักศึกษาวิทยาลัยที่เพิ่งเรียนจบ สามารถเข้าอุตสาหกรรมยาสวี่ซื่อได้ก็ถือว่าดีแล้ว
ไม่เป็นพนักงาน งั้นคุณอยากให้จะเป็นอะไร เป็นหัวหน้า?
“ไม่ใช่แบบนั้น น้องสะใภ้ ถึงอย่างไรเฉียวเฉียวก็เพิ่งเรียนจบ...” ฟังฮุ่ยพูดเสียงเบา
หวงซิ่วฉินโมโหมาก “เพิ่งเรียนจบแล้วมันทำไม”
“เพิ่งเรียนจบ แต่บริษัทข้างนอกหลายแห่งต่างก็แย่งตัวเฉียวเฉียวให้ไปทำงานด้วย”
“พวกเรามาที่นี่ เพื่อที่จะช่วยเหลือคนในครอบครัว พวกคุณปฏิบัติต่อคนในครอบครัวแบบนี้เหรอ”
“พวกคุณทำให้พวกฉันผิดหวังมาก!”
สวี่เจี้ยนกงอดไม่ได้ที่จะโมโห “ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นให้เฉียวเฉียวออกไปทำงานกับบริษัทใหญ่ข้างนอกเถอะ!”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมาทุกคนต่างตกตะลึง ฟังฮุ่ยหน้าเปลี่ยนสีทันที คำพูดของสวี่เจี้ยนกงจะทำให้เกิดเรื่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
เรื่องนี้วนเวียนอยู่กับตระกูลพ่อตาแม่ยายจนน่ารำคาญแถมยังมีน้องเมียกะคู่เขยผสมโรงด้วยอีก ไม่ไปไหนเสียที...
ทั้งหมดมีกี่ตอนครับ อยากให้ Update เพิ่มบทให้มากกว่านี้...
อัพเดตวันไหนคับ...
นิยายมีสามพันตอน เมื่อไหร่จะ update ครบครับเนี่ย...
อัพเดทวันไหนครับ...