หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 168

สวี่เจี้ยนกงและฟังฮุ่ย ต่างก็ดีใจเเละประหลาดใจในเวลาเดียวกัน

พวกเขาคิดไม่ถึงว่า หลินมั่วจะมีฝีมือจัดการเรื่องนี้ จนสามารถทำให้ทั้งบ้านหวงซิ่วฉินต้องระเห็จหนีออกจากเมืองนี้ไปได้

ยิ่งไปกว่านั้น ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาไม่ต้องสูญเสียอะไรไปเลยจากเรื่องนี้ !

ในตอนนั้นเอง สวี่ตงเสวี่ยก็ทำหน้าเบะปากพูดว่า " อะไรคือที่บอกว่าไม่ได้สูญเสียอะไรไปเลย "

" อุบัติเหตุรถยนต์เมื่อวันก่อน พวกเราไม่ใช่ต้องจ่ายค่าเสียหายตั้งสองล้านกว่าบาทหรอกเหรอ ? "

" นี่ไม่เรียกว่าสูญเสียอีกรึ ? "

" หลินมั่ว ถ้าวางแผนการซะขนาดนี้ ทำไมไม่รีบจัดการให้มันเร็วกว่านี้ล่ะ ? "

" ถ้าพวกนั้นออกไปจากเมืองนี้ซะตั้งเเต่เเรก ก็คงไม่ต้องสูญเสียเงินไปมากมายขนาดนี้ "

" สองล้านห้าเลยนะ นายคิดว่าเงินของบ้านเรามันปลิวมากับสายลมเหรอไง ? "

หลินมั่วคิ้วขมวด นี่มันจงใจจะหาเรื่องกันนะเนี่ย

สวี่ปั้นซย่าพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง " เสวี่ยเอ๋อร์ พูดอย่างนี้มันก็ไม่ถูกนะ ! "

" แผนการของหลินมั่ว อย่างที่ทุกคนรู้ มันต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน และแน่นอนว่าต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งด้วย "

" มันต้องรอให้พวกเขาตกหลุมพรางเสียก่อนสิ จะให้ทุกอย่างมันสำเร็จในชั่วพริบตาเดียวได้ยังไงกัน "

หวงเหลียงพูดแกมเยาะเย้ยว่า “ พี่เขยออกจะเก่งกาจขนาดนี้ เรื่องเล็กๆ เเค่นี้ยังต้องทำทีละขั้นตอนอีกเหรอ? "

หลินมั่วตอบกลับเบาๆ " ถ้าคิดว่ามันเป็นเเค่เรื่องเล็กๆ แล้วทำไมนายไม่มาจัดการเองเลยล่ะ ? "

" นายไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ดีแต่มาพูดแดกดันใส่คนอื่นแบบนี้ นี่น่ะเหรอความสามารถที่คนอย่างนายมีน่ะ ? "

หวงเหลียงหน้าเจื่อนไปในทันที ได้เเต่อ้าปากค้าง ถึงขั้นเถียงไม่ออก

สวี่ตงเสวี่ยพูดด้วยความโมโห " หลินมั่ว มากไปแล้วนะ ! "

" นี่มันเรื่องของครอบครัวนาย จะให้สามีฉันไปจัดการได้ยังไงล่ะ "

" นายเเต่งเข้ามาเป็นลูกเขยของบ้าน แต่สามีฉันไม่ใช่ ! "

หลินมั่วหัวเราะออกมาเบาๆ " ถ้าอย่างงั้น พวกคุณก็ไม่ใช่คนของตระกูลสวี่เเล้วสินะ ? "

" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น อาหารค่ำมื้อนี้ พวกคุณก็อย่ากินเลย เเล้วต่อไปก็ไม่ต้องกลับเข้าบ้านเเล้วนะ "

สวี่ตงเสวี่ย " นายนี่มัน... "

ฟังฮุ่ยรีบโบกมือเป็นระวิง " โอ้ย พอได้เเล้วๆ "

" เพื่อเรื่องเเค่นี้ ถึงกับต้องพูดจากันขนาดนี้เลยเหรอ ? "

สวี่ตงเสวี่ยพูดด้วยอารมณ์โกรธ " แม่ นี่มันไม่ใช่เรื่องแค่นี้นะคะ "

" นี่มันเรื่องเงินตั้งสองล้านห้าเลยนะเเม่ ! "

" แล้วจะทำยังไงกับเงินสองล้านห้านั่น ? "

ฟังฮุ่ยรีบพูดตัดบททันที

สวี่ตงเสวี่ยหันไปหาสวี่เจี้ยนกงอีกครั้ง " พ่อ เงินตั้งสองล้านห้าเลยนะคะ บ้านเราต้องจ่ายเงินก้อนนั้นจริงๆเหรอคะ ? "

" ต่อให้พ่อกับแม่เหน็ดเหนื่อยหาเงินกันมาทั้งชีวิต ก็ยังเก็บเงินได้ไม่เยอะขนาดนั้นเลย...เเล้วตอนนี้ เผลอแป๊บเดียวต้องมาเสียเงินก้อนนั้นไปหมด "

" ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย "

" หลินมั่วเก่งนักไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่จัดการแก้ปัญหานี้ซะล่ะ "

สวี่เจี้ยนกงขมวดคิ้วเล็กน้อย จะว่าไปเงินตั้งสองล้านห้าแสนไม่ใช่น้อยๆ เล่นเอาเขาก็เจ็บปวดหัวใจน่าดูเลยเหมือนกัน

ตาของฟังฮุ่ยเริ่มเป็นสีแดงระเรื่อ " เฮ้อ นี่มันเวรกรรมอะไรกันนะ ! "

" ทำไมครอบครัวเราต้องเสียเงินจำนวนมากมายขนาดนี้ "

" เเล้วต่อไปจะกินอะไรกันล่ะทีนี้..."

สวี่ปั้นซย่ากัดฟันกรอดๆ " แม่ อย่ากังวลไปเลยค่ะ "

" เงินก้อนนี้ เดี๋ยวหนูจัดการเอง ! "

ฟังฮุ่ยถามอย่างร้อนใจ " ลูก... ลูกจะจัดการยังไง ? "

" ลูกเพิ่งจะเป็นประธานกรรมการบริษัทได้ไม่นาน เงินโบนัสปันผลอะไรก็ยังไม่ออก...นี่แกคิดจะยักยอกเงินบริษัทเหรอ ? "

" ปั้นซย่า ห้ามทำอย่างนั้นเด็ดขาดนะรู้ไหม "

" เพื่อเรื่องนี้ แกต้องเสียหายขาดทุนกับมันไปเท่าไหร่เเล้ว ! "

สวี่ปั้นซย่าได้เเต่นั่งกัดฟัน ไม่พูดไม่จา

หลินมั่วถอนหายใจและพูดออกมาเบาๆ " ปั้นซย่า คุณไม่ต้องกังวลนะ "

" เงินสองล้านห้านี้ เดี๋ยวผมจะคิดหาวิธีดู โอเคไหม ? "

สวี่ปั้นซย่าร้อนใจ " หลินมั่ว..."

สวี่เจี้ยนกงและฟังฮุ่ยต่างก็มองไปที่หลินมั่วด้วยสายตาตื่นเต้นเเละประหลาดใจ

สวี่ตงเสวี่ยเเสยะยิ้มออกมาในทันที " อุ๊ยตาย นายนี่ช่างกล้าพูดเนาะ ! "

" ดีเลย ในเมื่อนายพูดออกมาเอง งั้นเงินสองล้านห้านี้ ยกให้นายเป็นคนจัดการก็เเล้วกัน ! ”

" พวกเราไม่ได้บังคับนะ ! "

สวี่ปั้นซย่าตบโต๊ะอย่างเเรงด้วยความโกรธ " เสวี่ยเอ๋อร์ แกนี่มันเกินไปแล้วนะ ! "

" ช่างเถอะ ฉันไม่กงไม่กินมันละ ! "

สวี่ปั้นซย่าหันหลังกลับและเดินจากไป หลินมั่วรีบเดินตามเธอออกไปติดๆ

สวี่ตงเสวี่ยเบะปาก " เห่อะ เจ้าอารมณ์กันจริงๆ ! "

" ไม่กินก็ช่างประไร ถ้าไม่กิน พวกเรากินเอง ! "

สวี่เจี้ยนกงกับฟังฮุ่ยได้แต่นั่งก้มหน้านิ่งเงียบ แม้ว่าตัวเองจะรู้สึกผิดอยู่ในใจ เเต่ยังไงซะ หลินมั่วก็รับปากที่จะแก้ปัญหาก่อนหน้านี้ให้ พวกเขาก็คงจะไม่เข้าไปขัดขวางหรอก

ใบหน้าของสวี่ตงเสวี่ยและหวงเหลียงดูกระหยิ่มยิ้มย่องลำพองใจ กินๆ ดื่มๆ ราวกับว่าได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ก็ไม่ปาน

ทันใดนั้น ประตูก็ถูกผลักเปิดออก หญิงสาวสวยนางหนึ่งเดินเข้ามา

ผู้หญิงคนนี้น่าจะอายุเพียงยี่สิบกว่าๆ เท่านั้น ดูจากการเเต่งเนื้อเเต่งตัวก็รู้เลยว่าเธอน่าจะไม่ธรรมดา

บุคลิกหน้าตาก็ดูไม่ต่างจากสวี่ปั้นซย่าสักเท่าไหร่

แต่ประเด็นคือ เธอช่างดูมีออร่าโดดเด่นเป็นสง่า จนทำให้ผู้คนไม่กล้าสบตาเธอ

" ขอโทษนะคะ ขอรบกวนสักครู่ค่ะ "

" ไม่ทราบว่า คืนนี้คุณหลินมั่วได้มาทานอาหารที่นี่หรือเปล่าคะ ? "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา