หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 182

สวี่ตงเสวี่ยจำได้ทันที "ไอโย่ พี่สาวฉันนี่ก็จริงๆ เล้ย ตาบอดรึยังไงกันนะ"

"เธอเป็นถึงประธานของอุตสาหกรรมยาสวี่ซื่อเชียวนะ ยับแก่นั่นให้เพียงกำไลหยกนี่ ก็จะรับเธอมาเป็นบุตรบุญธรรมแล้วเนี่ยนะ"

"ยัยแก่นั่น ไม่รู้ว่าตอนนี้ดีใจมากแค่ไหน ต่อไปไม่แน่ว่าจะยืมชื่อเสียงของเราหลอกลวงคนภายนอกว่าเกี่ยวข้องรู้จักกับพวกเราก็เป็นได้!"

ฟังฮุ่ยโกรธอย่างสุดขีด "พอแล้วๆ ไม่ต้องพูดแล้ว"

"พูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็โกรธขึ้นมา"

สวี่ตงเสวี่ยหยิบกำไลหยกไปลูบไล้อยู่พักหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้นมา " แม่คะ กำไลหยกนี่ หนูเอาไปขายก็ได้แล้ว”

"อย่างแรกเลยคือเปลี่ยนมาเป็นเงิน สองคือได้ทำให้พี่สาวฉันรู้ด้วยว่า กำไลหยกที่ยัยแก่นั่นให้ เป็นขยะที่ไร้ค่า ให้เธอตาสว่างได้สักที!"

ฟังฮุ่ยคิดอยากจะทิ้งกำไลหยกนี่ไปพอดี พอได้ยินว่านำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ ก็เลยไม่ปฏิเสธ

"ได้ งั้นลูกก็เอาขายเถอะ"

"ขายได้เท่าไหร่ลูกก็เก็บไว้"

เดิมฟังฮุ่ยก็ไม่ได้คิดว่ากำไลหยกนี่จะค่ามากอะไร ของนี่ ดูแล้วไม่แวววาวเลย ต้องไม่ใช่หยกชั้นดีอย่างแน่นอน

สวี่ตงเสวี่ยนำกำไลหยก ตรงไปยังร้านขายหยกที่อยู่ใกล้ๆ บอกเถ้าแก่ว่าต้องการขายกำไลหยก

เถ้าแก่เห็นกำไลหยก ก็ชะงักไปทันที จากนั้นก็เข้ามาใกล้ๆ พลางมองอย่างพินิจพิเคราะห์เป็นเวลานาน

สีหน้าของสวี่ตงเสวี่ยเต็มไปด้วยความไม่พอใจ "นี่ คุณมองพอหรือยัง"

"เสนอราคามา ถ้าขายได้ก็จะขาย ฉันยังมีธุระต่อนะ!"

เถ้าแก่หรี่ตาลงเล็กน้อย พลางยิ้มตอบ "คุณผู้หญิง กำไลหยกนี้ คุณเอามาจากที่ไหนเหรอครับ"

สวี่ตงเสวี่ยชักสีหน้าบูดบึ้ง "ฉันมาขายกำไลหยกนี่นะ คุณยังจะตรวจสอบบัญชีด้วยเหรอ จะถามให้มากความไปทำไมกันเนี่ย"

เถ้าแก่ส่ายหัว "ไม่ใช่อย่างนั้นครับ"

“หลักๆ คือสายงานนี้ที่พวกเราทำ จะไม่รับหยกที่ไม่มีที่มาที่ไป นี่คือกฎที่รู้กันโดยทั่วไปครับ!”

สวี่ตงเสวี่ยก็ไม่เข้าใจ จึงกล่าวออกไป "เป็นผู้อาวุโสคนนึงที่ให้ฉันมา"

“บอกว่าเป็นของตกทอดที่จะให้บุตรสาวของตนเอง จะใช้สิ่งนี้เพื่อรับฉันเป็นบุตรบุญธรรม"

เธอไม่ทันได้สังเกต ว่าดวงตาของเถ้าแก่เป็นประกาย

เขาถอนหายใจเบาๆ พลางยิ้มตอบ "คุณผู้หญิง ในเมื่อรู้ที่มาของหยกแล้ว อย่างนั้นก็พูดกันง่ายครับ"

"กำไลหยกนี้ พูดตามตรง คุณภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เป็นหยกทั่วๆ ไป"

"แต่ว่า มีความคล้ายคลึงกับหยกของผมที่นี่"

"วางขายไว้ด้วยกัน ก็จะมีราคาขึ้นมาหน่อย

"ดังนั้น ผมสามารถให้ราคาที่สูงกับคุณได้"

พูดพลาง เถ้าแก่ก็ทำท่าทางที่แลดูลังเลเป็นอย่างมาก และกล่าวเสียงค่อย " หมื่นแปดพันหยวน คุณคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ"

สวี่ตงเสวี่ยตกตะลึง เธอคิดว่าของนี่ ขายได้มากสุดก็คงหนี่งถึงสองพัน

นึกไม่ถึงเลยว่า จะได้ขายได้ตั้งหมื่นกว่า

แต่ว่า สวี่ตงเสวี่ยก็ไม่ใช่คนโง่

เถ้าแก่เสนอราคาครั้งแรก จะต้องมีตุกติกเล็กน้อยอย่างแน่นอน

"หมื่นแปดเหรอ ล้อกันเล่นใช่ไหม!" สวี่ตงเสวี่ยยกมุมปากขึ้น "กำไลหยกนี่ของฉัน จะราคานี้ได้ยังไง"

สีหน้าของเถ้าแก่เปลี่ยนไปเล็กน้อย "งั้น...งั้นคุณต้องการเท่าไหร่ครับ"

สวี่ตงเสวี่ยคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน แล้วกัดฟันพูดออกไปว่า "สามหมื่นห้าพันหยวน!"

เถ้าแก่ได้สังเกตท่าทางของสวี่ตงเสวี่ยมาโดยตลอด เห็นว่าแววตาของเธอฉายแววแห่งความกังวลใจ ก็รู้แล้วว่าเธอไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

แน่นอนว่า เขาอยากจะตอบตกลงมาก แต่ก็กังวลว่าหากตอบตกลงเร็วไป สวี่ตงเสวี่ยจะไม่ขายให้

"ราคานี้ ผมให้ไม่ไหวครับ!"

"อย่างนี้ดีไหม พวกเราทั้งสองก็ถอยคนละก้าว"

"ผมให้สองหมื่นห้า!"

"นี่คือราคาสูงสุดที่ผมสามารถให้ได้แล้ว คุณคิดเห็นอย่างไรครับ!"

เถ้าแก่แสร้งทำเป็นลังเล ทำให้สวี่ตังเสวี่ยรู้สึกตื่นตระหนก

ท้ายที่สุด หลังจากผ่านการต่อรองราคากันไปมา กำไลหยกนี่ ก็ถูกสวี่ตงเสวี่ยขายออกไปในราคาสองหมื่นแปดพันหยวน

สวี่ตงเสวี่ยนำเงินจำนวนมากนี่ เดินออกไปจากร้านขายหยกอย่างอารมณ์ดี

อีกทางด้านหนึ่ง เถ้าแก่ก็หยิบกำไลหยกขึ้นมา เดินตรงไปยังสวนด้านหลัง เขาหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรออกในทันที

"ที่รัก เร็วเข้า รีบเก็บของ ไม่ต้องสนว่าอะไรมีค่าหรือไม่มีค่า นำเงินติดตัวมาก็พอ"

"รับลูกมาด้วย กำลังรีบไป รอฉันใต้ตึกนะ!"

"ไม่ต้องถามอะไรมาก รีบไป"

"ครั้งนี้ย้ายออกไปได้ ครอบครัวของก็รวยแล้ว!"

"ฉันได้กำไลหยกอันหนึ่งมา มีราคามากกว่าหนึ่งร้อยล้านแน่นอน นี่ถ้าได้ขายออกไป ทั้งชีวิตนี้พวกเราก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา