พอเห็นหลินมั่ว ฟังอวี้เลี่ยงก็หน้าเสียอย่างกะทันหัน
เขาเป็นทายาทของตระกูลฟังหนึ่งในสิบตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองก่วงหยาง เขาเย่อหยิ่งทะนงตนมาตลอด ตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอก
หลินมั่วสวมเสื้อผ้าธรรมดาขนาดนั้น ในสายตาของเขาหลินมั่วเป็นเหมือนขอทานข้างถนน เขามีคุณสมบัติอะไรถึงจะพูดกับเขาได้?
“ไร้สาระจริงๆ พี่หลานไปเชิญใครมาตอนไหน ทำไมผมไม่รู้”
“แกคิดว่าพี่หลานไม่มาแล้วจะพูดอะไรก็ได้อย่างงั้นเหรอ”
“ฉันจะบอกให้นะ งานเลี้ยงอวิ๋นติ่งเป็นงานระดับไฮเอนด์มากและการรักษาความปลอดภัยที่นี่ก็เข้มงวดมากเช่นกัน”
“แอบเข้ามาในงานเลี้ยงอวิ๋นติ่งตามอำเภอใจ ถือเป็นการลักลอบที่ร้ายแรง!”
“ถ้าฉันแจ้งตำรวจ หึ พวกแกจะต้องแย่แน่!”
ตอนฟังอวี้เลียงกำลังพูด ดวงตาของเขามองไปที่ฟังปั้นซย่าอย่างไม่ละสายตา
เขามีตัณหายู่เสมอและเมื่อเห็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ เขาจะยอมปล่อยไปได้อย่างไร
หลินมั่ว "ประธานซ่งได้เชิญพวกเรามาหรือไม่ คุณไปถามดูก็จะได้รู้แล้วนี่"
ฟังอวี้เลี่ยงพูดอย่างหงุดหงิด"แกเป็นใคร ถึงกล้ามาสอนฉัน"
“แกให้ฉันไปถาม ฉันก็ต้องไปถามงั้นเหรอ ฉันเป็นลูกน้องของแกหรือไง?”
หลินมั่วขมวดคิ้ว "แล้วคุณจะทำอย่างไร"
ฟังอวี้เลี่ยง "เอาบัตรเชิญออกมา ไม่งั้นฉันคงทำได้แค่เชิญให้พวกนายออกไป!"
เขากำลังวางแผนในใจว่าเดี๋ยวจะเอาคนไปส่งที่ห้องรักษาความปลอดภัยด้านหลัง และเขาก็จะจับสวี่ปั้นซย่าได้อยู่หมัดแล้ว
หลายปีมานี้ เขาทำเรื่องอย่างว่าไปมากมาย
เมื่อเห็นว่าตาของฟังอวี้เลี่ยงจับจ้องไปที่ร่างของสวี่ปั้นซย่าตลอดเวลา หลินมั่วก็รู้สึกโมโหอยู่พักหนึ่ง
หลินม่อพูดเสียงเย็นชา “จะว่าไปแล้ว ขนาดเป็นคำเชิญจากประธานซ่ง คุณก็ไม่ใส่ใจ?”
ฟังอวี้เลี่ยงยิ้มเย้ย "ฉันไม่สนว่าใครจะเป็นคนเชิญแกมา ถ้าไม่มีบัตรเชิญก็ไม่มีสิทธิ์เข้างานเลี้ยงอวิ๋นติ่ง!"
“พอแล้ว ผมว่าพวกคุณไม่มีปัญญาเอาบัตรเชิญออกมาหรอก”
“มา ส่งพวกเขาไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย แล้วฉันจะสอบสวนพวกเขาเอง!”
ไอ้สุนัขรับใช้สองสามคนยิ้มโรคจิต พวกเขารู้ดีว่าฟังอวี้เลี่ยงต้อการจะทำอะไร
พวกเขาล้อมสวี่ปั้นซย่าไว้ทันทีและหนึ่งในนั้นเอื้อมมือมาคว้าสวี่ปั้นซย่า
สีหน้าของหลินมั่วเย็นยะเยือกและก็ตบหน้าชายคนนั้นด้วยหลังมือ ตบจนเขาลงไปกองบนพื้น ใบหน้าด้านหนึ่งของเขาบวมขึ้นมา
ทุกคนที่อยู่รอบๆ ตะลึงและพากันมาดู
สีหน้าของฟังอวี้เลี่ยงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและเขาก็ตะโกนอย่างหัวเสีย "กล้าดียังไง!"
“ถ้าไม่มีบัตรเชิญแล้วก็แอบเข้ามาในงานเลี้ยงอวิ๋นติ่งแล้วยังกล้ามาต่อยตีคนอื่นอีก?”
“พวกคุณไม่ใช่พวกย่องเบา แต่พวกคุณเป็นโจร!”
“เอาล่ะ ไปจับมันมาให้ฉัน!”
“ถ้ากล้าขัดขืน ก็ตีให้ตายไปซะตรงนี้!”
สายตาของพวกสุนัขรับใช้ของเขาจับจ้องไปรอบๆ อย่างร้ายกาจ
ในขณะนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงเย็นชาดังมาจากด้านหลัง “พวกคุณกำลังทำอะไร?”
ทุกคนหันไปมอง เห็นเพียงซ่งจื่อหลานกำลังดินมาอย่างช้าๆในชุดราตรีที่สวยสะพรั่งจนทำให้คนแทบหยุดหายใจ
ใบหน้าของซ่งจื่อหลานเย็นยะเยือก ดวงตาของเธอกวาดมองกลุ่มคนและไม่มีใครกล้ามองตรงมาที่เธอ
ตอนนี้เธอเป็นเหมือนราชินีและออร่าของเธอก็ล้นหลาม!
ฟังอวี้เลี่ยงพูดขึ้นมาทันที “พี่หลาน พี่มาได้ถูกเวลาพอดี”
“สองคนนี้มาแอบด้อมๆมองๆอยู่ในงานปาร์ตี้ ผมสงสัยว่าพวกเขาจะขโมยของ”
"ผมต้องการสอบสวน ผลก็คือพวกเขายังมาต่อยตีคนอื่น"
“เพื่อความปลอดภัยของงานเลี้ยง ผมก็เลยเตรียมจะพาพวกเขาไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย เพื่อไม่ให้รบกวนแขกผู้มีเกียรติที่นี่!”
ฟังอวี้เลี่ยง คนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ ไม่เอ่ยถึงเรื่องบัตรเชิญแต่ย้ำที่หลินมั่วต่อยตีคน
เพราะเมื่อมองสายตาของซ่งจื่อหลานเธอดูเหมือนจะรู้จักหลินมั่วจริงๆ
หากต้องการจะซักไซร้เรื่องการ์ดเชิญจริงๆ นั้นจะต้องทำให้ตัวเองอับอายเป็นแน่
แต่เมื่อกี้หลินมั่วตีคนจริงๆ หากต้องสอบสวน หลินมั่วก็จะไม่สามารถเลี่ยงได้อย่างแน่นอน
ใบหน้าของซ่งจื่อหลานเย็นยะเย็อก "ฟังอวี้เลี่ยง คุณมาจัดการเรื่องความปอดภัยของงานเลี้ยงตั้งแต่เมื่อไหร่"
“ทั้งสองท่านนี้เป็นแขกVIPที่ฉันเชิญมา นายกล้าสงสัยว่าพวกเขาขโมยของ?”
“หรือว่านายคิดว่า คนที่ฉันรู้จักล้วนเป็นหัวขโมย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
เรื่องนี้วนเวียนอยู่กับตระกูลพ่อตาแม่ยายจนน่ารำคาญแถมยังมีน้องเมียกะคู่เขยผสมโรงด้วยอีก ไม่ไปไหนเสียที...
ทั้งหมดมีกี่ตอนครับ อยากให้ Update เพิ่มบทให้มากกว่านี้...
อัพเดตวันไหนคับ...
นิยายมีสามพันตอน เมื่อไหร่จะ update ครบครับเนี่ย...
อัพเดทวันไหนครับ...