ในระหว่างที่หลินมั่วฟื้นฟูร่างกายเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปไม่รู้ตัว
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาย่อมเคยได้ยินข่าวลือที่กำลังแพร่กระจายอย่างบ้าคลั่งจากด้านนอกอยู่แล้ว
แต่สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ หลินมั่วทำเพียงรอดูอย่างเงียบ ๆ
เพราะการฟื้นฟูตันเถียนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ หากยังไม่มีกำลังที่มากพอ เรื่องอื่น ๆ ล้วนเป็นคำพูดลม ๆ แล้ง ๆ ทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่าเซวียอู่เยี่ยหรือไท่จื่อแห่งเมืองไห่ ต่างก็สาบานให้คำมั่นสัญญาอย่างจริงจังว่าตราบใดที่พวกเขายังอยู่ พวกเขาสามารถปกป้องเขาได้ไม่ต้องเป็นกังวลไป แต่พลังนอกตัวก็เป็นเหมือนแหนไร้ราก เมื่อน้ำไหลผ่านมา มันก็หายไปหมดในที่สุด
มีเพียงตัวเองต้องแข็งแกร่งเท่านั้น ถึงจะสามารถตรวจสอบเจอผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังการทำลายตระกูลหลินในปีนั้นได้
และมีเพียงต้องฆ่าล้างแค้นด้วยตัวเองเท่านั้น วิญญาณนับพันของตระกูลหลินถึงจะสามารถนอนตายตาหลับได้อย่างสงบ
ณ สนามหลังบ้าน!
หลินมั่วถือดาบยาวยืนอยู่กลางลานสนามอย่างเงียบ ๆ
หลังจากฝึกฝนมาหลายวัน ระดับความสนิทระหว่างเขากับอาวุธเทพไท่อาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่เหมือนกับความรู้สึกในตอนแรกที่เพิ่งสัมผัสอีกต่อไป ตอนนี้อย่างน้อยเขาก็สามารถถือมันไว้ในมือได้แล้ว
เมื่อสายลมเย็น ๆ พัดผ่าน ใบไม้สีเขียวขจีก็เริ่มส่งเสียงดัง ตอนที่เขาลืมตาขึ้นมา รูม่านตาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตของการสังหาร
“ย้าก!”
ตามมาด้วยเสียงคำรามเบา ๆ
เขาโบกแขนขวาขึ้นมากะทันหัน และทันใดนั้นแสงเย็นก็ปรากฏขึ้นมาอย่างน่าตกใจ วินาทีต่อมาก็มีเสียงดังก้องกังวานขึ้นมา
ห่างออกไปไม่กี่เมตร ต้นไม้ใหญ่ขนาดเท่าสองคนโอบก็สั่นไหวครู่หนึ่ง
ใบไม้สีเขียวนับไม่ถ้วนหล่นร่วงลงมา
หากเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็จะพบว่ามีรอยดาบลึกถึงสองนิ้วอยู่บนลำต้นของต้นไม้ที่หนาและแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ
ส่วนทางด้านหลินมั่ว หลังจากโจมตีออกไป ตอนนี้เขาก็มีเหงื่อไหลออกมาเต็มตัว เขาจึงนำอาวุธเทพปักลงบนดินลึกไปไม่ถึงครึ่งฟุตและหอบหายใจอย่างหนัก ก่อนที่เขาจะมองไปที่ผลงานชิ้นเอกของตัวเอง
“ฟู่ ในที่สุดตันเถียนก็ฟื้นฟูกลับมาแล้ว”
เมื่อเขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มด้วยความปลื้มปิติ
ถึงแม้ว่าระดับพลังที่บำเพ็ญมาของเขาจะลดลงอย่างมาก แต่พลังที่แข็งแกร่งในร่างกายยังคงมีอยู่
แต่มีเรื่องที่น่ายินดีอยู่เรื่องหนึ่งนั้นก็คือตันเถียนและเส้นลมปราณที่เดิมทีเสียหายนั้น ได้รับการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้ด้วยพลังลึกลับ ตอนนี้ขอบเขตพลังของเขาเกือบจะเท่ากับขั้นนิรมิตเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว
และพลังลึกลับนี้น่าจะมาจากพลังของดาบอย่างที่อู๋เซวี๋ยนผู้คลั่งไคล้เทพนิยายกล่าวเอาไว้
ในตอนนั้นเอง อยู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังเข้ามาจากระยะไกล
คนที่มาก็คืออู๋เซวี๋ยนนั้นเอง
“พี่หลินมั่ว มีคนที่ชื่อยาสึชิ อูริตะมารอพบพี่อยู่ที่นอกประตู
แถมเขายังเรียกตัวเองว่าเป็นหมอเทวดาอะไรก็ไม่รู้ ดูจากรูปร่างที่เตี้ยและผอมบาง อีกทั้งสำเนียงของเขาน่าจะเป็นคนชาวญี่ปุ่น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
เซี่ยวซิงปัง ตายไปแล้วยังจะมาคุยได้อีก ตัวละครผิดนะ...
คือคนจีนมีนเป็นแบบนี้จริงๆใช่มั้ย ดูถูกคนอื่นเป็นนิจ หลงตัวเอง แล้วก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ยิ่งอ่านยิ่งน่ารำคาญทั้งเรื่องทั้งเรื่องไม่มีห่าไรเลยพระเอกเกินให้คนดูถูกไปทั่ว พ่อแม่นางเอกก๋หน้าเงิน นางเอกก็นอกจากรักพระเอกแล้วไม่มีอะำรเลยนอกจากสร้างปัญหา เด่วคนนั้นจ้อง คนนี้ต้อง ให้พระเอกมาคอยกำจัด วนไปวนมา อ่านแค่สี่สิบตอนก็เอียนละ ไม่รู้จริงๆนิยายจีนมันเป็นแบบนี้ทุกเรื่องจนคิดว่านี่คือนิสัยจริงๆของคนจีนไปแล้วนะนี่...
อัพวันละ 20 ตอนเหมือนเดิมก้ดีนะแอด 🥺...
รอตอนใหม่นะครับ...
ยังรออยู่นะครับ...
ไม่อัพหลายวันแล้วครับแอดดดดด...
นิยายเรื่องนี้....อ่านไปไม่กี่ตอน...พ๊อตเรื่องสร้างพระเอกเป็นหมาตัวหนึ่ง...เท่านั้น...ไม่มีศักสรี อะไรเลย...โคตรโง่....ยอมให้คนอื่นกดขี่....หรือคนเขียนเองเป็นแบบนี้ครับ...งง...
นิยายไร้สาระของแท้...
นิยายน้ำเน่า...
นิยายขยะ คนแตงก็ขยะ...