“โย่วโย่วโย่ว พ่อหนุ่ม น่าทึ่งนี่ มุกนี้เยี่ยมอยู่นะ”
“ความจริง ถ้าไม่ใช่พี่ต้วนเตือนสติ พวกเราเกือบโดนหลอกแล้ว คนหนุ่มสมัยนี้ไม่มีความซื่อสัตย์”
“ดูท่าว่าเรื่องที่คนนี้โกงข้อสอบจะสามารถยืนยันได้แล้ว แม้กระทั่งการทดสอบภาคปฏิบัติยังไม่ลืมนิสัยที่ชอบโกง”
“นั่นซิ หัวหน้าผู้คุมสอบชิงประกาศเลยเถอะ คนๆนี้ไม่รู้แม้กระทั่งชีพจร ยังคิดจะโกงสอบ ไร้สาระสิ้นดี”
ชิงจ่างเพกเฉยต่อการเสียดสีของทุกคน แล้วหันไปมองหลินมั่ว
“จะรักษาโรคนี้ยังไง มีแผนการรักษาไหม”
หลินมั่วพยักหน้าแล้วตอบว่า
“ยามภูมิแพ้อากาศเย็น ธาตุไฟย่อมปะทุ
ยามธาตุไฟปะทุภูมิแพ้อากาศเย็นก็จะยิ่งอักเสบรุนแรง ดังนั้น...”
หลินมั่วยังไม่ทันวิเคราะห์จบ
หวังเฉียงจากด้านข้างก็พูดสอดอีกครั้ง
“พอแล้ว คำพูดของหลินมั่วพวกนี้ มีอยู่ในเวชระเบียนทั้งนั้น
คุณก็ไม่ต้องทำให้ทุกคนเสียเวลาแล้ว
อย่าเสแสร้งได้ไหม”
เวลานี้ หัวหน้าของเตียงคนไข้จ้าวเอ้อร์โก่วกลับทนไม่ได้ขึ้นมาแล้ว
เมื่อเห็นโอกาสในการรักษาอยู่ตรงหน้า เขาก็หมดความอดทนด้วยความร้อนใจ
บอกกับผู้คุมสอบสองสามคนที่มัวแต่ชะลอยืดเวลาของหลินมั่วตลอดเวลา ในใจก็รู้สึกรำคาญถึงที่สุด
ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั่วร่างกายรู้สึกร้อนขึ้นอีกครั้ง
และมีอาการคันอย่างรุนแรงตามมา
“พวกแกไอ้แก่หนังเหนียวหุบปากหน่อยได้เปล่า กูคันจะตายอยู่แล้ว
โอ๊ย ฉันจะตายแล้วโว้ย น้องชาย รีบช่วยฉันเร็ว”
ความรู้สึกนี้มีชีวิตอยู่ไปก็เลวร้ายยิ่งกว่าตายเสียอีก
ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เมื่อโรคนี้กำเริบ
เข็มเงินที่อยู่ทั่วตัวของจ้าวเอ้อร์โก่วก็ค่อยๆถูกบีบออกมาจากร่างกาย
หากไม่รีบช่วยให้ทันเวลา เกรงว่าชีวิตจะตกอยู่ในอันตราย
สถานการณ์สถานการณ์วิกฤติ ชิงจ่างก็ทำอะไรไม่ถูก หากมีหนทางเขาคงดำเนินการไปนานแล้ว
และแล้วหลินมั่วที่อยู่ข้างๆ ก็ได้พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ยื่นมือขวา หยิบเข็มเงินที่ติดตัวมาออกมาโดยตรง
“รอเดี๋ยว จะเจ็บนิดๆ อดทนไว้”
พูดจบเข็มเงินเล่มหนึ่งก็ถูกแทงไปที่จุดกานซูของจ้าวเอ้อร์โก่วโดยตรง
ต้วนจิ่วชุนเมื่อเห็นหลินมั่วแทงเข็มไปตรงๆ ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
หากโดนหลินมั่วรักษาหายจริงๆ เขาก็รับประกันชีวิตเขาไม่ได้แล้ว
“หัวหน้าผู้คุมสอบชิง คนเจ้าเล่ห์หลอกลวงคนนี้ ไม่ใส่ใจชีวิตมนุษย์
หากทำจนคนเสียชีวิต สมาคมของพวกเราจะอธิบายกับทางโรงพยาบาลอย่างไร”
“ใช่ครับ หลินมั่วคนนี้ไม่รู้ปฏิบัติการทางการแพทย์เลย ไม่วัดชีพจร ก็วินิจฉัยสาเหตุของโรคทันที
คนๆนี้เป็นหายนะใหญ่ของสมาคมการแพทย์ของพวกเรา หัวหน้าผู้คุมสอบรีบขวางเขาเร็วๆครับ”
เวลานี้เมื่อเห็นสีหน้าของชิงจ่างมืดหม่นจนน้ำตาไหลออกมาแล้ว
หวังเฉียงที่โง่เขลา ยังคิดว่าหัวหน้าผู้คุมสอบชิงจะโกรธหลินมั่วเพราะการกระทำที่ประมาทของเขา
จึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อจุดไฟอีกครั้ง
แต่ก่อนที่เขาจะอ้าปากพูด
ชิงจ่างได้ตำหนิด้วยความโกรธ
“ถ้าพวกคุณมีวิธีรักษา ก็ก้าวออกมาข้างหน้าแล้วลงมือ
หากไม่มีก็หุบปาก
เกิดอะไรผิดพลาดขึ้น ผมรับผิดชอบเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
นิยายที่มีแต่คนปัญญาอ่อน...
อัพหน่อยแอด ไม่อัพหลายวันแล้ววว...
เซี่ยวซิงปัง ตายไปแล้วยังจะมาคุยได้อีก ตัวละครผิดนะ...
คือคนจีนมีนเป็นแบบนี้จริงๆใช่มั้ย ดูถูกคนอื่นเป็นนิจ หลงตัวเอง แล้วก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ยิ่งอ่านยิ่งน่ารำคาญทั้งเรื่องทั้งเรื่องไม่มีห่าไรเลยพระเอกเกินให้คนดูถูกไปทั่ว พ่อแม่นางเอกก๋หน้าเงิน นางเอกก็นอกจากรักพระเอกแล้วไม่มีอะำรเลยนอกจากสร้างปัญหา เด่วคนนั้นจ้อง คนนี้ต้อง ให้พระเอกมาคอยกำจัด วนไปวนมา อ่านแค่สี่สิบตอนก็เอียนละ ไม่รู้จริงๆนิยายจีนมันเป็นแบบนี้ทุกเรื่องจนคิดว่านี่คือนิสัยจริงๆของคนจีนไปแล้วนะนี่...
อัพวันละ 20 ตอนเหมือนเดิมก้ดีนะแอด 🥺...
รอตอนใหม่นะครับ...
ยังรออยู่นะครับ...
ไม่อัพหลายวันแล้วครับแอดดดดด...
นิยายเรื่องนี้....อ่านไปไม่กี่ตอน...พ๊อตเรื่องสร้างพระเอกเป็นหมาตัวหนึ่ง...เท่านั้น...ไม่มีศักสรี อะไรเลย...โคตรโง่....ยอมให้คนอื่นกดขี่....หรือคนเขียนเองเป็นแบบนี้ครับ...งง...
นิยายไร้สาระของแท้...