หลังจากใช้ไปแล้วร้อยกระบวนท่าจู๋เยี่ยชิงก็ค่อย ๆ รู้สึกว่าร่างกายหมดกำลังลงหน้าผากเริ่มมีเหงื่อไหลออกมาเล็กน้อย
เมื่อเห็นอย่างนี้ ไป๋เมี่ยนหลังก็ค่อยแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ศิษย์น้องถอดใจเถอะ ถึงแม้ว่าเธอจะมีระดับพลังยุทธ์เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่อยู่ดี”
ในฐานะที่เป็นศิษย์สำนักเดียวกัน เขาย่อมรู้ข้อดีและข้อด้อยของดาบใหญ่เล่มนี้ แม้ว่าพลังดาบจะมีพลานุภาพที่รุนแรงและมีพลังทำลายล้างสูง แต่หากเคลื่อนไหวอาวุธที่หนักเป็นพัน ๆ กิโลตลอดเวลาต้องสูญเสียพลังงานร่างกายมากเกินไป และขาดความรวดเร็วในการเคลื่อนตัว
เมื่อเจอกับคนที่มีการเคลื่อนไหวคล่องตัวอย่างตัวเองก็สามารถทำให้กำลังกายอีกฝ่ายที่มีเต็มเปี่ยมลดลงจนหมดได้เพียงแต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำตักเตือนของไป๋เมี่ยนหลัง จู๋เยี่ยชิงกลับไม่ได้ตอบสนองกลับไปแต่อย่างใด ๆ
แต่กลับยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“นั่นมันไม่แน่หรอก!”
ทันทีที่พูดจบ พลังรอบตัวของเธอก็เปลี่ยนไปทันที พลังดาบอันหนาวเย็นระเบิดออกมาอีกครั้งพอเธอลืมตาทั้งสองข้างขึ้น จู๋เยี่ยชิงก็ลุกขึ้นอีกครั้ง
“ใช้กระบวนท่าแบบเดิม สำหรับพี่มันไม่มีประโยชน์หรอกนะ”
ไป๋เมี่ยนหลังยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัวให้ เพียงแต่ในขณะที่เขาตั้งใจจะหลีกเลี่ยงการโจมตีของอีกฝ่ายด้วยวิธีเดิมนั้นอยู่ ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนไปกะทันหัน
เพราะว่าดาบยาวที่เดิมทีเคยเทอะทะงุ่มง่ามอยู่ ๆ ก็แปรเปลี่ยนไปคล่องแคล่วและว่องไวมากขึ้นในทันที ภายใต้สถานการณ์ที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาทำเพียงหลบมันอย่างหวุดหวิด
และเอามือข้างเดียวค้ำพื้นเอาไว้ หลังจากนั้นก็พลิกกลับไปมาอยู่หลายครั้ง ในที่สุดไป๋เมี่ยนหลังก็สามารถรักษาระยะห่างจากจู๋เยี่ยชิงได้
“ดาบจิ้ง ยกดาบหนักเหมือนเบาได้เชียว?”
และในตอนนี้เหนือแก้มของเขามีรอยบาดตื้น ๆ ปรากฏขึ้นวินาทีถัดมา ดาบก็วาดผ่านเข้ามาอีกครั้ง
ท่ามกลางแสงเย็นยะเยือกที่วาดตัดผ่านไป๋เมี่ยนหลังทำได้เพียงแค่หลบซ้ายหลบขวาเพียงเท่านั้น ดูเหมือนจะทำได้ง่าย ๆ แต่ถ้าสังเกตอย่างละเอียดดี ๆ ก็จะค้นพบว่าลมหายใจของไป๋เมี่ยนหลังในเวลานี้ค่อย ๆ หายใจหอบขึ้นเรื่อย ๆ
แม้ว่าจะคุ้นเคยกับกระบวนดาบของศิษย์น้อง แต่ก็ไม่สามารถรับมือกับความเร็วอย่างบ้าคลั่งของดาบที่เย็นยะเยือกนี้ได้
“ไม่สามารถหลบได้อีกแล้ว”
หลังจากถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ เขาก็หลบอีกครั้งและสายตาของเขาก็จดจ้องอยู่กับดาบยาวของจู๋เยี่ยชิง ก่อนที่ออร่ารอบตัวของไป๋เมี่ยนหลังเริ่มก่อตัวรวมกันอย่างช้า ๆ
เขาในตอนนี้ ในที่สุดก็เริ่มจริงจังขึ้นมาแล้วจังหวะที่จู๋เยี่ยชิงเหวี่ยงดาบมาอีกครั้ง ร่างกายของเขาล่องลอยเบาหวิวมากขึ้น และกระทบกับแสงสลัวของไฟไปมา
คาดไม่ถึงว่าจะมีเงาซ้อนทับเกิดขึ้นด้านหลังของไป๋เมี่ยนหลัง
การเคลื่อนย้ายฝีเท้าลวงตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
ราคาภาพตอนแรกบอก 2 ล้าน 5 แสน ต่อเหลือ 2 ล้าน ตอนท้ายบอก 2 แสน เพิ่มเป็น 6 แสน 555...
นิยายจีนร่วมสมัย อ่านก็ให้ได้สิ่งดีๆมากมาย...
นิยายที่มีแต่คนปัญญาอ่อน...
อัพหน่อยแอด ไม่อัพหลายวันแล้ววว...
เซี่ยวซิงปัง ตายไปแล้วยังจะมาคุยได้อีก ตัวละครผิดนะ...
คือคนจีนมีนเป็นแบบนี้จริงๆใช่มั้ย ดูถูกคนอื่นเป็นนิจ หลงตัวเอง แล้วก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ยิ่งอ่านยิ่งน่ารำคาญทั้งเรื่องทั้งเรื่องไม่มีห่าไรเลยพระเอกเกินให้คนดูถูกไปทั่ว พ่อแม่นางเอกก๋หน้าเงิน นางเอกก็นอกจากรักพระเอกแล้วไม่มีอะำรเลยนอกจากสร้างปัญหา เด่วคนนั้นจ้อง คนนี้ต้อง ให้พระเอกมาคอยกำจัด วนไปวนมา อ่านแค่สี่สิบตอนก็เอียนละ ไม่รู้จริงๆนิยายจีนมันเป็นแบบนี้ทุกเรื่องจนคิดว่านี่คือนิสัยจริงๆของคนจีนไปแล้วนะนี่...
อัพวันละ 20 ตอนเหมือนเดิมก้ดีนะแอด 🥺...
รอตอนใหม่นะครับ...
ยังรออยู่นะครับ...
ไม่อัพหลายวันแล้วครับแอดดดดด...