ฟังฮุ่ยยิ่งฟังก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่น “พอได้แล้ว ครอบครัวเดียวกันแท้ๆ แกต้องการอะไรกันแน่ จะให้เขาคุกเข่าคำนับคนอื่นได้ยังไง มันดูถูกกันไปไหม”
“ต้องให้บ้านแตกสาแหรกขาดก่อนหรือไง แกถึงจะพอใจ”
สวี่ปั้นซย่าถามกลับด้วยความโกรธ “ฉันเป็นคนทำให้บ้านแตกสาแหรกขาดเหรอ ฉันก็แค่พูดถึงเหตุผล เขาแพ้พนันได้ แต่ฉันแพ้ไม่ได้เหรอ”
ฟังฮุ่ยตอบด้วยความโกรธเช่นกัน “ปั้นซย่า ฉันไม่ได้ว่าแกนะ แต่จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มันไม่ถูกต้องแต่แรก ใช่...หวงเหลียงแพ้พนัน เขาจะต้องคุกเขาคำนับหลินมั่ว ส่วนแก ถ้าแพ้อย่างมากก็แค่ให้หวงเหลียงดูแลบริษัทยาต่อ แกไม่ได้สูญเสียอะไรเลย บริษัทนั่นก็ยังเป็นกิจการของครอบครัว แต่หวงเหลียงต้องเสียทั้งเกียรติและศักดิ์ศรี หวงเหลียงต้องยอมและอดทนเพื่อแกมากแค่ไหน ทำไมแกถึงกล้าพูดแบบนี้”
สวี่ปั้นซย่าตะลึง เธอไม่คิดว่าแม่ของตัวเองจะพูดจาร้ายกาจแบบนี้ออกมา
แม้แต่จะเอาบริษัทของตัวเองออกมาเดิมพันก็ยังเทียบไม่ได้กับศักดิ์ศรีของใครบางคนซะอีก
คิดว่าเธอจะไม่เข้าใจเรื่องการโอนทรัพย์สินภายในงั้นเหรอ ถ้าโอนไปอยู่ในมือพ่อกับแม่แล้ว สวี่ตงเสวี่ยกับหวงเหลียงจะเอาไปเมื่อไรก็ได้ พวกเขาคิดว่าเธอโง่มากเลยสินะ
แต่สวี่ปั้นซย่าไม่กล้าพูดออกไป เธอรู้ดีว่าพ่อกับแม่เข้าข้างหวงเหลียงมากกว่า
ถ้าเธอพูดออกไปคงถึงเวลาที่บ้านแตกสาแหรกขาดจริงๆ
เธอถอนใจพลางกัดฟันพูดว่า “แม่ เลิกพูดให้มันดูดีแบบนั้นเถอะ เรื่องราวเป็นยังไงพวกเราต่างก็รู้ดี ไม่ว่ายังไงหวงเหลียงก็ต้องคุกเข่าคำนับหลินมั่ว”
ฟังฮุ่ยรู้สึกโกรธสุดขีด เธอกรีดร้องและตะโกนออกมาเสียงดัง “ทำไมฉันถึงคลอดลูกอกตัญญูอย่างแกออกมา”
ใบหน้าของสวี่ตงเสวี่ยแสดงความรังเกียจออกมา “สวี่ปั้นซย่า ถือว่าวันนี้ฉันได้เห็นธาตุแท้ของพี่แล้ว พี่มันน่ารังเกียจจริงๆ”
หลายคนเริ่มส่งเสียงดัง ถึงแม้สวี่ปั้นซย่าจะหน้าซีดแต่เธอก็ไม่ยอมถอย
ครั้งนี้เธอต้องสู้ ไม่ใช่แค่เรื่องเดิมพัน เพราะที่สำคัญกว่านั้นคือเธอต้องปกป้องศักดิ์ศรีของหลินมั่ว
หลินมั่วขมวดคิ้ว เขาไม่แคร์ว่าหวงเหลียงจะคุกเข่าคำนับเขาหรือไม่
แต่หวงเหลียงผิดคำพูดกับภรรยาของเขาในการเดิมพันครั้งนั้น เขายอมไม่ได้เด็ดขาด
หลินมั่วโบกมืออย่างกะทันหันในขณะที่ทุกคนกำลังโวยวายเสียงดัง “ปั้นซย่า ช่างเถอะ ในเมื่อเขาไม่ทำก็อย่าไปบังคับเขาเลย”
หวงเหลียงหยิ่งผยองในตัวเองทันที “พี่ปั้นซย่า ได้ยินแล้วสินะ สามีพี่พูดขนาดนี้แล้ว ทำไมพี่ยังกัดไม่ปล่อยอีกล่ะ”
สวี่ปั้นซย่ามองไปยังหลินมั่วด้วยความหงุดหงิด “หลินมั่ว ทำไมคุณต้องเกรงใจเขาด้วย เขาสร้างข่าวลือใส่ร้ายคุณนะ แบบนี้ยังไม่สมควรคุกเข่าขอโทษอีกเหรอ”
หลินมั่วหัวเราะพลางส่ายหัว “ปั้นซย่า แค่คุกเข่าน่ะมันไม่น่าสนใจหรอก อีกอย่างเหล่าหู่เพื่อนผมโทรแจ้งตำรวจแล้ว เรื่องใส่ร้ายป้ายสีไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก เหล่าหู่ถามทนายให้แล้ว เขาบอกว่าแค่ติดคุกไม่กี่ปีก็ได้ออกมาแล้ว ศักดิ์ศรีน่าจะเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า”
ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของคนด้านหลังก็เปลี่ยนไป
หวงเหลียงตัวสั่นด้วยความตกใจ สวี่ตงเสวี่ยพูดอย่างกังวลว่า “หลินมั่ว นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ สามีฉันใส่ร้ายป้ายสีแกยังไง มีหลักฐานหรือเปล่า ”
หลินมั่วหัวเราะเบา ๆ “ฉันลืมบอกเธอไปเลยว่าตอนที่เขาใส่ร้ายฉัน ฉันบันทึกไว้หมดแล้ว”
สองสามีภรรยาตกตะลึง
ฟังฮุ่ยพูดอย่างกังวล “เราเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ”
หลินมั่วทำหน้านิ่งเฉย “แม่ครับ พูดกับผมไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เหล่าหู่เป็นคนโทรแจ้งตำรวจ เพื่อนๆ ก็แค่ทวงความยุติธรรมให้ผม ถ้าแม่ไม่ชอบใจก็ไปบอกกับเหล่าหู่สิครับ”
ใบหน้าของฟังฮุ่ยซีดเผือด เมื่อนึกถึงภาพที่เหล่าหู่จัดการหลี่เฉียงและคนอื่นๆ เธอสั่นสะท้าน เธอจะกล้าไปหาเหล่าหู่ได้ยังไง
สวี่ปั้นซย่ายิ้มทันที “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ก็ดี งั้นไม่ต้องให้เขาคุกเข่าแล้ว หวงเหลียง นายอย่าคุกเข่านะ ห้ามคุกเข่าเด็ดขาดเลย”
หวงเหลียงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทาพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือด “พี่เขย ครอบครัวเดียวกันแท้ๆ...ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ”
หลินมั่วย้ำช้าๆ “ครอบครัวเดียวกัน?ตอนที่นายอยากฆ่าฉัน ทำไมถึงไม่คิดแบบนี้บ้างล่ะ หวงเหลียง ฉันมีทางเลือกให้นายสองทาง ไม่คุกเข่าคำนับฉันก็ไปติดคุกซะ นายเลือกเอาเอง”
สวี่ตงเสวี่ยพูดด้วยความโกรธ “หลินมั่ว แกต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
หลินมั่วเหลือบมองเธอและพูดเน้นทีละคำ “ฉันทำได้มากกว่านี้อีก อยากลองไหมล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
เรื่องนี้วนเวียนอยู่กับตระกูลพ่อตาแม่ยายจนน่ารำคาญแถมยังมีน้องเมียกะคู่เขยผสมโรงด้วยอีก ไม่ไปไหนเสียที...
ทั้งหมดมีกี่ตอนครับ อยากให้ Update เพิ่มบทให้มากกว่านี้...
อัพเดตวันไหนคับ...
นิยายมีสามพันตอน เมื่อไหร่จะ update ครบครับเนี่ย...
อัพเดทวันไหนครับ...