หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 281

หลินมั่วสีหน้าดูหมดหนทาง เวลาที่คนคนนี้ไม่มีเหตุผล ใครก็จนปัญญา

ปั้นซย่าเป็นกังวล “แม่ แม่พูดแบบนี้ได้ยังไงล่ะ”

“นี่หลินมั่วก็พูดด้วยความหวังดี แม่กลับโมโหอีกแล้วงั้นเหรอ?”

ฟังฮุ่ยกลอกตามองบน ขี้เกียจจะตอบ

สวี่ตงเสวี่ยยิ้มอย่างเย็นชาขึ้นมาทันที “พ่อกับแม่อยู่นี่แท้ๆ เขามีสิทธิ์อะไรมาพูด?”

“ไม่รู้จักตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองบ้าง ตัวเองเป็นใครกัน มีสิทธิอะไรมาออกความเห็น?”

“ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน รู้ไหมหมายความว่าอะไร?”

“ในสมัยโบราณ ก็คือแต่งงานเข้ามาที่บ้านของฝ่ายหญิง”

“ไม่สามารถร่วมโต๊ะทานอาหารได้ พ่อแม่สามีพูดอะไรก็ต้องฟัง นี่คือกฎ เข้าใจไหม?”

ปั้นซย่าโกรธถึงขีดสุด “เสวี่ยเอ๋อร์ เธอพูดอะไรน่ะ? นี่มันสมัยไหนแล้ว?!”

“พวกเราสองคนเป็นสามีภรรยากัน ดังนั้นความสัมพันธ์คือเท่าเทียม”

“แม่ แม่เป็นผู้ใหญ่ พวกเราเคารพแม่ก็เป็นสิ่งที่ควรอยู่แล้ว”

“แต่แม่ก็ต้องทำตัวให้น่าเคารพด้วยสิคะ”

“อย่าคอยแต่กดหัวดูถูกคนอื่นอยู่ตลอด ได้ไหมคะ?”

“เขาแต่งงานกับหนู ก็เทียบเทียมกับทุก ๆ คน เขาไม่ได้ต่ำต้อยกว่าใคร!”

ฟังฮุ่ยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “แกหมายความว่ายังไง?”

“อ้อ จากที่แกพูดแบบนี้ หมายความว่าต่อไปฉันต้องเคารพเขาเหรอ?”

“ต่อไปฉันเจอเขาต้องไม่ให้กราบสามครั้ง คำนับเก้าครั้ง คุกเข่าสองสามครั้งเสียเลยล่ะ?”

ปั้นซย่าพูดไม่ออกพักหนึ่ง “แม่ ฉันพูดแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ!”

“หนูหมายความว่า ในเมื่อหลินมั่วนับถือแม่ อย่างน้อยแม่ควรให้เกียรติเขาสักหน่อยไหม!”

สวี่ตงเสวี่ยหัวเราะเยาะทันที “พี่ พี่ช่างกล้าจริง ๆ เลยนะ? ทำไมแม่ต้องให้เกียรติเขา?”

“ไอ้เศษสวะเกาะคนหนึ่งที่บ้านเรากิน ปลิงดูดเลือด คนไม่มีประโยชน์ พ่อกับแม่ยังต้องให้เกียรติเขา?”

“ขอทานมาจากข้างถนนคนหนึ่งยัง เก่งกว่าเขาเสียอีก อย่างน้อยก็ยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเอง ขอข้าวเอง เขาอะไรเป็น?”

ปั้นซย่าโกรธจนตัวสั่น “เธอ...ทำไมเธอถึงพูดจาแบบนี้…”

“หลินมั่วทำไม่ดีตรงไหน เขาเป็นไอ้เศษสวะเกาะบ้านเรากินตรงไหน!”

“หลายปีมานี้ เขาทำงานเอง หาเงินใช้เอง ทุกคนไม่เห็นเหรอ?”

สวี่เจี้ยนกงเห็นสถานการณ์ก็ รีบไกล่เกลี่ยทันที “เอาล่ะเอาล่ะ หยุดพูดสักสองสามคำเถอะ”

“เสวี่ยเอ๋อร์ แกพูดอย่างนี้กับพี่สาวแกได้ยังไง?”

“ปั้นซย่า แกก็จริง ๆ เลย เสวี่ยเอ๋อร์เป็นน้องสาวของแก อย่างน้อยแกก็ยอมให้เขาหน่อยสิ!”

สวี่ปั้นซย่าโกรธจนแทบจะร้องไห้ ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อกับแม่ก็จะพูดประโยคนี้

เธอเป็นน้องสาว ยอมให้เธอหน่อย!

แต่ว่าตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กน้อยแล้วนะ!

ฟังฮุ่ย “เอาล่ะ คุยธุระกันเถอะ”

“ปั้นซย่า ฉันกับพ่อแกเดินไปรอบ ๆ หาหน้าร้านที่ไม่เลวได้สองสามร้าน”

“อย่างนี้ไหม แกโอนเงินสิบล้านเข้ามาที่บัญชีพวกเรา วันนี้พวกเราเตรียมตัวจะไปเจรจาเรื่องหน้าร้านนี้เลย!”

สวี่ปั้นซย่าได้ยินคำพูดนี้ พูดไม่ออกไปชั่วครู่หนึ่ง

“แม่ วันนี้เกรงว่าจะไม่ได้...”

สวี่ปั้นซย่ากำลังอยากอธิบาย แต่ฟังฮุ่ยเปลี่ยนไปทันที “ทำไมไม่ได้ล่ะ?”

“เราตกลงกันแล้ว ทำไม แกอยากเปลี่ยนใจงั้นเหรอ?”

สวี่ตงเสวี่ยหันไปทางหลินมั่วทันที “แกไปหลอกล่ออะไรพี่สาวฉันอีกใช่ไหม?!”

“หลินมั่ว พวกเราไปทำอะไรให้แกไม่พอใจกัน ถึงต้องคอยทำร้ายกันแบบนี้?”

“พ่อแม่ก็แค่เปิดร้านเท่านั้นเอง แกมีสิทธิ์อะไรห้ามไม่ให้พี่สาวฉันลงทุนให้พวกท่าน?”

สีหน้าหลินมั่วงุนงง ผมทำอะไรเหรอ?

ปั้นซย่ารีบพูด “เสวี่ยเอ๋อร์ แกกำลังคิดอะไรอยู่!”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับหลินมั่วเลย เป็นเพราะที่บริษัทเกิดเรื่องแล้ว!”

สวี่เจี้ยนกงรีบพูด “เกิดอะไรขึ้นกับบริษัท!”

สวี่ปั้นซย่าหมดหนทาง จึงเล่าเรื่องราวของบริษัทให้ทุกคนฟัง

หลังจากฟังจบ สวี่เจี้ยนกงและฟังฮุ่ยตกตะลึงทันที

บริษัทคือความหวังสูงสุดของพวกเขา ถ้าบริษัทล้ม งั้นพวกเขาจะต้องกลับไปใช้ชีวิตที่ยากจนเหมือนเมื่อก่อนเหรอ?”

ผ่านไปครู่ใหญ่ ๆ จู่ ๆ สวี่เจี้ยนกงก็ตะโกนร้องด้วยความโมโห “ฉันว่าแล้ว! ฉันว่าแล้ว!”

“ฉันว่าแล้วว่าจะทำให้พันธมิตรเภสัชกรรมขุ่นเคืองไม่ได้!"

“พวกแกไม่เชื่อฟังฉันเลย คิดว่าตัวเองแน่ อวดดีโอหัง”

“สมใจล่ะสิทีนี้ พวกนั้นเล่นเราถึงตายแน่ ทีนี้จะทำยังไงกันล่ะ!”

“ความหวังทั้งชีวิตของตระกูลเรา ถูกทำลายด้วยมือพวกแกแบบนี้ พวกแกมีความสามารถจริง ๆ เลยสินะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา