หลินมั่วนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่างที่ข้างเตียงของหลินซีตลอดทั้งคืน
โชคดีที่ร้านขายยาเซิ่งหยวนเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
ผู้อาวุโสเฮ่อกำชับให้คนในร้านดูแลหลินมั่วเป็นอย่างดี ดังนั้น จึงไม่มีใครกล้ารบกวนหลินมั่ว
แต่ในค่ำคืนนี้ หลินมั่วเองก็ไม่ได้อยู่นิ่ง
ข้อมูลในป้ายหยกมีจำนวนมากมาย แต่ทว่า หนึ่งในนั้นมีเคล็ดวิชานิรมิต ซึ่งเป็นวิชายุทธ์ที่สำคัญที่สุด
นี่คือสิ่งที่ทำให้หลินฉงเซวียนสามารถช่วงชิงพลังแห่งฟ้าดินและกลายเป็นจอมยุทธ์อันดับหนึ่งในใต้หล้า นอกจากทักษะทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ในการรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คนแล้ว ยังเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังเพื่อกำจัดคนชั่วและผดุงความยุติธรรม
หลินมั่วกินยาเสี่ยวกุยหยวนเข้าไปสามเม็ด เพื่อให้ฤทธิ์ยาเสี่ยวกุยหยวนนี้ค่อยๆ เข้าไปเสริมการไหลเวียนของกำลังภายใน และทำการฝึกเคล็ดวิชานิรมิตนี้
หากคนธรรมดาทั่วไปฝึกฝนเคล็ดวิชานี้ ก็คงยากที่จะสำเร็จลุล่วงได้
แต่หลินมั่วได้รับความทรงจำทั้งหมดของหลินฉงเซวียน ซึ่งหลินฉงเซวียนได้ศึกษาและค้นคว้าเคล็ดวิชานิรมิตไว้แล้วอย่างละเอียดถี่ถ้วนและเข้าใจถ่องแท้ทั้งหมด
ซึ่งเท่ากับว่าหลินมั่วเองก็เข้าใจเคล็ดวิชานิรมิตได้อย่างถ่องแท้เช่นกัน เมื่อเขาฝึกฝน ความสำเร็จย่อมง่ายดายเป็นเท่าทวีคูณ
ในชั่วข้ามคืน หลินมั่วได้ฝึกฝนเคล็ดวิชานิรมิตจนสำเร็จขั้นที่หนึ่ง และมีพลังชี่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายของเขาแล้ว
ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น เมื่อหลินมั่วเห็นว่าลมหายใจของหลินซีคงที่แล้ว เขาจึงลุกขึ้นและเดินออกจากห้อง
ด้านหลังร้านขายยาใหญ่เป็นลานกว้างคล้ายๆ กับสวนดอกไม้เล็กๆ ซึ่งมีต้นไม้ปลูกไว้มากมาย
หลินมั่วหยิบเข็มเงินที่ผู้อาวุโสเฮ่อให้ไว้เมื่อคืนนี้ขึ้นมา นิ้วมือขวาของเขาคีบเข็มเงินเล่มหนึ่งเอาไว้ และเมื่อเขาสะบัดเบาๆ เข็มเงินเล่มนั้นประดุจมีดบินพุ่งเข้าแทงลงบนลำต้นของต้นไม้ข้างๆ
เข็มเงินนั้นมีความอ่อนตัวมาก หากเป็นคนทั่วไปที่ไม่ได้ฝึกฝนมาอย่างหนัก แค่คิดจะแทงผิวหนังมนุษย์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย
ต้นไม้ต้นนี้ลำต้นแข็งมาก แต่เข็มเงินของหลินมั่วกลับแทงเข้าไปเกือบครึ่ง อีกทั้งยังไม่หักงอเลยแม้แต่นิดเดียว
หากคนทั่วไปเห็นจะต้องตกตะลึง!
และนี่คือพลังอันน่าเกรงขามของเคล็ดวิชานิรมิต
หากเข็มนี้พุ่งเข้าใส่ร่างกายของมนุษย์ จะไม่ถึงตายหรอกหรือ
หลินมั่วฝึกวิชาหมัดมวยอีกชุดหนึ่ง หลังจากที่มีพลังชี่ไหลเวียนในร่างกายแล้ว หมัดชุดนี้ก็รุนแรงขึ้นเช่นกัน
หลังจากอาบน้ำเย็นๆ แล้วกำลังจะเดินออกจากห้อง เสียงโทรศัพท์ก็ดัง
ทันทีที่หลินมั่วรับสาย เสียงของฟังฮุ่ยแม่ยายของเขาก็ดังมาจากปลายสาย “หลินมั่ว แกไปตายที่ไหนมา”
ฟังฮุ่ยแม่ยายของเขาเป็นคนอารมณ์ร้อนที่สุดในบ้าน และก็เกลียดหลินมั่วที่สุดเช่นกัน เธอคิดว่าหลินมั่วเป็นคนทำลายชีวิตของลูกสาวและครอบครัวของเธอ
หลินมั่วระงับความโกรธในใจและพูดเสียงเบาๆ “ผมกำลังดูแลซีเอ๋อร์อยู่...”
“เลิกพูดจาไร้สาระกับฉันสักที ฉันไม่สนหรอกว่าซีเอ๋อร์หรือไม่ซีเอ๋อร์ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ รีบกลับมาทันที!” ฟังฮุ่ยพูดอย่างเดือดดาล “เอ้อ แกหารถมาด้วย ปั้นซย่าจะกลับมาวันนี้ แกรีบมารับพวกเราไปสนามบินไปรับปั้นซย่า!”
“ผม...” หลินมั่วต้องการจะพูด แต่ฟังฮุ่ยวางสายไปแล้ว
ใบหน้าของหลินมั่วเผยให้เห็นถึงความหงุดหงิด ครอบครัวของแม่ยายมักจะตะคอกใส่เขาแบบนี้เสมอ ไม่เคยสนใจความรู้สึกของเขาเลย
ในขณะนั้น หลินมั่วคิดจะโทรศัพท์กลับไปปฏิเสธ แต่หลังจากที่คิดไตร่ตรองอยู่นาน สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจจะไป
ท่าทีของครอบครัวแม่ยายนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญที่สุดคือเขาต้องมั่นใจก่อนว่าในใจของสวี่ปั้นซย่าภรรยาของเขาคิดอย่างไรต่างหาก!
ยังมีสิ่งที่เขาต้องรู้อีกว่า เมื่อคืนสวี่ปั้นซย่าทำเรื่องผิดต่อเขาหรือไม่!
ขณะที่หลินมั่วกำลังจะออกไปก็เห็นผู้อาวุโสเฮ่อเดินมาพอดี
“คุณหลิน อรุณสวัสดิ์!”
ใบหน้าของผู้อาวุโสเฮ่อดูอิ่มเอิบมาก เมื่อคืนนี้เขาได้เอายาเสี่ยวกุยหยวนที่หลินมั่วมอบให้เขาไปมอบให้แก่เฉินเซิ่งหยวนหนึ่งเม็ด
เฉินเซิ่งหยวนเกิดมาในชนชั้นรากหญ้า เขาล้มลุกคลุกคลานปากกัดตีนถีบจนสามารถปีนมายืนอยู่บนจุดสูงนี้ได้ แน่นอนว่าร่างกายของเขาก็ได้รับบาดเจ็บจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว มาบัดนี้เมื่ออายุมากขึ้น อาการบาดเจ็บเก่าๆ มักจะกำเริบอยู่บ่อยครั้งและสร้างความเจ็บปวดไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
ไม่ลงให้อ่านแล้วเหรอครับ...
เพิ่งเริ่มอ่านน่าจะสนุก แต่ไม่ได้อัพเดทนานแล้วเรื่องนี้จะโดนเทหรือเปล่านะ...
หายนานเลยรอบนี้...
อย่างนี้แหละอ่านฟรี ถ้าเสียเงินไปถึงตอนสามพันกว่าแล้ว...
หาย...
เลิกแต่งแล้วใช่ไหม...
หลินมั่วหายอีกแล้ว🙏🙏🙏...
อ่านเหมือนไม่ต่อเนื่อง ขาดๆหายๆ...
หวังหยวน แห่งต้าเย่ ไม่ได้อัพเดท เดือนนึงแล้วครับ รบกวนแอดมินด้วย...
หนีไม่เคยพ้น พ่อตา แม่ยาย น้องเมีย ที่ดักดาน 6ร้อยกว่าตอน...