หวงหย่งเฟิงสีหน้าเปลี่ยนไป ถีบจ้าวจยาฝานจนหงาย “ถ้าแกไม่พูด ฉันก็ลืมคิดบัญชีกับแกไปแล้ว”
“จ้าวจยาฝาน คิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าทำเรื่องให้คนเขาแตกแยกกันแบบนี้”
จ้าวจยาฝานมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก พูดเสียงสั่นว่า “ประธานหวง คุณพูดเรื่องอะไรครับ ผม.. ผมไม่รู้เรื่องนะ...”
หวงหย่งเฟิงโกรธจัด “ยังมาเสแสร้งอีก คุณหลินบอกเรื่องทั้งหมดกับฉันแล้ว คนสารเลวอย่างแก เกือบจะทำให้ลูกฉันตายแล้ว คิดว่าฉันจะปล่อยแกไปงั้นเหรอ!”
“ใครก็ได้ ลากไอ้สารเลวนี่ไปให้หมากินซะ!”
คนกลุ่มใหญ่กรูเข้ามาลากจ้าวจยาฝานออกไปโดยไม่พูดอะไร
จ้าวยวนร้อนใจจึงรีบวิ่งเข้ามา “ประธานหวงครับ คุณอย่าโมโหเลย เขา...เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ คุณเห็นแก่หน้าผม...”
“อย่างนายนับว่าเป็นตัวอะไรกัน กล้ามาพูดเรื่องหน้าตากับฉัน!” หวงหย่งเฟิงโบกมืออย่างโมโห “ลากเจ้าหมอนี่ออกให้หมากินด้วย!”
จ้าวยวนและจ้าวจยาฝานร้องไห้คร่ำครวญขอความเมตตาจากพ่อลูกแต่ไม่มีใครสนใจ
เดิมทีผู้อาวุโสชิววางแผนจะเชิญหลินมั่วมาทำงานที่โรงพยาบาลในเมือง แต่หลินมั่วไม่อยากทำตัวให้โดดเด่น จึงยังคงอยู่ที่แผนกฉุกเฉินของที่นี่
หวงหย่งเฟิงจึงบริจาคเงินห้าสิบล้านให้กับโรงพยาบาลไป ณ ตอนนั้นเพื่อแสดงความขอบคุณ
ไม่เพียงเท่านี้ เขาจะยังบริจาคให้กับโรงพยาบาลอีกสามสิบล้านทุกๆ ปีหลังจากนี้
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ยังอยู่ทำงานต่างแดนได้รับทราบข่าวนี้ก็ดีใจมาก จึงรีบโทรหาหลินมั่วเพื่อขอบคุณ
แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้หลินมั่วไม่ได้ประกาศออกไป เขายังต้องการเก็บซ่อนความลับของเขาไว้อยู่
คนในโรงพยาบาลรู้เพียงว่าผลสุดท้ายผู้อาวุโสชิวเป็นผู้ช่วยคุณชายหวงไว้ ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้นถูกปิดเป็นความลับ
แต่ว่าเมื่อไม่มีสองพ่อลูกจ้าวยวนและจ้าวจยาฝานแล้ว หลินมั่วก็อยู่ในโรงพยาบาลได้อย่างสบายใจขึ้น
หลังจากเลิกงานตอนเที่ยง หลินมั่วขี่รถไฟฟ้ามาที่อุตสาหกรรมยาสวี่ซื่ออีกครั้ง
เพิ่งจะมาถึงหน้าประตูใหญ่ หลินมั่วก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันดังลอดออกมาจากด้านใน
“มีสิทธิ์อะไรไม่ให้พวกเราเข้าไป พวกเราเป็นพนักงานของที่นี่ ทำไมไม่ให้พวกเราเข้างานกัน”
“นั่นน่ะสิ เมื่อวานพวกเราแค่กลับบ้านไปพักแค่นั้น เมื่อวานนี้แจกเงินรางวัลตั้งมากขนาดนั้น ทำไมถึงไม่มีส่วนของพวกเราล่ะ”
“พวกเราแทบจะอุทิศชีวิตในการวิจัยและพัฒนายาตัวใหม่ให้กับบริษัท บริษัทได้เงินแล้วก็อยากจะถีบส่งพวกเราออกไปงั้นเหรอ นี่มันตรรคกะแบบไหนกัน!”
“สวี่ปั้นซย่า เธอออกมาเดี๋ยวนี้นะ วันนี้หากไม่เคลียร์เรื่องนี้กันให้ชัดเจน พวกเราไม่ยอมปล่อยเธอแน่!”
หลินมั่วมองแวบหนึ่ง คนพวกนี้เป็นพวกที่เลือกจะลาออกเมื่อวานนี้
ดูท่าแล้วพวกเขารู้เรื่องที่บริษัทเซ็นใบสั่งของมูลค่าสามพันล้านเข้า จึงอยากจะกลับมาทำงานอีกครั้ง
“ลาออกกันไปแล้วยังจะมาโวยวายที่นี่อีก พวกคุณยังมียางอายกันอยู่ไหม!”
หลินมั่วพูดเสียงดัง
คนกลุ่มนั้นหันขวับมาทันที คนที่เป็นผู้นำก็พูดพ่นออกมาว่า “ฉันก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็พ่อลูกเขยที่แต่งเข้ามา อย่าคิดว่าหญิงแพศยาอย่างสวี่ปั้นซย่าชอบนายแล้วนายจะมาชี้นิ้วสั่งที่นี่ได้!”
“อยากจะมีปากมีเสียงที่นี่ก็เปลี่ยนแซ่เป็นแซ่สวี่สิ!”
“ผู้หญิงสมัยก่อนแต่งเข้าบ้านผู้ชาย ไม่ใช่ว่าต้องเปลี่ยนแซ่หรือไง ตอนนี้นายแต่งเข้าตระกูลสวี่เปลี่ยนแซ่ก็เป็นเรื่องสมควรนี่!”
พวกนั้นพากันหัวเราะเหยียดหยามหลินมั่ว
หลินมั่วไม่พูดอะไร เขาก้าวไปด้านหน้าทีละก้าว จู่ๆ ก็คว้าผู้ชายคนที่เป็นผู้นำไว้ จากนั้นก็ถีบเขาลงบันไดไป
“แกกล้าทำร้ายคนงั้นเหรอ!”
คนกลุ่มนั้นต่างเดือดดาล
หลินมั่วกิริยากร้าวขึ้น ตะคอกเสียงดังว่า “ถ้ากล้าด่าปั้นซย่าอีก ฉันจะเอาชีวิตแกซะ!”
คนกลุ่มนั้นตกใจจนชะงักไปทันที พวกเขาไม่เคยเห็นหลินมั่วที่เป็นแบบนี้
“ฉันให้เวลาพวกนายสามนาที รีบไสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ! ”
“จำเอาไว้ พวกนายไม่ใช่พนักงานของบริษัทแล้ว เอกสารลาออกก็เซ็นแล้ว ถ้ายังมาสร้างเรื่องที่นี่อีก ฉันจะให้ไปพวกนายไปอยู่ในคุกให้หมด!”
ปากพูดไป หลินมั่วไม่แม้แต่จะมองพวกเขาสักนิดแล้วมุ่งหน้าเข้าไปในบริษัท
คนกลุ่มนั้นมองหน้ากัน สุดท้ายแล้วก็จากไปอย่างผิดหวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
เรื่องนี้วนเวียนอยู่กับตระกูลพ่อตาแม่ยายจนน่ารำคาญแถมยังมีน้องเมียกะคู่เขยผสมโรงด้วยอีก ไม่ไปไหนเสียที...
ทั้งหมดมีกี่ตอนครับ อยากให้ Update เพิ่มบทให้มากกว่านี้...
อัพเดตวันไหนคับ...
นิยายมีสามพันตอน เมื่อไหร่จะ update ครบครับเนี่ย...
อัพเดทวันไหนครับ...