ตอนนี้ที่หน้าประตูจู่ๆ ก็มีคนวิ่งเข้ามา เป็นน้องเขยหวงเหลียงนั่นเอง
“พ่อครับ แม่ครับ สายแล้ว พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ”
หวงเหลียงพูดอย่างร่าเริง
เห็นหวงเหลียงสีหน้าของฟังฮุ่ยก็ผ่อนคลายลงมาก “จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ”
“จัดการเรียบร้อยแล้วครับ เป็นอาหารเจียงซูที่แม่ชอบที่สุด” หวงเหลียงพูดอย่างเอาใจ
“เสี่ยวหวง ลูกนี่รู้งานดีจริง”
“หลังจากนี้ถ้ามีลูกอยู่ที่บริษัท แม่ก็วางใจได้เยอะ!” ฟังฮุ่ยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ที่รัก ไป ไปกินข้าวกันเถอะ!”
สวี่เจี้ยนกงวางเอกสารเหล่านั้นลงไม่แม้แต่มองหลินมั่ว สองมือไพล่ไว้ด้านหลังเดินตามหวงเหลียงกับฟังฮุ่ยออกไปด้วยท่าทางมั่นใจ
หลินมั่วเหมือนมีไฟมาสุมอยู่ในอก เป็นลูกเขยเหมือนกัน
ฉันมาที่นี่ ก็มาอับอายขายขี้หน้า
หวงเหลียงมาที่นี่ ก็คือมาทำงาน?
เป็นการปฏิบัติที่แตกต่างกันเกินไปแล้ว!
แต่ว่าเขาชินเรื่องพวกนี้ตั้งนานแล้ว
หวงเหลียงคนนี้อดทนประจบประแจงเก่ง มากเสียจนสวี่เจี้ยนกงกับฟังฮุ่ยชอบ
สำหรับหลินมั่วแล้วพวกนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นท่าทีที่สวี่ปั้นซย่ากระทำต่อเขา
ทันใดนั้นเองหวงเหลียงเดินกลับมา ใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างภูมิใจ “พี่เขย อย่าเสียเวลาอยู่เลย ปั้นซย่าออกไปแล้ว”
หลินมั่วขมวดคิ้ว “ไปไหนแล้ว”
“ไปคุยธุรกิจที่ธนาคาร” หวงเหยียนตอบอย่างยิ้มๆ “พี่เขย พี่มาหาปั้นซย่ามีธุระเหรอ”
“ถ้าพี่มีธุระอะไรโทรหาผมได้นะครับ ตอนนี้ผมเป็นเลขาส่วนตัวและคนขับรถให้ปั้นซย่า!”
“อะไรนะ” หลินมั่วขมวดคิ้วขึ้น
“ปั้นซย่าเชื่อในความสามารถของผมมาก รับผมเข้ามาทำงานเป็นเลขาและคนขับรถให้เธอโดยเฉพาะเลย!” หวงเหลียงตอบด้วยรอยยิ้ม “ดังนั้น จากนี้มีธุระอะไร พี่คุยกับผมก็พอแล้ว”
สีหน้าของหลินมั่วเย็นขึ้นเล็กน้อย มองยังหวงเหลียงอย่างลึกล้ำ
พูดตามความจริงแล้ว เขาไม่ค่อยเชื่อคำพูดของหวงเหลียง สวี่ปั้นซย่าจะให้เขามาเป็นเลขาได้อย่างไรกัน
“พี่เขยครับ พวกผมไปกินข้าวแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็พี่อย่ามาที่บริษัทอีกเลย”
“ดูชุดที่พี่ใส่สิ กระทบภาพลักษณ์บริษัทนะ!”
หวงเหลียงเดินจากไปอย่างดีใจ
หลินมั่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วล้วงโทรศัพท์ออกมา โทรหาสวี่ปั้นซย่าอยากจะถามสักหน่อย
ผลคือโทรไปหลายสายก็ไม่มีคนรับ น่าจะกำลังคุยธุรกิจอยู่
หลินมั่วทำได้เพียงเดินออกมาจากอุตสาหกรรมยาสวี่ซื่อเพียงลำพังอย่างไม่มีทางเลือก
เตรียมที่จะหาที่กินข้าวสักที่ ในทันใดนั้นรถBMWคันหนึ่งก็ขับพุ่งเข้ามาทางเขา
ยังดีที่หลินมั่วรู้ตัวเร็วทำให้หลบได้ทันไปหนึ่งก้าวไม่อย่างนั้นก็คงถูกชนจนล้มไปแล้ว
รถBMWก็จอดลงด้านหน้าหลินมั่วมีคนลงจากรถสองคน เป็นชายหญิงคู่หนึ่ง
“ที่รักคะ คุณดีจริงๆ รู้ว่าเค้าชอบกินอาหารเจียงซู ก็พามากินที่นี่โดยเฉพาะเลย ขอบคุณค่ะที่รัก จุ๊บๆ!”
หญิงสาวกำลังฉอเลาะ สวมเสื้อผ้าบางเบาทำให้ต้นขาขาวเรียวสวยหลุดพ้นออกมา แต่งหน้าจัดดูแล้วก็มีส่วนที่สวยอยู่
เมื่อหลินมั่วเห็นเธอใบหน้าเขาก็เยียบเย็นทันที เพราะว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เธอเป็นดาวของชั้นเรียนพวกเขาสมัยก่อนชื่อจ้าวอีอี
ตอนมัธยมปลายหลินมั่วเป็นคนประเภทค่อนข้างรู้สึกว่าตัวเองด้ยกว่าคนอื่น สมัยวัยแรกรุ่น ก็แอบชอบจ้าวอีอีที่เป็นดาวของชั้นเรียน
ในตอนนั้นเพื่อนร่วมชั้นของหลินมั่วคนหนึ่งแอบชอบจ้าวอีอี จึงให้หลินมั่วช่วยส่งจดหมายรัก
เดิมทีก็ไม่มีอะไร แต่ว่าบนจดหมายรักไม่ได้เขียนชื่อเอาไว้ เขากลับถูกคนอื่นเข้าใจผิดว่าคิดว่าหลินมั่วชอบจ้าวอีอี
แต่เพื่อนคนนั้นให้ตายก็ไม่ยอมรับเรื่องนี้ หลินมั่วจึงถูกใส่ความ
เพื่อนสาวคนสนิทของจ้าวอีอีก็ประกาศเรื่องนี้ในโรงเรียนอย่างใหญ่โต จนคนทั้งโรงเรียนจึงรู้เรื่องนี้
จ้าวอีอีสาดน้ำแก้วหนึ่งใส่หลินมั่วต่อหน้าคนมากมาย และยังพูดทิ้งไว้ว่า “หลินมั่ว อย่างนายเป็นคางคกแต่กลับอยากกินเนื้อห่านฟ้าเหรอ”
นับจากนั้นที่โรงเรียนหลินมั่วก็มีชื่อเล่นอีกชื่อว่าคางคก
จ้าวอีอีคนนี้ก็กลายเป็นความอัปยศในใจของหลินมั่ว!
คิดไม่ถึงจริงๆ ที่แท้แล้วกลับมาอยู่ที่นี่โลกกลมจนได้พบกันแล้ว
เห็นจ้าวอีอี หลินมั่วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสองสหายสมัยเรียนของเขา
ในสมัยเรียนเขามีเพื่อนสองคนเป็นเพื่อนประเภทที่สามารถรับมีดแทนเขาได้จริงๆ
เพียงแต่เสียดายหลังจากเรียนจบแล้วก็ขาดการติดต่อไป
วันนี้ได้พบเพื่อนเก่าอีกครั้งทำให้เขาอดเศร้าไม่ได้ เวลาผ่านไปแล้ว ทุกสิ่งยังเหมือนเดิมมีแค่คนที่เปลี่ยนไป
ถ้าหากสหายสองคนนั้นยังอยู่คงจะดีมาก!
คิดถึงตรงนี้ในใจของหลินมั่วจู่ๆ ก็เต้นแรงขึ้นมา เขาอยากกลับไปยังที่ที่เคยอาศัยอยู่อีกครั้ง อยากกลับไปตามหาเพื่อนสองคนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
เรื่องนี้วนเวียนอยู่กับตระกูลพ่อตาแม่ยายจนน่ารำคาญแถมยังมีน้องเมียกะคู่เขยผสมโรงด้วยอีก ไม่ไปไหนเสียที...
ทั้งหมดมีกี่ตอนครับ อยากให้ Update เพิ่มบทให้มากกว่านี้...
อัพเดตวันไหนคับ...
นิยายมีสามพันตอน เมื่อไหร่จะ update ครบครับเนี่ย...
อัพเดทวันไหนครับ...