จ้าวอีอีก็สังเกตถึงหลินมั่ว
เธอชะงักไป จากนั้นหัวเราะเสียงเย็น “ว้าย นี่ไม่ใช่หลินมั่วเหรอ”
“นายมายืนทำอะไรที่นี่ โบกรถให้ลูกค้าเหรอ”
คนที่อยู่ข้างกายจ้าวอีอีเป็นพ่อหนุ่มนักกล้ามคนหนึ่ง อายุประมาณสี่สิบปี ตัดผมสกินเฮด
สวมสร้อยคอทองและนาฬิกาทองคำชิ้นใหญ่ และแว่นกันแดดสีดำ เห็นแล้วเป็นประเภทไม่ควรเข้าไปยั่วโมโหด้วย
ผู้ชายคนนี้ชื่อหวังหลง ชื่อเล่นคือลูกพี่หลง
เมื่อก่อนตอนนี่หลินมั่วยังเรียนหนังสือ หวังหลงคนนี้รวมหัวกันในโรงเรียนของพวกเขาขู่เข็ญนักเรียน
ตอนนั้นพวกของหวังหลงเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ และทำร้ายผู้หญิงไปไม่น้อย
ตอนที่จ้าวอีอียังเรียนอยู่ก็มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเขา ตอนนั้นจ้าวอีอีอาศัยหวังหลงทำตัวโอ้อวดในโรงเรียนให้ผู้คนมาสนใจ
หลังจากตอนที่หลินมั่วช่วยเพื่อนร่วมชั้นของเขาส่งจดหมายรักแล้ว ลูกน้องของหวังหลงยังเข้ามาที่โรงเรียนเพื่อจัดการหลินมั่วอีก
ถ้าหากไม่ใช่ในตอนนั้นเติ้งจวินเพื่อนของเขาเข้ามาช่วย น่ากลัวว่าหลินมั่วคงถูกต่อยจนไม่ได้เป็นนักเรียนไปตั้งนานแล้ว
คิดไม่ถึงว่าไม่ได้เจอกันหลายปี หวังหลงคนนี้มั่วสุมจนได้ดีจนได้ขับรถBMWแล้ว
“นี่ใครน่ะ” หวังหลงชำเลืองมองไปยังหลินมั่ว ใบหน้าหยิ่งยโส
“ก็เจ้าคางคกที่ฉันเคยเล่าให้พี่ฟังไง ที่สมัยเรียนแอบชอบฉัน” จ้าวอีอีพูดอย่างได้ใจ “เขียนจดหมายรักมาให้ฉัน แต่ไม่กล้าเขียนชื่อแล้วให้ตายก็ยังไม่ยอมรับอีก และยังแอบมองฉันทั้งวันด้วย ฉันเกลียดจนแทบอยากควักลูกตามันทิ้ง”
หลินมั่วขมวดคิ้ว เขาไม่เคยแอบมองจ้าวอีอีเลยด้วยซ้ำ
จ้าวอีอีคนนี้ กำลังพูดเกินจริงไปนี่เอง!
“ที่แท้เป็นมัน!”
หวังหลงยิ้มขึ้นฉับพลัน มือข้างหนึ่งโอบเอวเล็กๆ ของจ้าวอีอีไว้มองหลินมั่วอย่างยั่วยุ “ไอ้หนุ่ม นายเป็นเจ้าคางคกที่อยากกินเนื้อห่านฟ้าเหรอ เทพธิดาอย่างอีอี อย่างนายกล้าหวังสูงงั้นเหรอ”
“นายรู้ไหมว่าอีอีซื้อเสื้อผ้าเดือนนึงเป็นเงินเท่าไร นายรู้ไหมว่าเดือนนึงอีอีซื้อเครื่องสำอางต้องจ่ายไร”
“งั้นบอกนายเลยแล้วกัน พวกเราไปผับกันครั้งนึง ค่าใช้จ่ายคืนนึง ก็เป็นเงินเดือนนายทั้งปี”
สารรูปแบบนาย ยังกล้าอยากได้อีอีเหรอ ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเลย ว่านายคู่ควรหรือเปล่า!”
หวังหลงด่าไปหนึ่งชุด โอบเอวบางของจ้าวอีอีหัวเราะพร้อมพูดว่า “ช่างเถอะ อีอี เธออย่าไปถือสากับคนประเภทนี้เลย ไปกันเถอะ อย่าให้ขยะแบบนี้มาทำให้คุณอารมณ์ไม่ดีเลย!”
จ้าวอีอีมีสีหน้าพึงพอใจ “หลินมั่ว จากนี้ไปนายอย่าตามฉันมาอีก นายรู้ไหมว่า นายทำแบบนี้ มันทำให้คนอื่นเขารู้สึกขยะแขยง”
จ้าวอีอีกับหวังหลงเดินเข้าไปในร้านอาหารที่อยู่ด้านข้างอย่างมาดมั่น
หลินมั่วที่ถูกด่าชุดหนึ่งอย่างงงๆ ในใจก็รู้สึกโมโหมาก
เหลือบตามองขึ้นไป ที่แท้ก็อีผิ่นเซวียน
ร้านอาหารนี้หลินมั่วก็เคยได้ยินมาก่อน เป็นที่ที่นับฟุ่มเฟือยแห่งหนึ่งในเมืองก่วงหยาง
เข้าไปกินข้าวครั้งหนึ่งค่าใช้จ่ายต่อหัวประมาณสองถึงสามพัน
แต่ก่อนหลิ่นมั่วไม่เคยเข้าไปในที่แบบนี้ แต่ว่าครั้งนี้เท้าของเขามีโทสะแล้ว
บัตรที่ผู้อาวุโสเฮ่อให้เขามา ไม่รู้ว่ามีเงินอยู่กี่สิบล้าน
ไม่ใช่ว่าแข่งกันเรื่องเงินหรือไง อย่างเขาไม่เงินหรือไง
เงยหน้าแล้วเชิดอกขึ้นเดินเข้าไป แต่ใครจะรู้กันว่า เมื่อถึงหน้าประตูก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้ามารั้งเอาไว้
“คุณผู้ชายครับ มีธุระอะไรครับ” ท่าทีของพนักงานรักษาความปลอดภัยนับว่าเกรงใจ
หลินมั่ว “ผมเข้าไปกินข้าวไง!”
“ขออภัยด้วยครับ ร้านของเรามีกฎว่าผู้ที่การแต่งกายไม่เรียบร้อยไม่สามารถเข้าออกตามอำเภอใจได้”
“ทำไมผมถึงเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยล่ะ” หลินมั่วโมโหแล้ว เขาก็ไม่ได้แก้ผ้ามา
พนักงานรักษาความปลอดภัย “ขออภัยจริงๆ ครับ คุณใส่เสื้อผ้ามาแบบสบายๆ เกินไป ขออภัยด้วยที่เราไม่สามารถรับรองคุณได้!”
“ที่เขาใส่นั่นไม่ดูสบายๆ หรือไง” หลินมั่วชี้ไปที่หวังหลง
พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบตอบขึ้นว่า “กับพี่หลงไม่เหมือนกันครับ เขาเป็นสมาชิกระดับบัตรทองของที่นี่!”
หลินมั่วมีน้ำโหแล้ว แค่กินข้าวยังมีกฎอะไรมากมายกัน
“ไม่ใช่แค่เป็นสมาชิกหรือไง เท่าไรล่ะ นายบอกมาสิ ฉันจะสมัครไว้สักอัน!”
หลินมั่วหยิบกระเป๋าเงินออกมาจากกระเป๋า เขาค้นกระเป๋าพลางตะโกนไปพลาง
พนักงานรักษาความปลอดภัยยิ้มๆ “คุณผู้ชายครับ สมาชิกของที่นี่ก็ไม่ใช่สมัครตอนไหนก็ได้”
“อยากเป็นสมาชิกของเราที่นี่ อันดับแรกต้องมีสมาชิกสองท่าน...”
พูดถึงตรงนี้ดวงตาของพนักงานรักษาความปลอดภัยก็จ้องอย่างไม่กระพริบไปแล้ว เขามองเห็นบัตรดำใบหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าเงินของหลินมั่ว
นั่นคือบัตรพรีเมียมของหวงหย่งเฟิง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
เรื่องนี้วนเวียนอยู่กับตระกูลพ่อตาแม่ยายจนน่ารำคาญแถมยังมีน้องเมียกะคู่เขยผสมโรงด้วยอีก ไม่ไปไหนเสียที...
ทั้งหมดมีกี่ตอนครับ อยากให้ Update เพิ่มบทให้มากกว่านี้...
อัพเดตวันไหนคับ...
นิยายมีสามพันตอน เมื่อไหร่จะ update ครบครับเนี่ย...
อัพเดทวันไหนครับ...