หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 542

แม่ของเสี่ยวอู่ได้สติก็ร้องอย่างตกใจว่า “เธอ...เธอคือจวินจื่อ?”

“ตายแล้ว ไม่เจอกันมาหลายปี เธอ...เธอเปลี่ยนไปมากเลย จนพวกเราจำไม่ได้เลยนะ”

เติ้งจวินหัวเราะออกมาเสียงดัง

ในเวลานี้หลินมั่วกับเสี่ยวอู่เองก็ลงมาจากรถ

ตอนนี้ทุกคนถึงรู้ว่าเติ้งจวินนั้นได้ไปช่วยเสี่ยวอู่มาตั้งนานแล้ว

ปินจื่อรีบเข้ามาต้อนรับ เขาพูดพร้อมยิ้มออกมาว่า “พี่จวิน ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”

“ผมคือปินจื่อ พี่จำผมได้ไหม”

เติ้งจวินเพิ่งได้ฟังเรื่องราวของปินจื่อมาตอนอยู่บนรถ จึงไม่ได้มีท่าทีที่ดีต่อเขาหนัก

“จำได้！”

“สมัยเรียนวิ่งไปยืมเงินเสี่ยวอู่ที่โรงเรียนทั้งวัน”

“เป็นอย่างไรบ้างล่ะ พี่ชายนายกำลังจะแต่งงาน นายเอารถโฟล์คสวาเกนมาช่วยรับเจ้าสาว?”

“ทำแบบนี้รู้สึกผิดต่อพี่ชายนายไหม รู้สึกผิดต่อป้าสามไหม?”

เติ้งจวินพูดอย่างโกรธแค้น

ปินจื่อมีสีหน้ากระอักกระอ่วน แต่กลับไม่กล้าพูดอะไรออกมา

ถ้าไม่บอกว่าลุงฟ่านอยู่ที่นี่ ตอนนี้เติ้งจวินขับรถปอร์เช่แล้วไม่ใช่คนที่เขาจะเข้าไปทำให้โมโหได้แล้ว

ลุงฟ่านเองก็เข้ามาต้อนรับ เขายิ้มพร้อมพูดว่า “ตายจริง รถคันนี้ดูไม่เลวเลย”

“เสี่ยวอู่ ดูท่ารถนำขบวนฉันคงไม่ต้องไปยืมมาให้เธอแล้ว”

“รถที่บ้านฉันคันนั้น คงไม่สามารถเอามาอวดใครได้”

ใบหน้าของเสี่ยวอู่แดงเล็กน้อย เขาพูดเสียงแผ่วเบาว่า “ขอบคุณลุงฟ่านที่เป็นห่วงครับ”

ลุงฟ่านรีบยกมือบอกปัด “แหม มันควรจะต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว”

“พรุ่งนี้ถ้าใช้รถคันนี้นำขบวน เวลาไปรับตัวเจ้าสาวนายจะได้หน้ามากแน่”

“พอถึงเวลาแล้วพวกเราก็รีบๆมาหน่อย งานแต่งงานครั้งนี้พวกเราจะต้องได้เชิดหน้าชูตา！”

แม่ของเสี่ยวอู่เองก็มีสีหน้ายินดี

เพื่องานแต่งงานครั้งนี้ พวกเขาสองคนเองก็เป็นกังวลจริงๆ

ครอบครัวของพวกเขาไม่มีเงิน จึงได้แต่ยืมเงินจากหลายๆที่มารวมกัน

แต่ว่า ไม่ว่างรถที่ใช้ในงานแต่งนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน้าตาของทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ตอนนั้นพวกเขาทั้งสองคนขอร้องปินจื่ออยู่นาน ปินจื่อจึงจะตกปากรับคำให้ยืมรถมา

“คุณลุง คุณป้า วางใจเถอะครับ”

“เรื่องงานแต่งครั้งนี้ ยกให้ผมจัดการก็พอแล้ว”

ทุกคนต่างตะลึงงันไป เติ้งจวินคนนี้พูดจาใหญ่โตไปไหม

ใช้รถปอร์เช่พานาเมร่ามาใช้ในขบวนงานแต่งแล้วเอน็จอนาถเหรอ

นั้นนายจะทำขบวนรถอย่างไรล่ะถึงจะไม่จะไม่นับว่าเอน็จอนาถ?

ปินจื่อมีสีหน้าไม่ยอมรับ “พี่จวินออกไปอยู่ข้างนอกไม่กี่ปี อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แต่เรื่องความคุยโวนี่พัฒนาขึ้นจริงๆนะครับ”

“รถปอร์เช่พานาเมร่าครั้งนี้เป็นรถรุ่นท็อป ราคาคงประมาณสามล้านล่ะสิ”

“ใช้รถคันนี้เป็นรถในขบวนงานแต่งนั้นเอน็จอนาถงั้นเหรอ ยังไงล่ะ นายจะใช้รถอะไรเป็นรถในขบวนงานแต่งล่ะ รถโรลส์-รอยซ์?”

ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างหัวเราะพร้อมกันขึ้นมา รถหรูราคาสามล้านจะบอกว่าเอน็จอนาถได้อย่างไรกัน

เติ้งจวินคนนี้เองก็ขี้โม้เกินไปหน่อยแล้วล่ะ！

จากนั้นก็ไม่รอให้เติ้งจวินพูดอะไร จู่ๆก็มีคนวิ่งเข้ามาจากด้านนอกคนหนึ่ง เขาเข้ามาและร้องออกมาอย่างตื่นเต้น “เสี่ยวอู่ เสี่ยวอู่ พวกนายออกมาดูนี่เร็ว”

“ที่หน้าหมู่บ้านมีขบวนรถมาขบวนนึงบอกว่ามาบ้านพวกนาย”

“จนทำให้ถนนในหมู่บ้านติดขัดไปหมดแล้วรีบออกไปดูเร็วเข้าสิ！”