หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 69

ณ ธนาคาร

เหยาตงเพิ่งจะกลับมาถึงออฟฟิศ ชุยอี้ฟานก็มาแล้ว

“คุณลุง สถานการณ์เป็นยังไงบ้างครับ” ใบหน้าของชุยอี้ฟานเต็มไปด้วยความคาดหวัง “หลินมั่วคุกเข่าลง หรือว่าก้มลงกราบ”

ได้ยินอย่างนั้น เหยาตงก็ตรงไปคว้าแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาฟาดไปที่หน้าของชุยอี้ฟาน

"คุกเข่าบรรพบุรุษมึงสิ ก้มกราบโคตรเหง้ามึงสิ!” เหยาตงด่าทอ “ชุยอี้ฟาน มึงแม่งอยากจะฆ่ากูมากใช่ไหม!”

“เกิดอะไรขึ้น?” ชุยอี้ฟานสับสน

เหยาตงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ? มึงรู้ไหมว่าเมื่อเที่ยงวันนี้หลินมั่วมันพาใครไปด้วย”

ชุยอี้ฟาน “ใครกันครับ?”

เหยาตงสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะกัดฟันพูด “จ้าวเชียนหยวน!”

“จะ...จ้าวเชียนหยวน!?” ชุยอี้ฟานร้องเสียงหลง “จ้าวเชียนหยวนไหน?”

เหยาตงเดือดดาล “จะเป็นจ้าวเชียนหยวนไหนได้อีกล่ะ?”

“ก็มีอยู่คนเดียว คุณชายตระกูลจ้าวที่ดูแลเส้นชีวิตธนาคารทั้งหมดในเมืองก่วงหยางยังไงล่ะ!”

“คุณปู่ตระกูลเขาก่อนหน้านี้เคยเป็นมือหนึ่งของสมาคมธนาคารในมณฑลกวางตุ้ง”

“เป็นถึงประธานของธนาคารใหญ่ในมณฑลกวางตุ้ง จะมีใครที่ไหนที่อยู่ต่อหน้าเขาแล้วจะไม่ทำความเคารพบ้าง?”

ชุยอี้ฟานสูดลมหายใจเข้า “เป็นไปไม่ได้มั้ง คุณลุงจำผิดคนใช่ไหมครับ หลินมั่วจะไปมีปัญญาเชิญจ้าวเชียนหยวนได้ยังไงกัน”

“กูจำผิดคนแม่มึงสิ กูจะจำคุณชายจ้าวผิดคนได้ยังไง?”

เหยาตงแผดเสียงด้วยความบันดาลโทสะ “ยิ่งไปกว่านั้น คุณนายจ้าวและสวีจิ้ง ภรรยาของคุณชายจ้าวก็อยู่ด้วย ถ้ากูจะจำผิดคนหนึ่ง คนในตระกูลก็ยังจำผิดอีกเหรอ?”

ชุยอี้ฟานตกใจจนพูดไม่ออก “พวกเขา...พวกเขาเกี่ยวข้องกันยังไง”

“กูจะไปรู้ได้ยังไงว่าเกี่ยวข้องอะไรกัน ยังไงก็ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องกันอยู่ดี!” เหยาตงหยุดไปชั่วครู่ ก่อนจะกัดฟันพูด “คุณนายจ้าวรับสวี่ปั้นซย่าเป็นลูกสาว ไม่เพียงเท่านั้น ยังเอากำไลหยกที่เธอใส่ให้กับสวี่ปั้นซย่าอีกด้วย!”

“อะไรนะ?” ชุยอี้ฟานร้องเสียงหลง “กำไลหยกของคุณนายจ้าวงั้นเหรอ? ของจริงหรือของปลอมครับ”

“กูเห็นมากับตา จะปลอมได้ไง!?” เหยาตงถลึงตาใส่ “ก็กำไลหยกอันที่ครั้งหนึ่งเคยมีคนให้ราคาสามร้อยล้านหยวน แต่ก็ไม่สามารถซื้อได้ กำไลหยกอันนั้นที่เป็นของจักรพรรดินีแห่งราชวงศ์หมิงยังไงเล่า!”

“พระ...พระเจ้า...” ชุยอี้ฟานทรุดตัวลงกับพื้น

เหยาตงแผดเสียงต่ำ “กูขอเตือนมึงไว้เลยนะ อย่าไปแส่หาเรื่องกับสวี่ปั้นซย่าอีก!”

“ตระกูลชุยในเมืองก่วงหยางนับได้ว่ามีเส้นสนกลในอยู่บ้าง แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเปรียบเทียบกับใคร”

“คุณนายจ้าวพูดแค่ประโยคเดียวก็สามารถลบชื่อตระกูลชุยออกจากทะเบียนได้เลย!”

เมื่อเลิกงานตอนเย็น หลินมั่วที่เพิ่งจะเดินออกมาจากโรงพยาบาล ก็เห็นสวี่ปั้นซย่ายืนยิ้มหวานอยู่ที่หน้าประตู

คนไม่น้อยในบริเวณนี้ล้วนมองไปที่สวี่ปั้นซย่าด้วยใบหน้าที่ตื่นตะลึง อันที่จริงนี่คือสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองก่วงหยาง

หลินมั่วเดินไปหา “มาที่นี่ได้ยังไง”

“ที่บริษัทไม่มีปัญหาอะไร ก็เลยมาน่ะ” สวี่ปั้นซย่าคว้าแขนของหลินมั่ว “ทุกครั้งก็เป็นคุณไปรับฉันตลอด วันนี้ฉันมารับคุณบ้างไง!”

หลินมั่วรู้สึกอบอุ่นขึ้นในใจ ก่อนจะยิ้มรับเบาๆ พร้อมพูด “ขอบคุณนะครับ คุณภรรยาที่รัก!”

สวี่ปั้นซย่าถ่มน้ำลายออกมาเบาๆ แต่ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อแล้ว

“เย็นนี้ไม่กลับบ้านแล้ว ตอนเย็นพ่อกับแม่จะเชิญแขกทานอาหารเย็น พวกเราไปด้วยกันเถอะ”

“เชิญใครเหรอ?” หลินมั่วถามอย่างสงสัย

“เถ้าแก่โจวอะไรนี่แหละ” สวี่ปั้นซย่ากระซิบ “พ่อกับแม่บอกว่า เถ้าแก่โจวคนนี้ช่วยพวกเราแก้ไขปัญหาบัญชีของบริษัท เลยอยากจะขอบคุณเขาสักหน่อย”

“แต่ว่าฉันไม่เชื่อหรอก”

“หลินมั่ว ตระกูลของพี่ใหญ่จ้าวดูๆ แล้วก็ไม่ธรรมดานะ เรื่องครั้งนี้จะต้องเป็นพวกเขาแน่ๆ ที่ช่วย ใช่ไหม?”

หลินมั่วยิ้ม

เขาไม่สามารถเปิดเผยเรื่องราวฝีมือทางการแพทย์ของตัวเองได้ ดังนั้น ก็เลยขอให้ตระกูลของคุณชายจ้าวช่วยปิดบัง

ส่วนสวี่เจี้ยนกงและฟังฮุ่ยจะคิดยังไง เขาก็ไม่สนใจ

ขอเพียงแค่ช่วยสวี่ปั้นซย่าแก้ไขปัญหา ไม่ทำให้สวี่ปั้นซย่าลำบาก ก็พอแล้ว

“เถ้าแก่โจวอะไรนี่ คุณอาจจะต้องให้พ่อกับแม่ป้องกันเขาสักหน่อย ไม่แน่อาจจะเป็นคนหลอกลวงก็ได้นะ!”

หลินมั่วพูดกลั้วหัวเราะ

สวี่ปั้นซย่าเหลือบมองหลินมั่ว ก่อนที่เธอจะหัวเราะเช่นกัน

แม้ว่าหลินมั่วจะไม่ได้พูดเรื่องคุณชายจ้าว แต่บทสนทนานี้ก็ทำให้เห็นชัดแล้วว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเถ้าแก่โจวแน่นอนล่ะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา