นักเลงหลายสิบคนลงมาจากรถ เดินมาล้อมหลินมั่วท่าทางโหดร้ายน่ากลัว
หลินมั่วขมวดคิ้ว “เหยาตง ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระกับแกหรอกนะ รีบไสหัวไปแล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”
เหยาตงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “แกจะบ้าเรอะ ”
“หัดแหกตาดูสถานการณ์ตอนนี้หน่อย แกเนี่ยนะจะไว้ชีวิตฉัน?”
“ทำไมแกไม่ขอให้ฉันไว้ชีวิตแกแทนล่ะ?”
“บัดซบเอ้ย ฟันมันซะ! เริ่มจากตัดขาสองข้างของไอบ้านี่มาให้ฉัน!”
นักเลงสิบกว่าคนตะโกนโห่ร้องพร้อมวิ่งกรูกันเข้ามา
หลินมั่วสีหน้าพลันเปลี่ยน เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับตวัดศอกขวาอย่างรวดเร็ว หลินมั่วเหมือนกับรถเบนซ์ที่วิ่งพุ่งเขาไปชนเหยาตง
เหยาตงกระเด็นลอยไปกระแทกกระจกรถตู้ข้างหลังจนกระจกแตกเป็นเสี่ยงๆ ร่างค่อยๆ ทรุดลงกับพื้นดูแล้วกระดูกคงหักอย่างน้อยสิบท่อน
ทุกคนต่างสตั้นไปชั่วขณะ ชนแค่นิดเดียวกลับรุนแรงขนาดนั้นเลยหรอ?
“ฆ่ามัน!” หัวหน้ากลุ่มนักเลงตะโกนขึ้น “พวกเราคนเยอะขนาดนี้ ไม่ต้องไปกลัวมัน!”
เหล่านักเลงตั้งสติอีกครั้ง คราวนี้พวกนั้นได้ล้อมหลินมั่วไว้อีกครั้ง
หลินมั่วก็ไม่ออมมือ เขาจัดการนักเลงพวกนั้นจนร่วงลงไปกองกับพื้น
นักเลงสิบกว่าคนนอนกองอยู่กับพื้น ล้วนแล้วแต่บาดเจ็บถึงขั้นกระดูกหัก
ท้ายสุดไม่มีใครสามารถลุกขึ้นมายืนต่อได้สักคน
พอจัดการพวกนักเลงนี่เสร็จ หลินมั่วก็เดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับมาเหลียวมองอีกเลย
ท้ายที่สุดเขาก็ต้องมาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้จนได้
เมื่อเขาไปถึงชั้นล่างของตึกก็ไม่เห็นวี่แววของสวี่เจี้ยนกงและฟังฮุ่ยแล้ว
หลินมั่วรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาสวี่เจี้ยนกง
เสียงรอสายดังอยู่สักครู่ สวี่เจี้ยนกงที่อยู่ปลายสายก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไม คิดได้แล้วหรือยังไง? คิดที่จะหย่ากับปั้นซย่าแล้วละสิ?”
“เหอะ ถ้าแกหย่าตอนนี้ก็จะได้เงินห้าแสน กลิ่นเงินห้าแสนมันคงจะดึงดูดนายสินะ?”
“พ่อครับ พ่อคงไม่ได้กำลังจะไปหาเถ้าแก่โจวใช่ไหม?” หลินมั่วรีบพูดต่อ “ไอเถ้าแก่โจวคนนั้นมันเป็นนักต้มตุ๋น”
“หุบปาก!” สวี่เจี้ยนกงโกรธมาก “หลินมั่ว แกนี่มันต่ำช้าไร้ยางอายซะจริง ต้องเป็นคนแบบไหนกันวันๆ ถึงได้เอาแต่พูดให้ร้ายคนอื่นลับหลังอย่างนี้!”
หลินมั่วรีบตอบกลับ “พ่อครับ ผมไม่ได้ให้ร้ายเขา แต่เขาคือนักต้มตุ๋นจริงๆ!”
“อย่าให้เขามาหลอกพวกคุณได้นะครับ การลงทุนของเขามันเป็นเรื่องหลอกลวง พวกคุณอย่าได้เอาเงินไปให้เขานะ!”
สวี่เจี้ยนกงพูดด้วยความโมโห “บังอาจ แกรู้ไหมว่าเถ้าแก่โจวเป็นใคร? แล้วแกรู้ไหมว่าการลงทุนของเถ้าแก่โจวคืออะไร? ”
“แกไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ดีแต่ให้ร้ายคนอื่นลับหลัง คนแบบแกฉันละเกลียดที่สุด! ...”
“แกไม่ต้องโทรมาหาฉันอีกนะ ฉันได้ยินเสียงแกแล้วมันแสลงหู!”
สวี่เจี้ยงกงตัดสายทิ้ง หลินมั่วรีบโทรกลับไปหาอีกครั้งแต่ทว่าไม่มีคนรับ
ทั้งฟังฮุ่ย หวงเหลียง สวี่ตงเสวี่ย สามคนนี้ก็ไม่มีใครรับสายเขาเลยสักคน
หลินมั่วจนปัญญา คนพวกนี้ไม่มีใครฟังสิ่งที่เขาเตือนไปเลยแม้แต่น้อย
หลินมั่วไม่มีทางเลือกอื่นนอกซะจากโทรหาเฉินเซิ่งหยวนให้เขาช่วยตรวจสอบสถานะภาพของเถ้าแก่โจว
ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์ต่างอากาศสุดหรูในเมืองก่วงหยาง
สวี่เจี้ยนกงและคนอื่นๆ เดินเข้าไปในคฤหาสน์ ฟังฮุ่ยอุนทานอย่างตกตะลึงว่า “นี่คือบ้านของเถ้าแก่โจวหรอเนี่ย? คุณพระคุณเจ้าช่วย คฤหาสน์หลังนึงราคาคงไม่ต่ำกว่าสิบล้านแน่!”
หวงเหลียงยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นมา “ไม่ต่ำกว่าสิบล้าน? ”นั่้นมันก็แค่ราคาของตัวบ้าน ยังไม่รวมค่าตกแต่งภายในที่ประเมินราคาไม่ได้อีก !”
“บ้านของเถ้าแก่โจวหลังนี้ ถ้ารวมตกแต่งด้วยก็คงไม่ต่ำกว่าสามสิบล้าน!
ฟั่งฮุ่ยถึงกับช็อค “ช่างสมกับเป็นเถ้าแก่ใหญ่ แค่บ้านหลังเดียวของเขายังมีมูลค่าขนาดที่คนธรรมดาๆ ต้องทำงานไม่รู้กี่ชาติถึงจะหาได้เท่า”
หวงหลางยิ้มตอบ “พ่อกับแม่ไม่ต้องอิจฉาไปหรอก รอพวกเราได้เงินจากการลงทุนในครั้งนี้ พวกเราไปซื้อบ้านแถวสวนวั่งเจียงกันสักห้องเถอะ”
ฟังฮุ่ยพูดอย่างตื่นเต้น “ใช่ สวนวั่งเจียง!”
“ที่นั่นน่าจะเป็นเขตบ้านที่ดีที่สุดในเมืองกว่างหยางเลยก็ว่าได้ ปู่ของแกเคยเข้าไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดเรื่องนี้ไม่หยุดเลย ”
“รอให้พวกเราได้ย้ายเข้าไปอยู่ที่นั่นก่อนเถอะ เหอะๆ แกลองเดาดูสิว่าปู่ของแกจะทำหน้ายังไง”
แววตาของสวี่เจี้ยนกงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ทั้งชีวิตนี้ของเขาต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเอง
ในที่สุดครั้งนี้เขาก็ทำได้แล้ว ในใจของเขานั้นรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะหมอเทวดา
เรื่องนี้วนเวียนอยู่กับตระกูลพ่อตาแม่ยายจนน่ารำคาญแถมยังมีน้องเมียกะคู่เขยผสมโรงด้วยอีก ไม่ไปไหนเสียที...
ทั้งหมดมีกี่ตอนครับ อยากให้ Update เพิ่มบทให้มากกว่านี้...
อัพเดตวันไหนคับ...
นิยายมีสามพันตอน เมื่อไหร่จะ update ครบครับเนี่ย...
อัพเดทวันไหนครับ...