ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 102

ต้องทราบอย่างหนึ่งก่อน ว่าท่านอ๋องเฉินเป็นคนที่มีพรสวรรค์อันน่าทึ่งคนหนึ่ง ไม่เพียงแค่ทักษะทางการแพทย์ขั้นเทพของเขา แต่ความสำเร็จด้านดนตรีของเขานั้นก็แตกฉานไม่เป็นรองใครในใต้หล้า และแทบจะไม่มีใครเทียบได้ในอาณาจักรตงหลานทั้งหมด

ถ้าในงานเลี้ยงวันนี้ ได้ยินเขาบรรเลงสักหนึ่งบทเพลง มันก็ถือว่าเป็นการคุ้มค่ามาก ๆ แล้ว

ลู่ยุ๋นหลัวไม่คาดคิดว่าท่านอ๋องเฉินจะกลายเป็นจุดรวมสนใจของผู้คนในที่แห่งนี้ทั้งหมด นางถอยหลังไปไม่กี่ก้าวเล็กน้อย เพื่อซ่อนตัวของนางไว้ในเงาข้าง ๆ

ท่านอ๋องเฉินยกจอกเหล้าขึ้นมา มองไปที่เซี่ยเหวินหลันด้วยสายตาอันอบอุ่น และเอ่ยพูดเบา ๆ "ตัวข้าไม่ได้จับกู่ฉินมานาน ข้าเกรงว่าคงจะไม่ค่อยคุ้นชินนัก ใครก็ได้ ไปตามนักดนตรีที่ดีที่สุดของแผนกดนตรีของวังมาบรรเลงร่วมที"

"พะยะค่ะ !"

ท่านอ๋องเฉินใช้สามคำสองภาษา(สามคำสองภาษา หมายถึง คำพูดไม่กี่คำ)ปฏิเสธคำเชิญของเซี่ยเหวินหลัน

ทุกคนต่างรู้สึกว่าน่าเสียดาย ดูเหมือนว่า วันนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะชื่นชมเสียงบรรเลงอันเป็นธรรมชาติของท่านอ๋องเฉินแล้ว

เซี่ยเหวินหลันไม่คาดคิดว่าท่านอ๋องเฉินจะปฏิเสธนางต่อหน้าสาธารณชนของงานเลี้ยงในพระมหาราชวัง และทันใดนั้นใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นยากที่จะทนดูต่อไปได้

นางคิดว่าหลังจากลู่ยุ๋นหลัวอภิเษกเข้าไปในวังแล้ว ท่านอ๋องเฉินจะมองนางอยู่ในสายตาบ้าง

แต่ตอนนี้ดูจากวันนี้แล้ว ท่านอ๋องเฉินเป็นไปได้สูงที่จะยังไม่ลืมลู่ยุ๋นหลัว

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เซี่ยเหวินหลันก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น "ฝ่าบาท ตัวข้าได้ยินมาก่อนว่านายหญิงแห่งตำหนักเย็นชำนาญในด้านดนตรีเทียบเคียงพอได้กับท่านอ๋องเฉิน เนื่องจากท่านอ๋องเฉินไม่สะดวกนัก งั้นข้าขอเชิญนางออกมาบรรเลงร่วมกับข้าสักหน่อยจะเป็นเช่นไร ?”

นางได้เตรียมการแผนสำรองไว้แล้ว หากท่านอ๋องเฉินปฏิเสธ นางจะให้ลู่ยุ๋นหลัวออกมาบรรเลงคู่กับนางแทน

นางจะเป็นคนนำหลักส่วนลู่ยุ๋นหลัวจะเป็นคนบรรเลงประสาน

ด้วยเหตุนี้ นางยังเตรียมกู่ฉินสองหลังมาเป็นพิเศษ โดยหนึ่งในหลังนั้นเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับลู่ยุ๋นหลัว เพื่อเป็นการการันตีว่านางตอนบรรเลงจะต้องขายหน้าในที่สาธารณะชน

ลู่ยุ๋นหลัวที่กำลังยืนก้มหน้าอยู่ จู่ ๆ นางก็ได้ยินว่ามีคนพูดถึงนาง นางจึงเงยหน้าขึ้นและมองไปยังงานเลี้ยงด้านตรงข้าม

นางเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตางดงามแต่กลับแผงไปด้วยความอยากเป็นจุดสนใจอยู่ไม่น้อย

พอได้เห็นท่าที่การแสดงออกของนางแล้ว ดูเหมือนว่าจะเคยเจอนางมาก่อน ?

เมื่อได้ยินน้ำเสียงนี้ ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นอริศัตรูอยู่ไม่น้อย

เป็นไปได้ไหมว่าพวกนางสองคนมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ?

แม้ว่านางจะไม่มีชั้นยศ แต่อย่างน้อยนางก็ยังคงเป็นนายหญิงในวัง การที่นางถูกเรียกตัวให้ไปร่วมบรรเลงเพลงกับคนอื่น ๆ จะพูดอย่างไรดี มันดูเหมือนลดราคาตนเองลงไปอยู่ไม่ใช่เหรอ?

และยังเป็นการลดค่าของราชวงศ์อีกด้วย จี้อู๋เจวี๋ยไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เมื่อสายตาของนางจับจ้องไปที่ภาพของผู้สูงศักดิ์อันมีกลิ่นอายของความสง่าผ่าเผยบนพระแท่นแล้ว จู่ๆ นางก็ไม่มั่นใจขึ้นมาทันที

ตั้งแต่ครั้งก่อนที่นางเล่นไพ่ในตำหนักซู่ซิน จี้อู๋เจวี๋ยก็ดูเหมือนจะไม่อยากเจอหน้านางอีก

อีกทั้งจี้อู๋เจวี๋ยซึ่งที่ประทับอยู่บนพระแท่นเมื่อทรงได้ยินคำพูดของเซี่ยเหวินหลัน พระหัตถ์ที่ทรงถือจอกเหล้าอยู่นั้นก็ได้หยุดลง สายพระเนตรอันเย็นเยียบก็จับจ้องไปที่เซี่ยเหวินหลันด้านล่างอย่างรวดเร็ว พระเนตรที่เรียวยาวก็ได้ปรากฎประกายของไอเย็นเยือก

อยากให้นางมาบรรเลงร่วมกับเจ้า ?

ข้าเองก็ไม่ได้มีสิทธิขนาดนั้น

ภายในความทรงจำของเขายังคงปรากฏภาพที่ลู่ยุ๋นหลัวใช้กู่ฉินบรรเลงเพลงในครั้งก่อนที่ตำหนักซู่ซิน ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

เขายังจำได้อีกว่า เซี่ยเหวินหลันคนนี้ดูเหมือนจะรักเสด็จลุงสามมาตั้งแต่แรกพบ การเรียกนางมาก็ดีไม่น้อย การให้นางได้มาดูเสด็จลุงสามและเซี่ยเหวินหลันมาแสดงด้วยกันก็ดีไม่ใช่น้อย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ริมฝีประโอษฐ์บางของจี้อู๋เจวี๋ยก็โค้งอย่างเย็นชา "ใครก็ได้ ไปที่ตำหนักเย็นเพื่อเชิญนางมา !"

ลู่ยุ๋นหลัวมองไปที จี้อู๋เจวี๋ยบนพระแท่นด้วยใบหน้าที่พูดอะไรไม่ออก นางรู้จักชายคนนี้ดี เขาจะต้องอยากให้นางเร่งรีบไปมาอยู่เป็นแน่ !

ก็ไม่รู้ว่านางตอนนี้ต้องกลับไปตำหนักเย็นจะทันรึไม่ ?

มิฉะนั้นอีกสักพักหากคนที่ไปตามนางถึงตำหนักเย็นแล้วหานางไม่พบ นางก็จะต้องมีเรื่องลำบากใหญ่โตตามมาอีกแน่นอน

ลู่ยุ๋นหลัวกำลังคิดว่าจะล่าถอยดีหรือไม่ เสียงของท่านอ๋องเฉินก็ดังมาจากข้างหูของนาง

“ไม่จำเป็น ในเมื่อแม่นางเซี่ยต้องการให้ข้าไปบรรเลงกู่ฉินด้วย ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจอีกต่อไป !”

ท่านอ๋องเฉินลุกขึ้นและหยุดคนรับใช้ที่กำลังจะรายงานเพื่อตามนางที่ตำหนักเย็น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น