ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 106

หลังจากนั้นก็เริ่มค้นหาภายในมิติพิเศษอีกครั้งก็พบกับร่มน้ำมัน ตอนที่เตรียมตัวออกมานางได้เห็นเครื่องสำอางที่นางเองแต่ก่อนเป็นคนใช้

ล้วนเป็นชุดทดลองใช้ในปริมาณน้อยทั้งนั้น

เมื่อลองนับไปมาก็ประมาณราว ๆ 120 ชุดได้

เดิมทีวางแผนที่จะตั้งแผนกเสริมความงามในช่วงที่อากาศหนาว โดยเน้นไปที่การมาร์คหน้าและน้ำหอมเป็นหลัก จากนั้นก็จะจัดกิจกรรมการขายโดยเอาชุดทดลองใช้พวกนี้มอบให้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์

ตอนนี้ดูเหมือนว่าอีกไม่นานก็คงจะเอามาใช้ประโยชน์ได้แล้ว

นางเดินไปรอบ ๆ บริเวณเรือนในสวน ที่ใกล้ที่สุดคือห้องโถงด้านข้างแห่งหนึ่งซึ่งคนรับใช้มักจะเก็บเครื่องมือพวกเขาเวลาดูแลเรือนในสวน

หลังจากที่นางเข้าไป นางก็พบรถเข็นไม้โดยบังเอิญอยู่หนึ่งคัน จากนั้นกเอาชุดทดลองใช้พวกนั้นทั้งหมดในมิติพิเศษออกมา

หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นก็กลับไปที่นั่งในงานเลี้ยง

ขณะที่มาถึง การแสดงของท่านอ๋องเฉินและเซี่ยเหวินหลันก็จบลงแล้ว โดยได้รับเสียงปรบมือและความชื่นชมจากผู้ชมเป็นอย่างมาก

ลู่ยุ๋นหลัวเข็นรถเข็นไปที่นั่งของท่านอ๋องเฉิน เนื่องจากมีนางข้าหลวงและขันทีจำนวนมากเดินไปมาในระหว่างงานเลี้ยง ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครสนใจสังเกตุเห็นลู่ยุ๋นหลัว

"ไปไหนมา" องค์ชายเฉินได้ไปนั่งลงบนที่นั่งตั้งนานแล้ว ถามพร้อมกับเหลือบมองลู่ยุ๋นหลัวที่มาจากด้านหลัง

"ออกไปเอาของบางอย่างมา" ลู่ยุ๋นหลัวเขย่าร่มน้ำมันในมือของนาง

ท่านอ๋องเฉินก็ไม่ได้ถามอะไรต่อว่าจะนำร่มมาทำอะไร เพียงแต่ยิ้มให้อย่างอ่อน ๆ เท่านั้น จากนั้นก็เทน้ำใส่ถ้วยเอามาให้ "ดื่มน้ำหน่อยเถอะ"

ลู่ยุ๋นหลัวก็กระหายน้ำเล็กน้อยจริง ๆ นางจึงไม่เกรงใจรับถ้วยน้ำมาและยกดื่มดังอึก อึก จนหมดภายในครั้งเดียว

ถ้วยเปล่าที่ดื่มจนหมดก็ถูกท่านอ๋องเฉินคว้าเอาไป

ในเวลานี้ ฉุ่ยยวู่ชานก้มหน้ารีบเดินผ่านจากลู่ยุ๋นหลัวด้านข้างตรงทางเดิน และได้ทิ้งกลิ่นหอมกรุ่นจาง ๆ ไว้เบื้องหลัง

ลู่ยุ๋นหลัวขมวดคิ้ว และมองตามร่างของฉุ่ยยวู่ชานเดินตรงขึ้นไปถึงเหยากุ้ยเหรินบนพระแท่น

เห็นเพียงฉุ่ยยวู่ชานก้มโน้มตัวลงข้าง ๆ เหยากุ้ยเหรินและพูดอะไรบางอย่าง เหยากุ้ยเหรินเมื่อได้ยิน ก็แสร้งทำเป็นไม่ตั้งใจ ชำเลืองมาที่ลู่ยุ๋นหลัว ใครจะคาดเดาได้ ว่าจะได้สบมองเข้ากับดวงตาที่เรียวยาวแฝงลึกคู่นั้นของลู่ยุ๋นหลัวอย่างไม่คาดคิด ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเหยากุ้ยเหรินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที จากนั้นก็ละสายตาออกไปอยากเงียบ ๆ แต่กลับแอบแปลกใจอยู่ไม่น้อย !

ทำไมนางถึงรู้สึกว่าลู่ยุ๋นหลัวดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง ?

เดิมทีต้องการให้เซี่ยเหวินหลันจับตาดูสถานการณ์ปัจจุบันเอาไว้ แต่ไม่คาดคิดว่าแผนจะล้มเหลวไปแล้ว

“นายหญิง อีกสักครู่จะเป็นการเต้นรำของท่านแล้ว ท่านตอนนี้ต้องการที่จะลงไปเตรียมพร้อมสักหน่อยรึไม่ ?” หัวหน้าฝ่ายแผนกดนตรีของวังได้เข้ามาทูลถาม

"ข้าทราบแล้ว !" เหยากุ้ยเหรินลุกขึ้น ขณะที่กำลังจะเดินจากไปก็เหลือบมองจี้อู๋เจวี๋ยบนพระแท่นสูง ตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยแม้แต่จะทรงเหลียวมองนางเลยสักครั้ง

ดวงตาที่แฝงรอยยิ้มจาง ๆ อันอ่อนโยนก็ทอประกายแสงออกมา หากนางไม่ฉวยโอกาสในงานเลี้ยงครั้งนี้ การดึงดูดความสนพระทัยของเขาในภายภาคหน้าจะยิ่งยากมากขึ้น

“เสด็จพี่อีกสักครู่เจ้าก็ต้องเต้นรำให้ดีดีล่ะ บางที ฝ่าบาทอาจจะทรงมองเจ้ามากขึ้นก็ได้” หลันกุ้ยเหรินพูดด้วยรอยยิ้ม แต่การประชดประชันในน้ำเสียงของนางนั้นชัดเจนมาก

นี่เป็นความอุตสาหะตั้งใจจริงๆ เพื่อดึงดูดความสนพระทัยขององค์จักรพรรดิ

“เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว” เหยากุ้ยเหรินไม่ได้รำคาญอะไรและยิ้มอ่อน ๆ ส่งกลับไป

ลู่ยุ๋นหลัวเฝ้ามองเหยากุ้ยเหรินเดินออกไปไกลเรื่อย ๆ จนลับตาถึงจะถอนสายตาออกมา

เหยากุ้ยเหรินผู้นี้ ดูอย่างผิวเผินนั้นอ่อนโยนและอ่อนแอ แต่คาดไม่ถึงว่าจิตใจจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้

หากมิใช่เพราะเมื่อครู่นางมีเจตนาแอบแฝง ก็คงไม่มีกลิ่นหอมครุกรุ่นประหลาดที่นางสามารถแยกแยะได้หลงเหลืออยู่บนตัวของคนที่อ้างว่าเป็นสาวใช้ข้างกายของเซี่ยเหวินหลันคนนั้น นางเกรงว่าถ้าให้นางเดาก็คงเดาไม่ออกว่าเป็นเหยากุ้ยเหรินที่คิดจะมาวางแผนร้ายกับนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น