ลูกท้อเซียนเก้าสิบเก้าชิ้นเก้าชั้นฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาเหล่านี้ นอกจากการเฉลิมฉลองแล้ว แต่ยังเป็นหน้าเป็นตาให้กับพระพันปีหลวงอีกด้วย
งานเลี้ยงวันนี้ แม้ว่าช่วงแรกจะมีฝนตกโปรยปราย แต่ช่วงหลังกลับเปิดโลกทัศน์อันกว้างใหญ่ได้ดีจริง ๆ !
ที่แท้อาหารพวกนี้ก็สามารถทำออกมาให้งดงามตระการตา
ทุกคนเริ่มมีความรู้จักพื้นฐานเกี่ยวกับอาหารใหม่นี้ขึ้นมาบ้างแล้ว
อีกทั้งลู่ยุ๋นหลัวผู้ทำฮวาหมัวนี้ก็ถูกคนพูดถึงกันอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ หลายคนคิดว่าลู่ยุ๋นหลัวบางทีอาจไม่คู่ควรกับตำแหน่งฮองเฮา แต่จากที่ดูตอนนี้ นายหญิงผู้นี้จะต้องเป็นดาวนำโชคแก่พสกนิกรแก่อาณาจักรตงหลานแน่นอน !
โดยเฉพาะพระดำริของพระพันปีหลวงในวันนี้ ขนาดปิ่นมงกุฏหงส์ที่ทรงประดับมานานหลายแรมปีก็ยังพระราชทานให้แก่ลู่ยุ๋นหลัว ซึ่งความหมายก็ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว
เมื่อพูดจนถึงท้ายสุดนายหญิงของตำหนักเย็นท่านนี้ก็แค่ไม่ได้จัดพิธีแต่งตั้งฮ่องเฮาเท่านั้น อ้างอิงตามกฎมณเฑียรบาลแล้ว สถานะปัจจุบันของนางก็เป็นถึงฮองเฮาที่ยังไม่ได้จัดพิธีมอบตำแหน่งฮองเฮาก็เท่านั้น พูดง่าย ๆ ขาดเพียงพิธีเท่านั้นที่ยังไม่ได้จัด
เพียงแต่ฝ่าบาทไม่เคยตรัสถึงเรื่องนี้หรือก็คือยังไม่เคยทรงประกาศเลื่อนชั้นยศ ซึ่งทำให้สถานะของนายหญิงคนนี้ไม่ชัดเจนจนถึงปัจจุบัน
ดูจากตอนนี้แล้ว พิธีแต่งตั้งฮองเฮานี้ก็น่าจะอีกไม่นานแล้ว
หลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุดลง ผู้สูงศักดิ์ฝ่ายหญิงหลายคนยังคงคำนึงถึงการแต่งหน้าของลู่ยุ๋นหลัว ถึงขนาดไปล้อมรอบลู่ยุ๋นหลัวอย่างกระตือรือร้น
“นายหญิง ท่านคิดเช่นไรถึงได้วาดประดับบนหน้าผาก มันช่างงามยิ่งนัก !”
“ใช่เลยเพคะ นายหญิง ท่านยังมีการแต่งหน้าแบบอื่นอีกรึไม่เพคะ ได้โปรดสอนพวกเราด้วยเถอะเพคะ !”
ถ้าไม่ใช่เพราะลู่ยุ๋นหลัวที่ต้องรีบไปหาท่านอ๋องเฉิน ตอนนี้นางก็คงสนทนากับผู้สูงศักดิ์ฝ่ายหญิงเหล่านี้และยังได้เป็นการประชาสัมพันธ์แผนกเสริมความงามของตำหนักเย็นที่กำลังจะเปิดไปในตัวได้อีกด้วย
แต่นางเกรงว่าหากถูกเหนี่ยวรั้งไว้ตรงนี้นานเกินไปก็คงจะตามท่านอ๋องเฉินไม่ทัน ดังนั้นนางจึงได้แต่ยิ้มขอโทษพวกนาง
"ตำหนักเย็นในไม่ช้าจะเปิดตัวแผ่นปิดหน้าที่ช่วยบำรุงความชุ่มชื้นและความขาวกระจ่างใส รวมถึงวิธีการแต่งหน้าต่าง ๆ หากพวกเจ้าสนใจ อย่าลืมติดตามข่าวสารของตำหนักเย็นด้วย"
“ข้ามีเรื่องต้องจัดการต่อในตอนนี้ ข้าเกรงว่าคงจะคุยกับพวกเจ้าไม่ได้แล้ว”
หลังจากพูดจบนางก็รีบแหวกฝูงชนออกไปทันที
น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่านางจะมาช้าไปหนึ่งก้าว นางอุตส่าห์อยู่ที่ประตูพระราชวังตลอด แต่ก็ไม่เห็นร่างของเขา
ในท้ายที่สุดลู่ยุ๋นหลัวก็กลับมาทั้ง ๆ ที่ยังหาตัวเขาไม่สำเร็จ
ช่างมันเถอะ ในเมื่อท่านอ๋องเฉินสัญญากับนางไว้แล้ว ก็ต้องมีแผนอะไรอยู่แล้วเป็นแน่
เมื่อนึกถึงอาการป่วยหนักของท่านตา นางจึงควรกลับไปถามแม่นมโจวให้รู้เรื่องสักหน่อย
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้นางก็รีบเร่งฝีเท้ากลับไปยังตำหนักเย็น
เนื่องจากงานเลี้ยงในวันนี้ จึงมีโคมไฟของพระราชวังอยู่ตลอดระยะทางเป็นช่วงสั้น ๆ บนถนนด้านหน้า
เลยไม่รู้สึกว่าเวลาตอนนี้ท้องฟ้าจะมืดสักเท่าไหร่นัก
เมื่อนางมาถึงถนนส่วนของตำหนักในที่มุ่งสู่ตำหนักเย็น ก็ไม่มีโคมไฟของพระราชวังแล้ว บริเวณรอบ ๆ จึงมืดลงในทันใด
ยังดีที่นางมีประสบการณ์ในการเดินตอนกลางคืนมานานแล้ว ดังนั้นนางจึงหยิบโคมไฟของพระราชวังที่ผ่านมาเมื่อสักครู่ถือติดมือมาด้วย
ขณะที่กำลังเดินอยู่ ลู่ยุ๋นหลัวก็ได้ยินเสียงที่ชัดเจนมากดังมาจากข้างหลังนาง และเมื่อหันมองกลับไปอย่างไม่รู้ตัว ก็เห็นกระบี่ยาวเล่มหนึ่งพุ่งแทงมาที่นางอย่างรวดเร็ว
ลู่ยุ๋นหลัวเห็นเพียงแค่กระบี่เล่มยาวที่แผ่ไอรังสีเย็นยะเยือกพร้อมกับแสงเรืองสีเขียวจาง ๆ บนกระบี่และกลิ่นอายแห่งการล่าสังหารที่เยื้องกรายเข้ามาใกล้นาง
ตายห่า !
กระบี่เล่มนี้อาบยาพิษด้วย !
ใครกันที่เลวทรามและไร้ความปรานีได้เช่นนี้ จิตใจชั่วร้ายฆ่านางได้ลงคอเลยเหรอ ?
ยังไม่ทันได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลู่ยุ๋นหลัวก็ออกวิ่งหนีไปทันที !
แต่เสียงฝีเท้าข้างหลังนางก็เริ่มไล่ตามขึ้นมาเรื่อย ๆ ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานนี้ นางจึงโยนโคมไฟของวังในมือทิ้ง และวิ่งเลี้ยวไปที่โค้งด้วยความเร็วสูงด้านหน้า หลังจากเลี้ยวโค้งนั้นเสร็จวินาทีแรกนางก็หายตัวเข้าไปในมิติพิเศษในทันที
ดูเหมือนตอนที่นางหลบเข้าไปในมิติพิเศษวินาทีนั้น เงาสีดำด้านหลังก็ไล่ตามมาจนทันแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...