ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 120

ลูกท้อเซียนเก้าสิบเก้าชิ้นเก้าชั้นฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาเหล่านี้ นอกจากการเฉลิมฉลองแล้ว แต่ยังเป็นหน้าเป็นตาให้กับพระพันปีหลวงอีกด้วย

งานเลี้ยงวันนี้ แม้ว่าช่วงแรกจะมีฝนตกโปรยปราย แต่ช่วงหลังกลับเปิดโลกทัศน์อันกว้างใหญ่ได้ดีจริง ๆ !

ที่แท้อาหารพวกนี้ก็สามารถทำออกมาให้งดงามตระการตา

ทุกคนเริ่มมีความรู้จักพื้นฐานเกี่ยวกับอาหารใหม่นี้ขึ้นมาบ้างแล้ว

อีกทั้งลู่ยุ๋นหลัวผู้ทำฮวาหมัวนี้ก็ถูกคนพูดถึงกันอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ หลายคนคิดว่าลู่ยุ๋นหลัวบางทีอาจไม่คู่ควรกับตำแหน่งฮองเฮา แต่จากที่ดูตอนนี้ นายหญิงผู้นี้จะต้องเป็นดาวนำโชคแก่พสกนิกรแก่อาณาจักรตงหลานแน่นอน !

โดยเฉพาะพระดำริของพระพันปีหลวงในวันนี้ ขนาดปิ่นมงกุฏหงส์ที่ทรงประดับมานานหลายแรมปีก็ยังพระราชทานให้แก่ลู่ยุ๋นหลัว ซึ่งความหมายก็ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว

เมื่อพูดจนถึงท้ายสุดนายหญิงของตำหนักเย็นท่านนี้ก็แค่ไม่ได้จัดพิธีแต่งตั้งฮ่องเฮาเท่านั้น อ้างอิงตามกฎมณเฑียรบาลแล้ว สถานะปัจจุบันของนางก็เป็นถึงฮองเฮาที่ยังไม่ได้จัดพิธีมอบตำแหน่งฮองเฮาก็เท่านั้น พูดง่าย ๆ ขาดเพียงพิธีเท่านั้นที่ยังไม่ได้จัด

เพียงแต่ฝ่าบาทไม่เคยตรัสถึงเรื่องนี้หรือก็คือยังไม่เคยทรงประกาศเลื่อนชั้นยศ ซึ่งทำให้สถานะของนายหญิงคนนี้ไม่ชัดเจนจนถึงปัจจุบัน

ดูจากตอนนี้แล้ว พิธีแต่งตั้งฮองเฮานี้ก็น่าจะอีกไม่นานแล้ว

หลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุดลง ผู้สูงศักดิ์ฝ่ายหญิงหลายคนยังคงคำนึงถึงการแต่งหน้าของลู่ยุ๋นหลัว ถึงขนาดไปล้อมรอบลู่ยุ๋นหลัวอย่างกระตือรือร้น

“นายหญิง ท่านคิดเช่นไรถึงได้วาดประดับบนหน้าผาก มันช่างงามยิ่งนัก !”

“ใช่เลยเพคะ นายหญิง ท่านยังมีการแต่งหน้าแบบอื่นอีกรึไม่เพคะ ได้โปรดสอนพวกเราด้วยเถอะเพคะ !”

ถ้าไม่ใช่เพราะลู่ยุ๋นหลัวที่ต้องรีบไปหาท่านอ๋องเฉิน ตอนนี้นางก็คงสนทนากับผู้สูงศักดิ์ฝ่ายหญิงเหล่านี้และยังได้เป็นการประชาสัมพันธ์แผนกเสริมความงามของตำหนักเย็นที่กำลังจะเปิดไปในตัวได้อีกด้วย 

แต่นางเกรงว่าหากถูกเหนี่ยวรั้งไว้ตรงนี้นานเกินไปก็คงจะตามท่านอ๋องเฉินไม่ทัน ดังนั้นนางจึงได้แต่ยิ้มขอโทษพวกนาง

"ตำหนักเย็นในไม่ช้าจะเปิดตัวแผ่นปิดหน้าที่ช่วยบำรุงความชุ่มชื้นและความขาวกระจ่างใส รวมถึงวิธีการแต่งหน้าต่าง ๆ หากพวกเจ้าสนใจ อย่าลืมติดตามข่าวสารของตำหนักเย็นด้วย"

“ข้ามีเรื่องต้องจัดการต่อในตอนนี้ ข้าเกรงว่าคงจะคุยกับพวกเจ้าไม่ได้แล้ว”

หลังจากพูดจบนางก็รีบแหวกฝูงชนออกไปทันที

น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่านางจะมาช้าไปหนึ่งก้าว นางอุตส่าห์อยู่ที่ประตูพระราชวังตลอด แต่ก็ไม่เห็นร่างของเขา

ในท้ายที่สุดลู่ยุ๋นหลัวก็กลับมาทั้ง ๆ ที่ยังหาตัวเขาไม่สำเร็จ

ช่างมันเถอะ ในเมื่อท่านอ๋องเฉินสัญญากับนางไว้แล้ว ก็ต้องมีแผนอะไรอยู่แล้วเป็นแน่

เมื่อนึกถึงอาการป่วยหนักของท่านตา นางจึงควรกลับไปถามแม่นมโจวให้รู้เรื่องสักหน่อย

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้นางก็รีบเร่งฝีเท้ากลับไปยังตำหนักเย็น

เนื่องจากงานเลี้ยงในวันนี้ จึงมีโคมไฟของพระราชวังอยู่ตลอดระยะทางเป็นช่วงสั้น ๆ บนถนนด้านหน้า

เลยไม่รู้สึกว่าเวลาตอนนี้ท้องฟ้าจะมืดสักเท่าไหร่นัก

เมื่อนางมาถึงถนนส่วนของตำหนักในที่มุ่งสู่ตำหนักเย็น ก็ไม่มีโคมไฟของพระราชวังแล้ว บริเวณรอบ ๆ จึงมืดลงในทันใด

ยังดีที่นางมีประสบการณ์ในการเดินตอนกลางคืนมานานแล้ว ดังนั้นนางจึงหยิบโคมไฟของพระราชวังที่ผ่านมาเมื่อสักครู่ถือติดมือมาด้วย

ขณะที่กำลังเดินอยู่ ลู่ยุ๋นหลัวก็ได้ยินเสียงที่ชัดเจนมากดังมาจากข้างหลังนาง และเมื่อหันมองกลับไปอย่างไม่รู้ตัว ก็เห็นกระบี่ยาวเล่มหนึ่งพุ่งแทงมาที่นางอย่างรวดเร็ว

ลู่ยุ๋นหลัวเห็นเพียงแค่กระบี่เล่มยาวที่แผ่ไอรังสีเย็นยะเยือกพร้อมกับแสงเรืองสีเขียวจาง ๆ บนกระบี่และกลิ่นอายแห่งการล่าสังหารที่เยื้องกรายเข้ามาใกล้นาง

ตายห่า !

กระบี่เล่มนี้อาบยาพิษด้วย !

ใครกันที่เลวทรามและไร้ความปรานีได้เช่นนี้ จิตใจชั่วร้ายฆ่านางได้ลงคอเลยเหรอ ?

ยังไม่ทันได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลู่ยุ๋นหลัวก็ออกวิ่งหนีไปทันที !

แต่เสียงฝีเท้าข้างหลังนางก็เริ่มไล่ตามขึ้นมาเรื่อย ๆ ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานนี้ นางจึงโยนโคมไฟของวังในมือทิ้ง และวิ่งเลี้ยวไปที่โค้งด้วยความเร็วสูงด้านหน้า หลังจากเลี้ยวโค้งนั้นเสร็จวินาทีแรกนางก็หายตัวเข้าไปในมิติพิเศษในทันที

ดูเหมือนตอนที่นางหลบเข้าไปในมิติพิเศษวินาทีนั้น เงาสีดำด้านหลังก็ไล่ตามมาจนทันแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น